อ่านสรุป บทที่ 993 ไป,อดหวั่นไหวไม่ได้ จาก นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
บทที่ บทที่ 993 ไป,อดหวั่นไหวไม่ได้ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet นางสนมแพทย์อัจฉริยะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาช้าย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ทำไมงั้นหรือ?
“เจ้ายังมีหน้ามาถามอีกงั้นหรือ?” เห็นใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินอยากจะบีบหน้าของเขาแรง ๆ ดึงไปดึงมา เพื่อระบายความโกรธของนาง
ผู้ชายคนนี้ช่างไร้ยางอายเหลือเกิน
นางรู้สึกสงสารที่เขาทำงานหนัก แต่เขากลับมากลั่นแกล้งนาง......
“เหตุใดข้าต้องละอายด้วย” เสด็จอาเก้าถามออกไปอย่างใจเย็น เห็นเฟิ่งชิงเฉินกัดฟันแน่น เขาก็ถามออกไปด้วยหัวใจอันชั่วร้าย “หรือว่าชิงเฉิน เจ้าหรือว่าเจ้ารู้สึกละอาย?”
“ข้า? เหตุใดข้าต้องละอายด้วย ข้าไม่ได้รู้สึกอะไรสักหน่อย ไม่มีชื่อ ไม่มีแซ่ ใครจะไปรู้ว่าเจ้าเขียนถึงใคร” เฟิ่งชิงเฉินขมวดคิ้วและพูดอย่างดื้อรั้น แต่ใบหูสีแดงของนางเผยให้เห็นถึงความคิดของนางในเวลานี้
แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะหันหลังให้เขา แต่เสด็จอาเก้าก็คาดเดาถึงอาการของเฟิ่งชิงเฉินในตอนนี้ได้ เสด็จอาเก้ายิ้มออกมาพร้อมกล่าวว่า “ชิงเฉิน เจ้าอย่าคิดมาก ข้าก็แค่เขียนเล่นเท่านั้น ไม่ได้เขียนถึงผู้ใด”
เสด็จอาเก้ากุมมือของเฟิ่งชิงเฉินไว้ ตักรังนกตุ๋นใส่ปากตนเอง จากนั้นตักขึ้นมาอีกช้อนและป้อนใส่ปากของเฟิ่งชิงเฉิน
เฟิ่งชิงเฉินเบ้ปาก จากนั้นหันมาหาเสด็จอาเก้าอย่างรวดเร็ว “เขียนเล่น? เจ้าคิดจะหลอกใคร ยังไม่รีบพูดออกมา เจ้าเขียนถึงผู้ใดกันแน่?”
“ชิงเฉินรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?” เสด็จอาเก้าทานรังนกตุ๋นไปพร้อมกับพูดออกมาเชิงหยอกล้อ
“ใครจะไปรู้ เจ้ายังไม่รีบพูดออกมาอีก” ต่อให้รู้ก็จำเป็นต้องให้เสด็จอาเก้าพูดออกมา ไม่เช่นนั้นหากตนเองใส่ความรู้สึกมากเกินไป เช่นนั้นคงไม่ดีแน่
“ได้ ได้ ได้ ข้าพูด ข้าพูดเท่านี้ยังไม่ชัดเจนงั้นหรือ” เสด็จอาเก้าพูดออกมา จากนั้นทานรังนกตุ๋นที่เหลือจนหมด วางถ้วยลงบนโต๊ะหนังสือ นำสิ่งที่ตนเองเขียนขึ้นมาไว้ตรงหน้าหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน
“กังวลแต่กับคนไข้ นอนไม่หลับพลิกตัวทั้งคืนค่ำ พื้นที่แห่งความรักกลายเป็นผุยผง ยิ่งปรารถนาในความรัก ก็ยิ่งไร้ซึ่งวาสนา ชิงเฉิน เจ้าว่าข้าเขียนถึงใครงั้นหรือ*” หลังจากอ่านจบ เสด็จอาเก้าวางศีรษะบนไหล่ของเฟิ่งชิงเฉิน และพูดด้วยความคับแค้นใจ
“ข้า ข้าจะรู้ได้อย่างไร” ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินเป็นสีแดง พยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของเสด็จอาเก้า แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่เกิดผล นางคิดไม่ถึงว่าเสด็จอาเก้าจะอ่านมันออกมาข้างหูของนางเช่นนี้
เสด็จอาเก้าจูบไปตรงต้นคอของเฟิ่งชิงเฉิน จากนั้นพูดอย่างหดหู่ “ชิงเฉิน เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไร ว่าข้ายิ่งปรารถนาในความรัก ก็ยิ่งไร้ซึ่งวาสนา”
ลมหายใจที่แผดเผาพ่นรดต้นคอ เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเพียงมีความร้อนไหลออกมาจากช่องท้องส่วนล่าง แก้มของนางร้อนผ่าว นางดีใจมากที่ได้นั่งหันหลังให้เสด็จอาเก้า ไม่เช่นนั้นนางคงเกรงว่าตนเองคนอดไม่ได้ที่จะกัดฝ่ายตรงข้าม
สิ่งที่ผู้ชายคนนี้เขียนออกมาบนกระดาษ ถือว่ายังไม่เท่าไหร่ เขายังอ่านออกมาให้นางฟัง นางคิดว่าเป็นเพียงความไพเราะ แต่เขายังกลับถามนางออกมาด้วยใบหน้าที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม มันช่าง......
“ชิงเฉิน ข้า......” เห็นเฟิ่งชิงเฉินไม่พูดอะไรออกมา เสด็จอาเก้าจึงเอ่ยปากออกมาอีกครั้ง เฟิ่งชิงเฉินโกรธมาก พูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย “เจ้าไปทางโน้นเลย”
“ชิงเฉินช่างใจร้ายยิ่งนัก” เสด็จอาเก้าเปิดปาก กัดไปยังติ่งหูของเฟิ่งชิงเฉิน ก่อนที่เฟิ่งชิงเฉินจะไม่พอใจ เขาก็กล่าวออกมาอีกครั้ง “รักตั้งแต่แรกพบ อยากจะสานสัมพันธ์กับเจ้า อยากถามความเห็นของแม่หญิงงาม เจ้าพร้อมจะเป็นและตายไปพร้อมกับข้าหรือไม่ พร้อมจะเป็นและตายไปพร้อมกับข้าหรือไม่ ที่รัก เจ้ายินดีหรือไม่*”
แน่นอน แน่นอนว่านางเต็มใจ
ไม่มีคำสารภาพที่สวยหรู ไม่มีการป่าวประกาศแห่งความรักอันร้อนแรง ไม่มีคำสัญญาว่าจะรักเจ้าไปทั้งชีวิต เพียงแต่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกับเจ้าตลอดไป เรียบง่ายแต่จริงใจ
เมื่อเห็นเสด็จอาเก้าแปลงร่างจากเจ้าชายผู้ชั่วร้ายและมีเสน่ห์ที่ลวนลามสาวงามเป็นขุนนางเลือดเย็นในพริบตา จากที่เฟิ่งชิงเฉินโกรธ นางก็หัวเราะออกมา มันตรงกับคำกล่าวที่ว่า ต้องมีอำนาจเท่านั้นถึงจะได้สิ่งที่ต้องการมาครอบครอง
“นี่เจ้าล้อเล่นกับข้า?” เสด็จอาเก้ารู้สึกไม่พอใจ เขาให้ความร่วมมือถึงเพียงนี้แล้ว
“ข้าจะกล้าทำเช่นนั้นได้อย่างไร ก่อนอื่นพวกเรามาคุยกันก่อนว่าจะเดินทางออกไปอย่างไร” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาอย่างเชื่อฟัง หอมแก้มของเสด็จอาเก้าเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ
เท่านี้เสด็จอาเก้าก็รู้สึกพอใจแล้ว จากนั้นก็อธิบายเกี่ยวกับแผนการที่เขาวางไว้ให้เฟิ่งชิงเฉินฟังเล็กน้อย มันซับซ้อนเป็นอย่างมาก เฟิ่งชิงเฉินเข้าใจเพียงแค่เจ็ดส่วน แต่ก็ไม่เป็นไร ขอแค่นางเข้าใจในสิ่งสำคัญ ตามหลังของเสด็จอาเก้าไป จับมือของเสด็จอาเก้าไว้ อย่าปล่อยมือของเสด็จอาเก้าก็พอแล้ว
หลังจากพูดเรื่องที่เป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาที่พวกเขาต้องเคลื่อนไหว หากไม่เคลื่อนไหวตอนนี้ ท้องฟ้าจะสว่าง เมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้พวกเขาอยากไปจากที่นี่มากแค่ไหนก็คงไม่สะดวก ต่อให้เสด็จอาเก้ารู้สึกเศร้าใจเพียงใด แต่เขาก็ต้องปล่อยเฟิ่งชิงเฉินไปแต่โดยดี
เสด็จอาเก้าได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากโจ่วอัน เขาก็ไม่ได้ให้ผู้ใดติดตามไปทั้งนั้น ดังนั้นเฟิ่งชิงเฉินไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับซุนซือสิง และพวกขององค์รัชทายาทระหว่างการเดินทาง
เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินมาพบกันตรงหน้าที่พักขององค์รัชทายาท อธิบายให้พวกของซุนซือสิงเข้าใจถึงสถานการณ์ตอนนี้ จากนั้นก็อธิบายแผนการของพวกเขาออกไปคร่าว ๆ
ที่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินหนีไปตามลำพังนั้นไม่ใช่เพราะต้องการเอาชีวิตรอด แต่เป็นเพราะต้องการดึงดูดอันตรายที่มีอยู่ออกไป เพื่อไม่ให้องค์รัชทายาทและคนอื่น ๆ ต้องตกอยู่ในอันตราย
ชื่อเลี่ยนฉุ่ยและกัวเป่าจี้เข้าใจในแผนการของเสด็จอาเก้า แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่อันตราย แต่มันก็ดีกว่านั่งรอความตายอยู่ที่นี่ สถานที่แห่งนี้เทียบกับสถานที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ หากถูกคนของจักรพรรดิค้นพบขึ้นมา อย่าว่าแต่สองชั่วโมงเลย แค่ครึ่งชั่วโมงก็ยากที่จะต้านทานไว้
การที่เสด็จอาเก้าล่อลวงความสนใจของผู้ซึ่งต้องการเอาชีวิตของเขาออกไป มันคือวิธีที่ดีที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...