“หยุนเจ๋อ สีหน้าเจ้าดูอ่อนล้ายิ่ง มีที่ลำบากอะไรหรือไม่”
ขอบตาของฉู่หยุนเจ๋อคล้ำนิดๆ เซียวปี้เฉิงเห็นแล้วจึงถามด้วยความเป็นห่วงนิดหน่อย
“ตอนนี้ข้าทำงานที่กรมราชทัณฑ์ ท่านปู่ต้องการให้ข้าเริ่มจากหนึ่ง ก้าวอย่างมั่นคง สั่งสมประสบการณ์ ทีแรกข้าไม่คิดอาศัยท่านปู่คุ้มครอง ความจริงนี่ก็ไม่มีอะไร เพียงแต่ลูกหลานสกุลเฟิงสองสามคนนั่นหาเรื่องข้าหลายครั้ง ข้าจึงต้องเหนื่อยกับพวกเขาไม่น้อย”
เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้วนิดๆ นึกได้ว่ากรมราชทัณฑ์เป็นกองกำลังของเสนาบดีฝ่ายซ้ายเฟิงมาตลอด
“คงเป็นเพราะเรื่องของเฟิงเหยียน สกุลเฟิงก็เลยมีความแค้นกับจวนเหวินกั๋วกง”
ก่อนหน้านี้เฟิงเหยียนมีเรื่องกับเขาสองสามครั้ง ถัดมาก็เป็นเรื่องงูพิษ เขากับหยุนหลิงไม่ยอมช่วย บัดนี้เจ้านั่นนอนติดเตียงกึ่งอัมพาต อาศัยน้ำแกงยารักษาลมหายใจ
เฟิงเหยียนเป็นพวกเสเพล ไม่ได้รับความสำคัญจากเสนาบดีฝ่ายซ้ายเฟิงเท่าไร แต่อย่างไรเขาก็คือหลานชายในภรรยาเอกของเสนาบดีฝ่ายซ้ายเฟิง
ฉู่หยุนเจ๋อยิ้มอย่างไม่มีความหมาย ทว่าในใจกลับแวบไอเย็น “ศัตรูมาอย่างไรก็ป้องกันอย่างนั้น สรุปแล้วข้าไม่กลัว เขาซ่อนงูพิษร้ายอยู่ในกล่องของขวัญ บัดนี้ก็ได้รับผลกรรมแล้ว!”
หากทำร้ายถูกหยุนหลิงจริง เพื่อน้องสาว เขาที่เป็นพี่ชายก็จะขอสู้สุดชีวิตกับอีกฝ่าย
เซียวปี้เฉิงพยักหน้า แต่กลับเหม่อลอยอยู่บ้าง
เขามีข้อสงสัยหนึ่งมาตลอด เขาพบปะกับเฟิงเหยียนหลายครั้ง และเขาก็คิดว่าตนรู้จักธาตุแท้ของเฟิงเหยียนดีมาก
คนผู้นี้ขี้ขลาดต่ำช้า นิดหน่อยก็ต้องเอาคืน แม้จะใช้อุบายเลวทราม แต่ก็ไม่ถึงกับโหดเหี้ยม
เรื่องที่ซ่อนงูพิษร้ายอยู่ในกล่องของขวัญ...ลักษณะไม่เหมือนเฟิงเหยียนเป็นผู้กระทำ
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่ในใจ บ่าวรับใช้คนหนึ่งก็รีบๆ ร้อนๆ วิ่งมา กระซิบกระซาบกับฉู่หยุนเจ๋อสองสามประโยค
ครู่หนึ่งแล้ว ฉู่หยุนเจ๋อก็ประสานมือขออภัย “พี่ปี้เฉิง กรมราชทัณฑ์มีคดีที่ต้องสะสางด่วน ข้าต้องขอตัวก่อน”
เซียวปี้เฉิงพยักหน้า มองเขาจากไปอย่างรีบร้อน จากนั้นก็เดินอยู่ในสวนตามลำพังระยะทางหนึ่ง
จู่ๆ เขาก็หยุดฝีเท้า สายตามองตรงไปยังเงาร่างหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าไม่ไกล ขมวดคิ้วน้อยๆ
สวนดอกไม้ยามหัวค่ำ ดอกไม้เบ่งบานงดงามใต้แสงจันทร์ สีสันโดดเด่นแย่งกันอวดโฉม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ