“ส่วนองค์ชายหก สถานการณ์ของเขาปกติดี เหมาะสมกับคนปกติ”
พูดจบ หยุนหลิงก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ พูดด้วยน้ำเสียงหลอกล้อว่า
“แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ พลังจิตขององค์ชายหกก็เหนือกว่าตวนอ๋องมาก พิสูจน์ได้ว่าเขาแกร่งกว่าตวนอ๋องมาก”
นั่นก็หมายความว่า นิสัยขององค์ชายหกไม่ได้ดูอ่อนแอขี้กลัวเหมือนที่เห็นกัน
เซียวปี้เฉิงฟังความหมายนั้นออก ในใจก็รู้สึกสับสน เพราะสายตาที่กลัดกลุ้มและหดหู่ก็มีความแปลกใจมาแทนที่
“ถ้าเป็นตามที่เจ้าพูด คนที่ไร้เดียงสาที่สุดก็คือพี่ใหญ่น่ะสิ?”
หยุนหลิงพูดอย่างไม่เกรงใจว่า “ไม่งั้นจะโดนฉู่หยุนหานหลอกได้ยังไงล่ะ ก็เพราะโง่ไง”
เมื่อกี้ภายในห้องนี้ พลังจิตของตวนอ๋องต่ำที่สุดแล้ว คนแบบนี้เหมาะเป็นฮ่องเต้ก็บ้าน่ะสิ
เซียวปี้เฉิงได้ยินแล้วก็กระตุกมุมปาก รู้สึกผิดขึ้นมา
“……นิสัยของพี่ใหญ่อ่อนแอ แต่ข้าก็ไม่คิดว่า เขาจะเทียบกับพระชายาเสียนไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“ใครใช้ให้ฮองเฮาปกป้องเขาเหมือนไข่ในหินแบบนั้นล่ะ ไม่เคยโดนฝนโดนลมกับเขามาก่อน”
หยุนหลิงหัวเราะเยาะตวนอ๋องเสร็จ ก็เห็นเซียวปี้เฉิงทำหน้าอ่อนเพลีย ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเบาๆ
“ทำไมสีหน้าเจ้าดูแย่ลงล่ะ?”
เซียวปี้เฉิงรู้สึกง่วงขึ้นมา “ไม่รู้ว่าทำไม ช่วงนี้ข้ารู้สึกเหนื่อยมากเลย เหมือนนอนไม่พอตลอดเวลา”
พูดจบ เซียวปี้เฉิงก็รู้สึกไม่เข้าใจ ตอนนั้นที่อยู่ในสงครามชายแดน เขาเคยสู้รบสองวันสามคืนติดกันโดยไม่นอนเลย หรือว่าสองปีมานี้อยู่ในจวนสบายเกินไป ทำให้ป่วยเป็นโรคคุณหนูขึ้นมา
เหนื่อยง่ายชอบนอน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ