หยุนหลิงไม่รู้ หากให้เหลียนฮูหยินรู้ว่ากำยานดับวิญญาณนี้ ไม่เพียงไม่เอาชีวิตนาง ทั้งยังถูกนางเห็นเป็นของที่ช่วยในการหลับ แยกแยะส่วนผสมและปริมาณอันซับซ้อนออกมาอย่างง่ายดายแล้ว เกรงว่าคงต้องโมโหจนลาจากโลกนี้ไปแน่
นางขมวดคิ้ว ดวงหน้าครึ่งที่เกลี้ยงเกลาดั่งหยกขาวไขมันแพะชวนให้หลงใหล ส่วนอีกครึ่งที่มีปานแดงเข้มอยู่นั้น กลับสยดสยองยิ่งกว่าภูตผีอสุราสามส่วน
สายตาของเซียวปี้เฉิงทอดตกตรงปานปลอม อารมณ์หนักอึ้งสองส่วนอย่างห้ามไม่อยู่ ถอนหายใจ
“ข้าหวังจริงๆ ว่าเจ้าจะสามารถเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงได้ในเร็ววัน”
หยุนหลิงเลิกคิ้วงาม เอ่ยหยอก “อย่างไร รังเกียจที่ข้าอัปลักษณ์ให้เจ้าเห็นหรือ หรือว่ารังเกียจที่ข้าขายหน้า”
เซียวปี้เฉิงหลุดหัวเราะ “เจ้ารู้ว่าข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น”
เขาแค่ไม่อยากให้หยุนหลิงต้องถูกคนในเมืองหลวงวิพากษ์วิจารณ์เพราะเรื่องรูปโฉมอีก หนำซ้ำ...โดยแท้แล้วนางคือสตรีที่มีโฉมหน้างามล่มเมือง
เมื่อคิดเช่นนี้ เซียวปี้เฉิงก็ถามเสียงเข้ม “ช่วงก่อนข้าเขียนจดหมายถึงอู่อานกง เชิญเขาผู้เฒ่าเร่งกลับเมืองหลวงให้เร็วที่สุด”
“แม้วิชาแพทย์ของอู่อานกงอาจไม่ล้ำลึกเหมือนเจ้า แต่เขาก็ท่องมาทั่วแดน พบเห็นมามาก ถ้าเจ้าบอกวิธีแก้ด่างพิษเมื่อก่อนหน้านี้กับเขา ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจคิดอะไรออกบ้าง”
ถ้ารู้ชื่อพิษที่หยุนหลิงโดน บางทีก็อาจใช้เบาะแสนี้ตามหาผู้วางยาเบื้องหลังได้
“แล้วเมื่อไรอู่อานกงจะกลับมาล่ะ”
หยุนหลิงมีความอยากรู้อยากเห็นกับตาเฒ่าน้อยในตำนานที่เก่งทั้งวิชาแพทย์และวรยุทธ์ผู้นี้นัก ช่วงก่อน ตอนที่ไท่ซ่างหวงป่วยหนัก เดิมเจาเหรินตี้จะเชิญเขาให้ม้าเร็วลงแซ่กลับเมืองหลวง
แต่ภายหลังพอได้ข่าวว่าไท่ซ่างหวงไม่เป็นอะไรแล้ว เขาก็ไม่รู้ไปทำอะไรอีก ไม่กลับเมืองหลวงสักที
เซียวปี้เฉิงตอบ “อีกไม่กี่วันแล้ว”
หยุนหลิงพยักหน้า ตอนนี้ไม่มีอะไรทำ นางเลยเอาเวลามาวาดภาพหนึ่ง ออกแบบรถเข็นคันใหม่ให้เยียนอ๋อง
น้องเล็กในองค์กรคือยอดฝีมือเรื่องกลไกและฉีเหมิน(*เดิมเป็นทักษะทางการทหาร) หยุนหลิงเคยเรียนกับนางหลายอย่าง
ดังนั้น สำหรับนาง การออกแบบรถเข็นเลียนแบบสมัยใหม่ จึงไม่นับว่าเป็นเรื่องยากมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ