องค์ชายาหมื่นพิษ นิยาย บท 4

หลังจากหยุนหลิงฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็เจ็บจนอดสูดลมเย็นไม่ได้

เจ้าบอดน่าตายลงมือโหดชะมัด!

เจ้าหมอนี่ต้องจงใจแน่ๆ แค้นที่เจ้าของร่างด่าแม่แท้ๆ ของเขา

แต่คำพูดของเจ้าของร่างก็จี้ถูกใจดำอันตรายเสียเหลือเกิน ใครก็รู้ว่าสำหรับคนส่วนมาก ปกติเจ้าด่าข้าได้ ด่าแม่ข้าไม่ได้

นางเห็นใบหน้าซีกซ้ายของตัวเองบวมเป่งจากการสะท้อนจากกระจกทองเหลืองอันพร่ามัว

ใบหน้าด้านขวามีด่างพิษปื้นเบ้อเร่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้หน้าฝั่งซ้ายยังจะบวมอีก ดูไม่จืดเอาเสียเลย

“คุณหนู! ท่านฟื้นสักที!”

จู่ๆ สาวใช้คนหนึ่งก็พรวดมาที่หน้าเตียง ดวงหน้ากลมดิกเต็มไปด้วยน้ำตา

“...ตงชิง?”

หยุนหลิงตีศีรษะที่ยังมึน จำได้ว่านางเป็นสาวใช้สินเดิมเจ้าสาวที่พามาจากจวนเหวินกั๋วกง รับใช้อยู่ข้างกายนางหลายปีแล้ว

“คุณหนูอย่าตีเจ้าค่ะ ตรงศีรษะยังมีแผลอยู่!”

ตงชิงดึงมือของหยุนหลิงออก กลัวว่านางจะถูกบาดแผลที่หน้าผาก

“ทำไมเมื่อคืนไม่เห็นเจ้าล่ะ?”

คืนวันวิวาห์ สาวใช้ตงชิงที่เป็นสินเดิมเจ้าสาวไม่อยู่ข้างกาย กลับเป็นชิวซวงอะไรนั่นด่าทออยู่ปากประตูตั้งนาน

เมื่อได้ยินคำถาม แววตาของตงชิงก็ซับซ้อน อยากเอ่ยแต่ก็หยุดอีก

นางกัดฟันพูด “...คุณหนู เมื่อคืนคุณชายใหญ่ส่งคนมาบอก ว่าเรื่องที่ท่านมีเรื่องกับจิ้งอ๋องเมื่อคราวก่อนรุนแรงมาก ตอนนี้นายท่านตำหนิฮูหยินว่าอบรมสั่งสอนบุตรสาวไม่ดี ดึงดันจะยกฮูหยินเหลียนขึ้นเป็นผิงชี(*ตำแหน่งสูงกว่าอนุภรรยาแต่ต่ำกว่าภรรยาเอก และไม่ต้องคำนับภรรยาเอก)”

หยุนหลิงเลิกคิ้วนิดๆ “เขาช่างกล้านะ”

นางรู้จากความทรงจำ ว่าจวนเหวินกั๋วกงมีคำสั่งสอนบรรพชนที่สืบทอดมาหลายปี ผู้ชายสกุลฉู่นอกเสียจากอายุเกินสี่สิบแล้วยังไม่มีบุตรชาย มิเช่นนี้จะแต่งอนุภรรยาไม่ได้

แต่บิดาเจ้าของร่างกลับเป็นข้อยกเว้น

ฮูหยินเหลียนเป็นอนุภรรยาเพียงคนเดียวของจวนเหวินกั๋วกง และฉู่หยุนหานก็เป็นบุตรีในอนุภรรยาเพียงคนเดียวเช่นกัน

เหล่าไท่จวินไม่ชอบพวกนางเสมอมา

“คุณหนูอย่าว่านายท่านเลย เรื่องที่ท่านก่อในตอนนี้นั่นแหละถึงเรียกว่า...เฮ้อ!”

ตงชิงซับน้ำตา ทั้งร้อนรนทั้งอับจนหนทาง

“ทีแรกคุณชายใหญ่ให้บ่าวมาบอกท่าน ว่าเข้าจวนจิ้งอ๋องแล้วต้องรู้จักหน้าที่สำรวม จะก่อเรื่องไม่ได้อีกเด็ดขาด จะส่งผลต่อฮูหยินและจวนกั๋วกง ใครจะรู้ว่าท่าน...”

ตงชิงพูดไม่ออกจริงๆ

ต่อให้คิดจนสมองแตก นางก็คิดไม่ถึงว่าฉู่หยุนหลิงจะโพล่งปากด่าทอจิ้งอ๋อง หนำซ้ำยังทำร้ายเยียนอ๋องบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของหวงกุ้ยเฟยอีก

เมื่อคืนตอนที่นางกลับมาได้ยินข่าวก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

“บ่าวรู้ว่าคุณหนูถูกคนปรักปรำได้รับความอยุติธรรมในงานเลี้ยงเทศกาลโคมไฟแต่คุณหนูจะโกรธยังไงก็ทำอย่างนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ!”

ว่าแล้ว น้ำตาที่ตงชิงเพิ่งเช็ดแห้งก็คลออยู่เต็มเบ้าตาอีก

“ท่านเยียนอ๋องยังไม่ได้สติ ท่านอ๋องโกรธจัด บอกว่าถ้าท่านเยียนอ๋องเป็นอะไรขึ้นมา จะนำศพของท่านเข้าวังไปรับผิดกับหวงกุ้ยเฟย”

“ตอนนี้จะทำยังไงดีเจ้าคะ!”

ตงชิงร้อนรนจนหัวหมุน หากฉู่หยุนหลิงเกิดเรื่อง จุดจบของนางที่เป็นสาวใช้สินเดิมเจ้าสาวก็ไม่ต่างกัน

แต่คิดไม่ถึงว่าพอฉู่หยุนหลิงได้ฟังถ้อยคำเหล่านี้แล้ว กลับนวดบ่าอย่างขี้เกียจ ไม่วิตกกังวลหรือหวาดกลัวสักนิด

“วางใจเถอะ เจ้าเด็กนั่นสบายดี”

ก็แค่ถูกพลังวิญญาณบุกเข้าร่างกายเป็นครั้งแรกก็เลยสลบไปเท่านั้น อีกครึ่งวันก็ฟื้นเอง

ปลายนิ้วสัมผัสโดนแผลจากแส้ หยุนหลิง “ซี้ด” เสียงหนึ่ง ขมวดคิ้ว

“ตงชิง ไปเอาน้ำร้อนมาหน่อย ใส่ยาให้ข้า”

หยุนหลิงล้วงยารักษาบาดแผลที่เอามาจากเยียนอ๋องจากอกแล้วยื่นให้นาง “แล้วทำของกินมาให้ข้าหน่อย หิวจะตายชัก”

ตงชิงรับยารักษาบาดแผลมา น้ำตาร่วงรินเปาะแปะ กล่าวถ้อยคำแทบไม่ชัดเจน

“บ่าวอยากทำแผลให้ท่านตั้งนานแล้ว เจ้าสุนัขที่อาศัยบารมีฝูงนั้นบอกว่า...ไม่มีคำสั่งจากท่านอ๋อง ห้ามส่งอาหารกับน้ำร้อนให้ท่าน”

หยุนหลิงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ตักน้ำเย็นมาก็ได้”

นางทนกลิ่นบนตัวไม่ไหวแล้ว ทั้งเหงื่อทั้งฝน แล้วจะปนรอยเลือดอีก

ตงชิงพยักหน้า ไปตักน้ำเย็นสะอาดมาตามที่หยุนหลิงต้องการ ขณะผ่านห้องครัวยังแอบขโมยหมั่นโถวมาอีกสองลูกด้วย

นังเด็กนี่ฉลาดนัก

หยุนหลิงรับหมั่นโถวมาคาบไว้ ปลดเปลื้องอาภรณ์แล้วนอนคว่ำอยู่บนเตียง ให้ตงชิงเช็ดตัวและใส่ยาให้ตน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ