หรงฉานค่อยๆกลืนเมล็ดทานตะวันลงคอ ไม่กล้าส่งเสียงเลยสักนิด สองพี่น้องมองสบตากัน ต่างก็ส่งสายตาให้แก่กัน
หยุนหลิงรวบรวมสมาธิลงมือฝังเข็มต่อ สักพักก็เงียบสงบลง ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง นางค่อยถอนเข็มทั้งหมดบนตัวหรงจ้านออกมา
“การปลูกดอกบัวเจ็ดกลีบอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสามถึงสี่เดือน ในระหว่างนี้ ทุกอาทิตย์.....ทุกๆเจ็ดวันให้มาจวนจิ้งอ๋องหนึ่งครั้ง”
หรงจ้านสุขภาพไม่ค่อยดี ถึงแม้จะมีตำรับยาของอู่อานกงช่วยชีวิตไว้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีอาการกำเริบขึ้นมาอย่างกะทันหันเหมือนที่ผ่านมาทุกเมื่อ
เพื่อไม่ให้ก่อนที่ดอกบัวเจ็ดกลีบจะเติบโต แล้วหรงจ้านเสียชีวิตลง เพื่อความปลอดภัยหยุนหลิงตัดสินใจที่จะทำการฝังเข็มให้เขาเป็นประจำ
“รบกวนพระชายาจิ้งแล้ว”
หรงจ้านรีบสวมเสื้อ แต่เมื่อคิดถึงภาพที่เมื่อกี้เซียวปี้เฉิงบุกเข้ามา ท่าทีแลดูทำตัวไม่ถูก
หยุนหลิงโบกมืออย่างสงบเรียบเฉย มองไม่เห็นถึงความโกรธเคืองที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เลย
“เวลาก็ค่ำแล้ว ทั้งสองอยู่ทานข้าวเย็นก่อนค่อยกลับไหม”
หรงจ้านอยากปฏิเสธ เซียวปี้เฉิงกลับส่งลู่ชีมาบอกว่า
“พระชายา อาหารเย็นจัดเตรียมเสร็จแล้ว หรงซื่อจื่อกับพระชายาตวนสามารถทานอาหารได้ตอนนี้เลย”
หยุนหลิงตกใจ จ้องมองดูลู่ชี พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมเจ้าโผล่ออกมาอย่างกะทันหันแบบนี้ ใครให้เจ้าแอบเฝ้าอยู่ที่นี่”
ได้ยินน้ำเสียงอันรังเกียจของหยุนหลิง ลู่ชีเม้นริมฝีปาก ท่าทีแลดูน่าสงสาร
“ท่านอ๋องสั่งให้ข้าเฝ้าอยู่ที่นี่ ท่านอ๋องบอกว่า เมื่อหรงซื่อจื่อออกมาจะต้องรั้งไว้ทานอาหารค่ำก่อน จะให้หนีกลับไปก่อนไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นข้าก็จะไม่ได้ทานข้าวเย็น”
เขาเฝ้าอยู่ด้านนอกประตูทั้งบ่าย จนขาชาไปหมดแล้ว ครั้งที่แล้วเขาแอบกินน้ำแกงไก่ของห้องครัวเล็กจนท้องเสีย ยังนั่งในห้องน้ำไม่นานขนาดนี้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ