นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 940

“ปัง!” เสียงดังขึ้น ภายใต้ความคาดหวังของทุกคน กีบม้ากระทบพื้นอย่างมั่นคง ม้าของเฟิ่งชิงเฉินยังคงรุดหน้าต่อไป เวลานั้นหัวใจของทุกคนถึงจะหดตัวลง

“เฟิ่งชิงเฉินทำได้ดีมาก!”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนออกมา เหล่านางสนมที่อยู่ด้านหลังต่างโห่ร้องออกมาอย่างมีความสุข

“งดงามมาก เฟิ่งชิงเฉินบินผ่านไป เคยได้ยินมาว่าเมื่อเฟิ่งชิงเฉินอยู่บนหลังม้า นางจะไม่ธรรมดา ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพียงการกล่าวเกินจริง เมื่อได้เห็นวันนี้ถึงได้รู้ ว่าคนที่พูดถึงเฟิ่งชิงเฉินในวันนั้นยังชื่นชมเฟิ่งชิงเฉินได้ไม่ถึงหนึ่งส่วนเลยด้วยซ้ำ”

“เฟิ่งชิงเฉินช่างกล้าหาญเสียเหลือเกิน แต่นางก็ทำได้ดีมาก” ไท่เป่ากับไท่ฟู่มองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา ผู้เฒ่าสองคนมีความเข้าใจโดยปริยายมาก

ในเวลานี้ผลประโยชน์ส่วนตัวถูกมองข้ามและเกียรติยศของชาติอยู่ตรงหน้า ท้ายที่สุดไม่ว่าจะพูดอย่างไร เรื่องนี้มันก็เป็นการรักษาใบหน้า ทำให้องค์ชายแห่งหนานหลิงได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าสตรีผู้สูงศักดิ์แห่งตงหลิง สตรีแห่งตงหลิงยังมีทักษะในการขี่ม้าที่ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ แล้วทักษะการขี่ม้าของทหารแห่งตงหลิงยังต้องพูดถึงอีกอย่างนั้นหรือ?

เหล่าขุนนางของตงหลิงบ้างก็แสดงความคิดเห็นบ้างก็ไม่แสดงท่าทีในการชื่นชมตงหลิงหรือดูถูกหนานหลิง หนานหลิงจิ่นสิงเองก็จะยิ้มหรือร้องไห้ออกมาไม่ได้ เขาต้องบอกกับทุกคนหรือไม่ว่าเขาเองก็ชื่นชมในตัวชิงเฉิน หวังว่าชิงเฉินจะเป็นผู้ชนะในครั้งนี้?

แน่นอนว่าหนานหลิงจิ่นสิงทำได้แค่คิด หากเขาพูดออกไปจริง ๆ เมื่อกลับไปยังหนานหลิง เขาคงเป็นขี้ปากของเหล่าขุนนางจนตัวตาย และถูกประณามว่าเนรคุณต่อประเทศ

หนานหลิงจิ่นสิงมองผ่านฝูงชน มองตรงไปที่เสด็จอาเก้าและหวังจิ่นหลิงที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ตอนแรกคิดว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้ตื่นตระหนก แต่เมื่อหันกลับมาถึงพบว่า ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนไม่ตื่นตระหนก แต่แค่พวกเขาเสแสร้งเก่งเกินไป

เห็นริมฝีปากที่ยกขึ้นของเสด็จอาเก้า รอยยิ้มอันผ่อนคลายของหวังจิ่นหลิง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฉากที่เกิดขึ้นมาครู่ทำให้ทั้งสองคนกังวลมากแค่ไหน เมื่อเรื่องมันผ่านไปได้ก็เหลือเพียงความชื่นชม แต่แค่พวกเขาเสแสร้งเก่งเกินไปจึงไม่แสดงออกมาให้เห็น

หนานหลิงจิ่นสิงบ่นอย่างเงียบ ๆ และเฝ้ามองเงาสีดำในสนามต่อไป ร่างเงาสีดำออกห่างจากพวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งห่างก็ยิ่งมองไม่ค่อยเห็น มีเพียงองครักษ์ที่มองลงมาจากหอคอยสูงเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นก็ได้ยินเสียงการรายงานสถานการณ์จากพวกเขา

เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางอย่างแท่งไม้ เฟิ่งชิงเฉินจึงสามารถสลัดซูโหยวออกมาได้ในระยะไกล แต่นี่มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร สิ่งกีดขวางพวกนั้นมันไม่ยากที่ม้าจะข้ามผ่าน

และเมื่อมาถึงด่านที่สอง มันเป็นด่านที่ต้องยิงธนู ซึ่งในด่านนี้ซูโหยวเป็นผ่านได้เปรียบและทิ้งห่างเฟิ่งชิงเฉิน

ทักษะการขี่ม้าของเฟิ่งชิงเฉินนั้นไม่ธรรมดา แต่นางไม่ชำนาญในเรื่องของการยิงธนู แม้ว่าจะพิเศษกว่าผู้หญิงทั่วไป แต่เฟิ่งชิงเฉินก็ยิงได้ไม่ไกลมากนัก หลังจากยิงออกไปหลายสิบดอก เฟิ่งชิงเฉินถึงสามารถทำลายสิ่งกีดขวางด้านหน้าทั้งหมดได้ และขี่ม้าฝ่าไป

แม้ซูโหยวจะตามหลังเฟิ่งชิงเฉินมา แต่ซูโหยวก็สามารถผ่านด่านการยิงธนูได้ภายในดอกเดียว และเวลานี้ผู้นำก็เปลี่ยนเป็นซูโหยว ส่วนเฟิ่งชิงเฉินก็กลับไปตามหลัง เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ไม่ว่าจะเป็นไท่เป่าหรือไท่ฟู่ต่างพูดไม่ออก โจวอ๋องเองก็ไม่กล้าส่งเสียงออกมา

“เฟิ่งชิงเฉิน สู้เขา!” เหล่านางสนมที่อยู่ด้านหลังตะโกนให้กำลังใจเฟิ่งชิงเฉิน

“เสด็จอาเก้า เจ้าไม่กังวลบ้างเลยงั้นหรือ?” ชิงอ๋องซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังอย่างนิ่งเงียบมาโดยตลอดจนแทบไม่มีใครรับรู้ถึงตัวตนของเขา จนกระทั่งเขาเอ่ยปากออกมา ทุกคนถึงจะรู้ว่ามีคนผู้นี้อยู่ด้วย

“กังวลอะไร? ก็แค่การละเล่นของเด็กเท่านั้น” เสด็จอาเก้าลูบแหวนหยกบนนิ้วหัวแม่มือของเขาเบา ๆ ราวกับไม่สนใจการประลองที่อยู่เบื้องหน้า

“น้องเก้า นี่คือการประลอง” จักรพรรดิขัดจังหวะอย่างเย็นชา

เสด็จอาเก้าไม่ยอมถอย ตอบกลับไปอย่างเฉยเมย “การประลองที่แท้จริงมันอยู่ในสนามรบ”

“น้องเก้าคิดจะไปสั่งสมประสบการณ์ในสนามรบอย่างนั้นหรือ?” จักรพรรดิถามกลับมาอย่างหน้าเนื้อใจเสือ ขณะเดียวกันก็ต้องการทดสอบความเป็นไปได้ของคำถามนี้

หากเป็นคน “ธรรมดา” การที่จะไปตายในสนามรบนั้นเป็นเรื่องง่ายเสียยิ่งกว่าอะไร โดยเฉพาะคนที่ไม่มีผู้ใกล้ชิดหรือความผูกพัน คนพวกนั้นยิ่งง่ายเข้าไปอีก

“หากมีโอกาส น้องเก้าผู้นี้ไม่มีทางปฏิเสธเป็นแน่” มีเพียงเข้าร่วมสงครามถึงจะสามารถใกล้ชิดกับเหล่านายพล ชักจูงเหล่าทหาร ทุกอย่างล้วนเป็นข้อดี เสด็จอาเก้ารู้ว่าจักรพรรดินั้นระมัดระวังแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะถอย

“ต้องมีโอกาสเป็นแน่” จักรพรรดิหันไปมองหนานหลิงจิ่นสิงซึ่งอยู่ด้านข้าง ทำให้หนานหลิงจิ่นสิงตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา ก้มหน้าลงพื้นเงียบราวกับไม่อยู่ตรงนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ