องค์ชายาหมื่นพิษ นิยาย บท 14

สายตาที่ฉู่หยุนหานมองฉู่หยุนหลิงมีความเกลียดชังเลื่อนผ่านอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มองไปที่เซียวปี้เฉิงด้วยสายตาคับแค้นใจ

นางไม่เข้าใจ เวลาแบบนี้ทำไมเซียวปี้เฉิงไม่ยืนออกมาช่วยพวกนางสองแม่ลูกพูดสักคำ

ได้ยินว่าผู้ชายปฏิบัติต่อผู้หญิงที่เป็นของตัวเองแล้ว ก็จะเห็นอกเห็นใจเป็นพิเศษ ส่วนฉู่หยุนหลิงคือผู้หญิงคนแรกของเขา

หรือว่าเป็นเช่นนี้จริง ทัศนคติที่เซียวปี้เฉิงมีต่อฉู่หยุนหลิงถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้?

คิดถึงจุดนี้ ฉู่หยุนหานก็กระวนกระวายใจ ยืนไม่อยู่กับที่

เสียดายที่เซียวปี้เฉิงเป็นคนตาบอด ไม่ว่าสายตานางจะเคียดแค้นแค่ไหน ล้วนมองไม่เห็น

ฉู่หยุนหลิงมองดูสภาพจิตใจอันไม่สงบสุขของฉู่หยุนหานมองอยู่ในสายตา มุมปากยิ้มโก่ง

เมื่อเทียบกับเหลียนฮูหยินแม่ของนาง ฉู่หยุนหานยังอ่อนหัดเกินไป ปกติสภาพสูงส่งอย่างกับนางฟ้าบนดิน เจอเรื่องเล็กน้อยนิดเดียวก็กระวนกระวายทันที

โต๊ะใหม่กับน้ำชาอาหารว่างส่งมาอย่างรวดเร็ว ซื่อจื่อเฒ่าต้อนรับเซียวปี้เฉิงในห้องโถงกลาง เฉินซื่อเรียกฉู่หยุนหลิงและฉู่หยุนเจ๋อคุยกันตามลำพัง

ฉู่หยุนหลิงไม่มีครอบครัวตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์ที่มีต่อเฉินซื่อพูดไม่ได้ว่าลึกซึ้งแค่ไหน แต่ในสมองมีความทรงจำเกี่ยวกับนางมากมาย

นี่เป็นแม่คนหนึ่งที่รักลูกสาวมาก

“หลิงเอ๋อร์ เจ้าพูดความจริงกับแม่ จิ้งอ๋องไม่ถือสาเรื่องก่อนหน้านี้แล้วจริงหรือ?”

หยุนหลิงยิ้ม “ข้าวดิบเป็นข้าวสุกแก้ไขไม่ได้แล้ว ถือสาก็ไม่มีประโยชน์ ก็ทำได้เพียงยอมรับ ข้ากับเขาต่างก็เป็นเช่นนี้”

“เช่นนี้.......ท่านอ๋องดีต่อเจ้าหรือไม่?” เฉินซื่อรู้ว่าในใจเซียวปี้เฉิงมีหญิงสาวคนอื่นอยู่

หยุนหลิงขมวดคิ้ว “ไม่ถึงขั้นดี ก็ไม่ได้แย่มาก ก็อยู่กันได้”

สองวันก่อนพวกเขายังตบหน้ากันอยู่เลย แต่วันนี้อยู่หน้าประตู เซียวปี้เฉิงกลับออกหน้าช่วยนางไว้สองครั้ง ก็ถือว่าเสมอกันแล้ว

“ถึงจะไม่รู้ว่าในใจของน้องเขยคิดอย่างไร แต่เขาก็ดีกับหยุนหลิงใช้ได้”​

ฉู่หยุนเจ๋อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าประตูจวนเหวินกั๋วกงหนึ่งรอบอย่างละเอียด

เห็นเฉินซื่อในที่สุดก็วางใจ ฉู่หยุนหลิงก็เก็บรอยยิ้มชั่วคราว น้ำเสียงจริงจัง

“ไม่ต้องเป็นห่วงข้า ท่านแม่ต่างหาก ต่อจากนี้อยู่ในจวน ต้องเอามาดของความเป็นภรรยาเอกของท่านแม่ออกมา อย่าให้เมียน้อยแพศยาคนนั้นเหยียบไปถึงหัวท่าน”

เฉินซื่อขมวดคิ้วอยากพูด หยุนหลิงพูดต่อ “ข้ารู้ว่าในใจท่านแม่คิดอะไร ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง ถึงแม้ท่านตาไม่อยู่แล้ว ท่านก็ยังมีไทเฮาเป็นที่พึ่ง อย่างเรื่องงานแต่งของท่านแม่และท่านพ่อ ในอดีตเป็นไท่ซ่างหวงที่เป็นสื่อให้”​

หลายปีนี้มา เฉินซื่อใช้ชีวิตในจวนเหวินกั๋วกงอย่างระมัดระวัง

ความจริงก็ไม่ใช่ว่าซื่อจื่อเฒ่าไม่ดีต่อนาง เดิมแล้วสองสามีภรรยาก็รักใคร่กันดี เพียงแค่ตั้งแต่ท่านตาเสียชีวิตแล้ว เฉินซื่อคิดถึงตัวเองไร้พ่อไร้แม่ไร้พี่น้อง ก็อดที่จะเกิดความรู้สึกอ้างว้างทุกข์ทรมาน

ด้วยสัญชาตญาณ พลังอำนาจทัศนคติก็อ่อนลงไปเยอะมากต่อหน้าซื่อจื่อเฒ่า เพราะว่านอกจากสามีแล้ว นางไม่มีที่พึ่งคนอื่นแล้ว

ตอนนั้นซื่อจื่อเฒ่ากับเหลียนฮูหยินก็นอนด้วยกันอย่างสับสนวุ่นวายก็ตั้งครรภ์แล้ว ตอนแรกก็ไม่ชอบเหลียนฮูหยิน

ทำอย่างไรได้หลายปีนี้มา เฉินซื่อนิสัยอ่อนแอ ไม่กล้าโมโหไม่พอใจ เหลียนฮูหยินก็น้ำมือเก่งกาจ ถึงทำให้ซื่อจื่อเฒ่าค่อยๆมีใจให้นาง

“พ่อของข้าคนนี้หรือ ไม่ถึงขั้นร้าย ก็คือโง่ไปหน่อย นิสัยเขาเช่นนี้มีเพียงคนสองแบบที่จะรับมือได้ ไม่ก็ตามใจเขาฟังเขาพูดหูทวนลม หรือไม่ก็ต่อต้านเขาให้ถึงที่สุด”

พูดตรงๆก็คือรังแกคนอ่อนแอกลัวคนร้าย ยังรักศักดิ์ศรีมาก ขาดคนจัดการ

“เหลียนฮูหยินทำอย่างแรกแล้ว เช่นนั้นพวกเราก็ทำอย่างหลัง เป็นแม่เสือก็ดีกว่าแกล้งเป็นแมว มิหนำซ้ำแม่ยังมีข้ากับพี่ใหญ่ หากเขายังคิดอยากทำเรื่องเลวทราม ก็ให้ข้ามาจัดการเขาดีๆ!”

เฉินซื่อตื้นตันในใจ อดน้ำตาไหลไม่ได้

ในใจของฉู่หยุนเจ๋อรู้สึกไม่ดี เมื่อก่อนเขาคิดว่าระหว่างแม่กับเหลียนฮูหยินอยู่ด้วยกันได้อย่างดี มิเช่นนั้นทำไมถึงไม่เคยบ่นว่าเลย

ตอนนี้เขารู้แล้ว ท่านแม่ไม่ใช่ไม่มีความคับข้องใจ เพียงแค่ไร้ที่พึ่งไร้คนพูด

เขาคนนี้ที่เป็นลูกชายได้ล้มเหลวมาก หากไม่ใช่หยุนหลิงเตือนเขาต่อหน้าผู้คน เขายังตกอยู่ในภวังค์ภาพจอมปลอมที่เป็นปรองดองกัน

“แม่ หยุนหลิงพูดถูก ต่อจากนี้ลูกชายต้องเป็นที่พึ่งของท่านแม่อย่างแน่นอน ไม่ให้แม่ทนความคับข้องใจแม้แต่น้อย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ