สรุปตอน บทที่ 923 เปิดกะโหลก สังเกตผ่าตัดสมอง – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 923 เปิดกะโหลก สังเกตผ่าตัดสมอง ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางซึ่งผิดปกติของฝู่หลิน นางกุมมือของฝู่หลินไว้และกล่าวจากใจจริง “ยินดีกับเจ้าด้วย เวลานี้เจ้าพ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าสามารถรักษาขาและชีวิตของเจ้าเอาไว้ได้”
ในการต่อสู้กับโรคร้าย ในที่สุดฝู่หลินก็เป็นฝ่ายชนะ ในฐานะหมอคนหนึ่ง เมื่อได้เห็นปาฏิหาริย์ดังกล่าวเฟิ่งชิงเฉินก็รู้สึกยินดีกับฝู่หลินจากใจจริง
ท้ายที่สุด ไม่ใช่ว่าคนไข้ทุกคนจะโชคดีเหมือน อย่างน้อยจากการที่นางเป็นหมอมาหลายปี นางก็ได้เจอเหตุการณ์แบบนี้สักครั้งหนึ่ง
“ขอบคุณเจ้ามาก” ฝู่หลินไม่ได้ยินว่าเฟิ่งชิงเฉินพูดอะไรออกมา จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับการจับมือของเฟิ่งชิงเฉิน สัมผัสอันนุ่มนวล ความเย็นที่หลังมือ และความอบอุ่นของฝ่ามือ ทำให้รู้สึกสดชื่นในหัวใจ
“มิต้องขอบคุณข้า ข้ามิได้ทำอะไร ทั้งหมดเป็นผลจากความพยายามของตัวเจ้าเอง หากใช่เพราะความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตรอดและร่างกายอันแข็งแกร่ง เจ้าก็คงมิสามารถแบกรับมันไว้ได้” แน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกองวัสดุยาล้ำค่าจากพระราชวัง หากขาดสิ่งเหล่านี้ไป แม้ว่าฝู่หลินอยากจะมีชีวิตรอดสักแค่ไหนมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้
แรงจูงใจเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแค่มีแรงจูงใจก็จะทำให้มีชีวิตรอดต่อไปได้ มันจำเป็นต้องมีทรัพยากรในการรักษาที่เพียงพอด้วย ไม่เช่นนั้นก็ไม่อาจมีชีวิตรอดต่อไปได้
หลังจากเฟิ่งชิงเฉินพูดจบ นางดึงมือออก ฝู่หลินรู้สึกหลงทาง เขาลดมือลงและกำหมัดอย่างเงียบ ๆ โดยคงความรู้สึกสัมผัสไว้ชั่วขณะ
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้คิดอะไรมาก ปล่อยมือของฝู่หลิน หันไปหาหมอหลวงทั้งสามคนพร้อมกล่าวว่า “ท่านทั้งสาม ใต้เท้าฝู่ฟื้นแล้ว พวกท่านลองดูว่าจำเป็นต้องตรวจชีพจรอีกหรือไม่ และหลังจากนี้จะรักษาต่อไปอย่างไร จำเป็นจะต้องวางแผนออกมาหรือไม่”
“ขอรับ ขอรับ แม่นางเฟิ่ง ที่แม่นางเฟิ่งพูดก็มีเหตุผล” เฟิ่งชิงเฉินช่วยให้ความอึดอัดใจของหมอหลวงทั้งสามคนลดลง หมอหลวงทั้งสามคนรีบดึงสติกลับคืนมา เข้าไปวัดชีพจรให้กับฝู่หลินและหารือเกี่ยวกับการจ่ายยา
พวกเขาทั้งสามทำสิ่งนี้อย่างใจจดใจจ่อ พยายามข้ามผ่านเหตุการณ์ซึ่งน่าอับอายเมื่อสักครู่ไปให้ได้ ฝู่หลินเองก็ไม่ได้อยากพูดอะไรมาก นอนเปลือยกายท่อนบนปล่อยให้หมอหลวงทั้งสามล้อมรอบเขา แต่สายตาของเขากลับมองผ่านหมอหลวงทั้งสามไปยังเฟิ่งชิงเฉิน
เขาอยากรู้เหลือเกินว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่ใช่จักรพรรดิ เขาไม่เชื่อว่าหลานจิ่วชิงจะขุดเรื่องการตายของเจ้าเมืองเย่เฉิงขึ้นมาเพื่อชำระล้างความคับแค้นในใจของเฟิ่งชิงเฉิน ซึ่งเฟิ่งชิงเฉินไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
ฝู่หลินมั่นใจเป็นอย่างมากว่าเฟิ่งชิงเฉินเข้าใจเรื่องการตายของเจ้าเมืองเย่เฉิงเป็นอย่างดี เข้าใจว่าเขาเป็นคนโยนความผิดให้กับเฟิ่งชิงเฉิน แต่เหตุใดภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวเฟิ่งชิงเฉินยังยอมช่วยชีวิตเขาไว้โดยไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้
เขาพอจะมองออก แม้เฟิ่งชิงเฉินจะไม่ได้มีความสุขสักเท่าไหร่ แต่นางก็ไม่เคยคิดร้ายกับเขาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้
“ช่างเป็นผู้หญิงที่ขัดแย้งกันเสียเหลือเกิน” สุดท้ายฝู่หลินทำได้เพียงพูดออกมาเท่านี้
ฝู่หลินสามารถรักษาของเขาไว้ได้อย่างปลอดภัย จักรพรรดิมีความสุขมาก ในวันนั้นเขาได้มอบรางวัลมากมายให้แกเฟิ่งชิงเฉิน แต่เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้รับมันไว้ นางนำให้เหล่าหมอหลวงไปแบ่งกัน เนื่องจากที่ฝู่หลินรอดมาได้ก็เพราะหมอหลวงทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม
สองวันที่ผ่านมา เหล่าหมอหลวงที่ได้ใกล้ชิดกับเฟิ่งชิงเฉินต่างคิดว่าคนอย่างเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่เลว ทักษะทางการแพทย์ คุณธรรม และสิ่งซึ่งสำคัญที่สุดคือไม่เห็นแก่ตัว สองผ่านที่พวกเขาได้เรียนรู้อะไรจากเฟิ่งชิงเฉินมาไม่น้อย และทุกอย่างล้วนเป็นทักษะซึ่งสามารถใช้งานได้จริง
นอกจากนี้เฟิ่งชิงเฉินยังไม่โกรธที่พวกเขาเคยโยนความผิดให้กับนาง เป็นหมอที่อายุน้อยถึงเพียงนี้และยังเป็นผู้หญิง พวกเขาเองก็รู้สึกผิดกับสิ่งซึ่งทำลงไป ทำให้หมอหลวงแต่ละคนเป็นมิตรกับเฟิ่งชิงเฉินมากขึ้นเรื่อย ๆ
ร่างกายของหยุนเซียวฟื้นตัวได้ดีมาก ในช่วงเวลานี้ ร้านขายยาของตระกูลหยุนเองก็ค่อนข้างจะมั่นคงและการตั้งครรภ์ของแม่เขาก็ทรงตัวเช่นกัน ทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อหยุนเซียวอารมณ์ดีทุกอย่างก็ดีไปหมด
เมื่อได้ยินข้อความที่เฟิ่งชิงเฉินส่งมา แม้หัวใจจะเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่เขาก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และตอบโต้อย่างสง่างาม จัดการเรื่องในตระกูลและกล่าวว่าจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้
แม้หยุนเซียวจะเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดไว้เป็นอย่างดี แต่เมื่อการผ่าตัดใกล้เข้ามาถึง เขาก็อดที่จะกลัวไม่ได้ นี่คือการผ่าตัดหัวกะโหลก หากมีอะไรผิดพลาดเพียงเล็กน้อยมันก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต
สำหรับเรื่องที่ไม่รู้แน่นอนว่าต้องเกิดความกลัวและความกังวลเป็นธรรมดา ไม่ว่าหยุนเซียวจะสงบแค่ไหนก็อดที่จะรู้สึกประหม่าและไม่สบายใจไม่ได้ เรื่องนี้เฟิ่งชิงเฉินเองก็รู้ดี นางไม่ได้เข้าไปปลอบโยนหยุนเซียวโดยตรง แต่ให้คนไปหาไปหาชุยห้าวถิง ให้เขาไปยังตระกูลหยุน พูดคุยกับหยุนเซียว เพื่อทำให้หยุนเซียวผ่อนคลาย
คนที่รู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะผ่าตัดกะโหลกศีรษะให้กับหยุนเซียวมีอยู่ไม่มาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการแพร่งพรายออกไป อย่างน้อยก็มีหมอหลวงหลายคนที่รับรู้ถึงเรื่องนี้
เนื่องจากมีคนจำนวนมากรับรู้ถึงอาการป่วยของหยุนเซียว หลังจากสอบถามเพียงเล็กน้อยพวกเขาก็รับรู้ได้ว่าเฟิ่งชิงเฉินกำลังจะรักษาให้หยุนเซียว ทำให้หมอหลวงเหล่านั้นถึงกับนั่งกันไม่ติด
ในตอนแรก ตอนที่เฟิ่งชิงเฉินรักษาดวงตาทั้งสองข้างให้กับหวังจิ่นหลิง เวลานั้นก็มีคนมากมายรู้สึกอยากรู้อยากเห็น แต่ภายใต้อำนาจของตระกูลหวังและอวี่เหวินหยวนฮั่วจึงไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง
ครั้งนี้คนจำนวนมากไม่อยากพลาดโอกาสนี้ไป พวกเขาสงสัยในวิธีที่เฟิ่งชิงเฉินรักษาให้หยุนเซียวเป็นอย่างมาก ดังนั้นเหล่าหมอหลวงจึงได้พูดคุยกันว่าควรจะพูดเรื่องนี้กับเฟิ่งชิงเฉินอย่างไรถึงจะยอมให้พวกเขาดูการรักษาที่เฟิ่งชิงเฉินใช้รักษาหยุนเซียว พวกเขารับปากว่าจะแค่ดูและจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...