นี่คือการลงโทษที่โหดร้ายทารุณอย่างยิ่ง ทุก ๆ ครั้งที่จมลงไปใต้น้ำ แรงกดของน้ำเช่นนั้นที่ทำให้สำลักตาย อีกทั้งความรู้สึกจากการขาดอากาศหายใจขณะอยู่ใต้น้ำยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่าความตายกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ทุกขณะ แต่ในเสี้ยววินาทีที่พวกเขากำลังจะไม่มีโอกาสลืมตาอีกครั้งนั้นก็กลับมีลมหายใจเฮือกหนึ่งดึงกลับมา และเมื่อตนคิดว่าได้รอดพ้นมาแล้วก็คงจะมิอยากเผชิญหน้ากับมฤตยูแห่งความตายอีก
ทรมานกันเกินไปแล้ว!
จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามที่เฟิ่งชิงเฉินได้เห็นเมื่อครู่นี้ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็กลับกลายสภาพราวกับลูกหมาตกน้ำไปเสียแล้ว ถ้าจะให้กล่าวว่ามิเห็นใจก็คงจะมิได้ ทว่านางมีสิ่งอื่นอันน่ากังวลใจมากกว่าความเห็นอกเห็นใจอีก “เสด็จอาเก้า ท่านไม่กังวลบ้างหรือว่าเมื่อจบเรื่องไปแล้วพวกเขาจะไม่กลับมาแก้แค้น? การที่จะสืบรู้ว่าหมอคนหนึ่งฆ่าคนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก” แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมิได้ร่ำเรียนแพทย์แผนจีนมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะมิเข้าใจศาสตร์แพทย์แผนจีนเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของหมอพิษกัวเป่าจี้นั้นไม่ว่าพืชพันธุ์ชนิดใดก็สามารถนำมาบดเป็นยาพิษได้ทั้งสิ้น ถ้าหากเขาสามารถผสมสารพิษได้ละก็คนทั้งสำนักของพวกเขาก็คงจะถึงคราวหายนะเป็นแน่
อย่างไรก็ตามการที่ต้องการจะสกัดกั้นมือวางยาพิษชั้นสูงสักคนหนึ่งได้นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่มิง่ายเลยเชียวละ วิธีการที่ดีที่สุดก็คือการสังหารพวกเขาให้หมดสิ้น แต่เมื่อเห็นท่าทีเยี่ยงนั้นของเสด็จอาเก้าแล้วคงไม่คิดที่จะฆ่าพวกเขาอย่างแน่นอน
“มีเจ้าอยู่จะต้องเกรงกลัวอันใดเล่า” เสด็จอาเก้าลูบไล้แหวนหยกที่สวมอยู่บนนิ้วหัวแม่มืออย่างเบา ๆ และนัยน์ตาสีดำเข้มก็สะท้อนแสงเป็นประกาย
“ข้ารึ? มันเกี่ยวอันใดกับข้าเล่า?” นางไม่รู้จักสองคนนี้เลยด้วยซ้ำ
“เจ้าคิดว่าองค์รัชทายาทใช้สิทธิ์อันใดไปลักพาตัวพวกเขามา”
เมื่อเสด็จอาเก้าเอ่ยเช่นนี้ก็ทำให้เฟิ่งชิงเฉินฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ “ท่านจะสื่อว่า......องค์รัชทายาทจงใจใช้เหตุอาการประชวรของพระองค์ จากนั้นก็ขายข้างั้นรึ?”
องค์รัชทายาท ช่างไร้ยางอายเกินไปแล้ว
“มิควรกล่าวว่าองค์รัชทายาทขายเจ้า แต่สองคนนี้ตั้งใจมุ่งร้ายเจ้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว” ยังมีเวลาอีกตั้งหลายวันซึ่งเพียงพอที่จะให้เสด็จอาเก้าเค้นถามถึงจุดประสงค์ในการลงจากภูเขามาของชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ อย่างไรเสียการที่สองคนนี้ปรากฏตัวอยู่ในยุทธจักรอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้น ถ้าเขาไม่ตรวจสอบหาสาเหตุละก็คงจะไม่ปลอดภัยเป็นแน่
ถึงแม้ว่าจะไม่มีองค์รัชทายาทมาเกี่ยวข้อง จะเร็วหรือช้าเฟิ่งชิงเฉินก็ต้องเจอกับสองคนนี้อยู่ดี และการที่ได้เจอกันตอนนี้นั้นสำหรับเฟิ่งชิงเฉินแล้วนับว่าเป็นเรื่องดีเชียวละ
“เพราะอาการป่วยของหยุนเซียวงั้นหรือ?” เมื่อนึกถึงคำพูดของเสด็จอาเก้าที่เคยเอ่ยถึงความตั้งอกตั้งใจศึกษาตำราวิชาแพทย์ของชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ จึงทำให้เฟิ่งชิงเฉินคาดเดาจุดประสงค์ของทั้งคนได้ไม่ยาก
เสด็จอาเก้าพยักหน้าพลางจ้องมองชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ที่ถูกทรมานจนพอควรแล้ว จากนั้นเสด็จอาเก้าจึงโบกมือเพื่อสั่งให้เหล่าชายกำยำที่กำลังลากอวนอยู่นั้นหยุดในทันที แล้วให้ยกชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้ที่อยู่ในน้ำขึ้นมาซึ่งแน่นอนว่าอวนจับปลายังอยู่บนตัวของพวกเขา
“ศิษย์น้อง ชั่วชีวิตของข้ายังมิเคยต้องตกอยู่ในสภาพน่าเวทนาเยี่ยงนี้มาก่อนเลย” ผมเรียวยาวของชื่อเลี่ยนฉุ่ยพันรอบตัวเขา ใบหน้าที่ปราศจากรอยยิ้มนั้นราวกับสิ่งอัปมงคลก็มิปาน เมื่อมองดูแล้วช่างน่าสังเวทยิ่งนัก
“ศิษย์พี่อย่าได้เร่งร้อนใจ เมื่อถึงเวลาข้าจะทำให้คนพวกนี้ต้องเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัสจนเอนกายไม่ได้สิบวันสิบคืนเชียวละ” กัวเป่าจี้ในตอนนี้ก็จนตรอกอย่างถึงที่สุด เพลานี้มิว่าจะมีวิชาความรู้อันใดก็ล้วนเปล่าประโยชน์ทั้งสิ้น สภาพอ่อนแอไร้กำลังจนต้องให้ให้ผู้อื่นฉุดกระชากลากถูให้ลุกขึ้นเดิน
ต่อให้วิชายุทธ์จะสูงเพียงใดก็ตาม หรือจะเชี่ยวชาญวิชาแพทย์สักเท่าไร วิชาพิษจะเก่งกาจมากเพียงใด พวกเขาก็ไร้โอกาสที่จะใช้มันอยู่ดี
“ความจริงแล้วพระบรมวงศานุวงศ์มิสามารถปลุกปั่นเป็นแน่ ทรงแจ้งพระทัยตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกข้าไม่ได้มาพร้อมองค์รัชทายาทผู้นั้นเป็นแน่” ชื่อเลี่ยนฉุ่ยเอ่ยแขวะ ครั้งนี้กัวเป่าจี้มิได้กล่าวเสริม ก่อนที่พวกเขาจะขึ้นเขาไปยุแหย่ปลุกปั่นนั้น องค์รัชทายาททรงเคยตักเตือนพวกเขาไว้แล้วว่าทางที่ดีที่สุดคือมิควรทำเยี่ยงนี้
ส่วนเสด็จอาผู้นั้นของเขาค่อนข้างใจแคบ ถ้าหากไปกระตุกหนวดเขาเข้าละก็ เขาจะทำให้เจ้าเหมือนตายทั้งเป็นเลยเชียวละ
แต่ศิษย์พี่กลับไม่เชื่อ เมื่อองค์รัชทายาทยิ่งห้ามเท่าใด เขาก็ยิ่งอยากขึ้นเขาเพื่อจะไปยุแหย่ปลุกปั่น จนผลสุดท้ายถึงต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ทั้งสองคนถูกลากเข้าไปภายในห้อง อวนจับปลาที่พันอยู่รอบตัวก็ยังไม่ถูกปลดออก ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้มิก็ไม่ปริปากพูดแต่อย่างใด พวกเขาแจ้งใจดีว่าคนเหล่านี้จะรับปฏิบัติตามคำสั่งเพียงเท่านั้น
ทั้งสองนั่งลงบนพื้น และใช้โอกาสนี้เพื่อปรับความเข้าใจ ขณะเดียวกันก็รอให้องค์รัชทายาทที่เสด็จอาเก้ากล่าวถึงมาเสียก่อน อีกทั้งสาเหตุที่เสด็จอาเก้าผู้นั้นมิได้ลงมือฆ่าพวกเขาคิดว่าต้องเป็นเพราะล่วงรู้ถึงสถานะของพวกเขาแล้วเป็นแน่
เสด็จอาเก้าจูงมือเฟิ่งชิงเฉินเดินเข้ามาโดยไม่ปล่อยให้ทั้งสองต้องรอนาน ขณะเดียวกันกัวเป่าจี้และชื่อเลื่อนฉุ่ยนั้นสัมผัสได้เพียงแค่เส้นแสงที่สาดกระทบอยู่เบื้องหน้า ดวงตราพร่ามัว จนกระทั่งเมื่อพวกเขาสามารถปรับสายตาจนมองเห็นอย่างชัดเจนแล้วจึงจับจ้องเรือนร่างของชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ตรงบริเวณจุดย้อนแสง และเบื้องหลังก็ซ่อนเงาแสงสะท้อนจาง ๆ ที่ตกกระทบอันชวนให้รู้สึกเวียนศีรษะ
“ช่างเป็นคู่ที่สง่างามเหมาะสมอย่างมาก......” ชื่อเลื่อนฉุ่ยโพล่งคำชมเชยออกมา เมื่อฉุกคิดได้ว่าตอนนี้ตนตกอยู่ในสภาพสิ้นไร้ไม้ตอกเช่นนี้ก็เป็นเพราะฝีมือของสองคนนี้ จึงชะงักคำพูดชื่นชมแล้วเปลี่ยนเป็นเหยียดหยามทันที “ชายชั่ว......หญิงเลว!”
“หมอเทวดาชื่อเลื่อนฉุ่ย?” แม้เสด็จอาเก้าได้ยินคำพูดเช่นนั้นแต่กลับมิได้โกรธเคียงแต่อย่างใด พลางขานเรียกชื่อของอีกฝ่ายตามตำแหน่งของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...