“อ้าก....”
เสียงกรีดร้องอันตื่นตระหนกของหญิงสาวดังทะลุท้องฟ้า
สีหน้าเซียวปี้เฉิงเปลี่ยนไป ตอบสนองอย่างรวดเร็ว คว้าจับหญิงสาวไว้ก่อนจะล้มลงกับพื้น หลังจากคว้าจับเห็นสาวไว้ได้มั่นคงแล้ว ก็ชักมือกลับอย่างรวดเร็ว
เฟิงจิ่นเวยยืนนิ่งด้วยความตกใจ เงยหน้าขึ้นมาเห็นรูปลักษณ์ของเซียวปี้เฉิง แล้วก็อึ้งอยู่กับที่ จ้องมองเขาอยู่นานอย่างไม่สามารถละสายตาได้
เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้ว หญิงสาวแปลกหน้าตรงหน้าคนนี้งดงามอย่างมาก ไม่น้อยไปกว่าฉู่หยุนหานเลย แต่ดวงตาคู่นั้นทำให้รู้สึกไม่สบายอย่างบอกไม่ถูก
เขาปลีกตัวออกห่าง ขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “เจ้าเป็นบุตรสาวบ้านไหน ทำไมถึงได้มาปีนป่ายอยู่ในจวนตวนอ๋อง”
เฟิงจิ่นเวยเรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็ว สายตากะพริบ ใบหน้าปรากฏท่าทีเอียงอาย พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ อับอายต่อหน้าคุณชายแล้ว เมื่อกี้ข้าเห็นนกน้อยตกอยู่ใต้ต้นไม้นี้ จึงอยากจับมันกลับไปไว้ในรัง”
เซียวปี้เฉิงผงกศีรษะ เห็นในมือของนางจับนกน้อยตัวนั้นไว้ จึงพูดขึ้นว่า “เอาให้ข้าสิ”
เฟิงจิ่นเวยพยักหน้าอย่างเอียงอาย มองดูเขาปีนขึ้นไปบนลำต้นไม้อย่างแผ่วเบาราวกับนกนางแอ่น นำนกที่ตื่นกลัวกลับคืนไปไว้ในรัง
“งานเลี้ยงเริ่มแล้ว ไม่ควรที่จะอยู่ที่นี่นาน”
ด้านหลังอุทยานมีคนไปมาเป็นบางครั้ง เซียวปี้เฉิงไม่อยากอยู่ตามลำพังกับหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงานเป็นเวลานาน เห็นหญิงสาวตรงหน้ายังคงจ้องมองตนเองอย่างเหม่อลอย เอาขมวดคิ้วพูดขึ้นประโยคหนึ่งแล้วก็จากไป
คนๆ นี้ทำให้เขามีความรู้สึกที่ลึกซึ้งอย่างสุดจะพรรณนา
อีกฝ่ายไม่เหมือนหยุนหลิง เป็นผู้หญิงประเภทที่เกิดมาพร้อมความงดงามอย่างมาก แต่ที่ไม่เหมือนหยุนหลิงก็คือ มีร่องรอยของความเหลื่อมล้ำและความตรงไปตรงมาในดวงตาของหญิงสาวคนนี้ที่ไม่อาจปกปิดได้ ทำให้เขารู้สึกอึดอัด
รอเมื่อเงาหลังเซียวปี้เฉิงหายลับไปจากสายตา เฟิงจิ่นเวยค่อยได้สติกลับมา แววตาของนางเป็นประกาย พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า
“ปี้ลั่ว เจ้ารู้ไหมว่าผู้ชายเมื่อกี้คนนั้นเป็นใคร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ