อวบอิ่มนุ่มนิ่ม เหมือนว่าจะไม่ใช่คอ
เขารู้สึกตัวดึงมือกลับ จากนั้นก็ถอยหลังพรวดพราดหลายก้าว แทบอยากจะออกห่างให้ไกลจากหยุนหลิงแปดจั้ง(*1 จั้นเท่ากับ 3.3333333 เมตร) กระทั่งชนกับโต๊ะไม้ที่อยู่ข้างหลังแล้วจึงจะหยุด
“เจ้า...เจ้ามันผู้หญิงไม่รู้จักยางอาย! ในที่โล่งโจ้งเช่นนี้กลับไม่ใส่เสื้อผ้า!”
เสียงฉุนเฉียวของจิ้งอ๋องดังขึ้นในห้อง สีหน้าขมึงตึงของเขาระคนสีแดงจางๆ คล้ายก้นหม้อที่ตบแป้งผัดแก้ม
หยุนหลิงดึงสติกลับ ยักไหล่ สีหน้าเฉยเมย
“เป็นเจ้านั่นแหละที่บุกเข้ามาตอนที่ข้ากำลังใส่ยา ยังกล้าโยนความผิดอีก”
นางหัวเราะเยาะเบาๆ “อีกอย่างก็ไม่ใช่ไม่เคยร่วมหลับนอน ยังทำเป็นไร้เดียงสาอะไรอีก”
ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาเคยหลับนอนกับเจ้าของร่างแล้ว มีความทรงจำอยู่ในหัวนาง
ตงชิงนั่งอยู่กับพื้น อ้าปากกว้างจนยัดไข่ไก่เข้าไปได้ เห็นชัดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่สะเทือนทัศนคติทั้งสาม (*ทัศนคติต่อโลก ชีวิตและคุณค่า)ของนางซึ่งยังเป็นเด็กอย่างมาก
“ฉู่! หยุน! หลิง!”
ใบหน้าเซียวปี้เฉิงบิดเบี้ยว แก้มแดงราวกับกุ้งต้มสุก
เขาไม่เคยรู้สึกโชคดีที่ตนเองตาบอดขนาดนี้มาก่อน มิเช่นนั้นเห็นฉู่หยุนหลิงแล้วต้องนอนฝันร้ายติดต่อกันหลายคืนแน่นอน
ด้านนอกประตู เสียงที่ระมัดระวังของลู่ชีทำลายความเก้อเขินในยามนี้
“ท่านอ๋อง เมื่อครู่มีคนมารายงาน บอกว่าท่านเยียนอ๋องฟื้นแล้วขอรับ”
เซียวปี้เฉิงหมุนตัวจะจากไป
เขาค้นหาปากประตูจากความทรงจำ ขณะที่เขาคิดจะเปิดประตูก็หยุดอีก
“ให้นางใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้!”
“เจ้าค่ะ! บ่าวจะรับใช้คุณหนู...พระชายาใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้!”
ตงชิงตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้นด้วยมือและเท้า หยิบชุดกระโปรงที่อ่อนนุ่มออกมาจากตู้อย่างว่องไว
รอจนหยุนหลิงแต่งตัวเสร็จ เซียวปี้เฉิงจึงหน้าตึงเปิดประตู จากไปด้วยการนำของลู่ชี
วิญญาณของตงชิงที่ตกใจจนเตลิดออกจักรวาลกลับคืนสู่ร่างในที่สุด
“คุณหนู ท่านลงมือลงไม้กับท่านอ๋องได้ยังไงเจ้าคะ! บ่าวก็เพิ่งจะบอกคำกล่าวของคุณชายใหญ่ ท่านทำแบบนี้ แม้แต่จวนเหวินกั๋วกงก็จะคุ้มครองท่านไม่ได้นะเจ้าคะ!”
“คุ้มครองไม่ได้ก็ช่างเถอะ อย่าพูดมาก รีบเทน้ำให้ข้าสักจอกเถอะ”
ไม่ได้ดื่มน้ำทั้งคืน ทั้งยังกินหมั่นโถวติดต่อกันอีกสองลูกใหญ่ หยุนหลิงคอแห้งจะเป็นผุยผงแล้ว
โดยรวมคงคิดว่าหยุนหลิงหมดทางเยียวยาแล้ว ตงชิงจึงมีสีหน้าสิ้นหวัง
“ท่านเยียนอ๋องฟื้นแล้ว เดี๋ยวท่านอ๋องถามความแล้วต้องกลับมาลงโทษคุณหนูแน่ จะทำยังไงดี”
“ลงโทษ?”
หยุนหลิงยิ้มน้อยๆ วางจอกเปล่าในมือ หันไปมองนอกหน้าต่าง หลับตาพัก
“เดี๋ยวเจ้าหมอนั่นก็ต้องมาขอร้องข้าแล้ว”
นี่คุณหนูได้รับความกระทบกระเทือนจนสติฟั่นเฟือนไปแล้วกระมัง
ตงชิงถอนหายใจยาว วิตกกังวล รู้สึกเพียงอากาศด้านนอกเหมือนกับอารมณ์ของตนในตอนนี้เปี๊ยบ
นอกห้อง สายฝนเย็นเยือกไม่ขาดสาย หนาวเหน็บเข้ากระดูก
…
เรือนเยี่ยนหุย
ครั้นเซียวปี้เฉิงย่างเข้าลานบ้าน ขุนนางในบ้านนามเฉียวเย่ก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นใบหน้าเซียวปี้เฉิงมีรอยฝ่ามือใหญ่ๆ สองรอยก็ตกตะลึง
“ท่านอ๋อง ใบหน้าท่าน...”
ไม่รอให้เฉียวเย่ตอบ ลู่ชีก็โพล่งปากขึ้นมาด้วยความคับแค้นเต็มอก
“ใต้เท้าเฉียว พระชายาบ้าไปแล้ว! ไม่เพียงลงไม้ลงมือกับท่านเยียนอ๋อง ตอนนี้แม้แต่ท่านอ๋องก็กล้าตบด้วย! ”
เฉียวเย่อึ้ง คิ้วขมวดมุ่น
เซียวปี้เฉิงโบกมือ “อย่าเพิ่งพูดเรื่องพวกนี้ ไปดูอวี้จือก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง”
เยียนอ๋องฟื้นจากการสลบแล้ว ดูท่าทางไม่ค่อยดีนัก สีหน้าเหมือนกำลังพยายามอดทนกับอะไร
หลินซินกำลังฝังเข็มที่ขาให้เขา ด้านข้างเป็นถังยาแช่เท้าร้อนควันโขมง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ