“ยังมีอีกเรื่อง”
หลังจากฉินเหยียนคิดไปคิดมา เขาก็ถามอีกครั้ง
“หากเจ้ามีเวลา เจ้าหาเวลาเป็นหูเป็นตาให้ข้าเสียหน่อย เรื่องอาณาจักรหลู่ เกี่ยวกับการสร้างโรงต่อเรือ ช่วงนี้พวกเขาล้ำเส้นและดูเหมือนจะมีความสุขมากเกินไปแล้ว”
“เพคะ ฝ่าบาท จะให้ข้าสั่งสอนพวกเขาหรือไม่เพคะ?”
หลิวเชียนเชียนถามอย่างสงสัย
ความจริงแล้วนางไม่พอใจพวกนักธุรกิจที่ไม่รู้จักกาละเทศะเหล่านี้มานานแล้ว แต่นางไม่รู้จะจัดการอย่างไร
ฉินเหยียนส่ายหน้าแล้วพูดว่า
“ยังก่อน ตนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน จิ่วโจวเพิ่งจะถูกควบรวมเข้าด้วยกัน หากอาณาจักรฉินทำอะไรรุนแรงเกินไป จะทำให้ทุกอาณาจักรหันมาตอบโต้ได้”
“เพคะ” หลิวเชียนเชียนพยักหน้าเห็นด้วย
ครั้งนี้ฉินเหยียนคุยกับหลิวเชียนเชียนเป็นเวลานาน หลังจากวางแผนในอนาคตอย่างละเอียดแล้ว ฉินเหยียนก็จากไป
...
ด้านอาณาจักรหลู่ ในเวลานี้มีคนจำนวนมากมารวมตัวกัน
หวังจี้ตงยังคงเป็นแกนนำ และจุดประสงค์ของเขานั้นเรียบง่ายมาก เขายังคงมุ่งเป้าไปที่เสิ่นเฟย
ทุกคนมาที่ห้องโถงและพูดคุยกันอย่างลับๆ
หวังจี้ตงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ทุกท่าน เป็นเพราะความพยายามและความช่วยเหลือของเราทุกคน อู่ต่อเรือเสิ่นซื่อได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แต่ที่แน่ๆ มีเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนแล้วนั่นก็คือ อู่ต่อเรือเสิ่นซื่อต้องย่อยยับลงในเร็วๆ นี้เป็นแน่”
เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินเช่นนั้น พวกเขาแสดงท่าทีมีความสุขออกมา
“ฮ่าๆ เรื่องอู่ต่อเรือเสิ่นซื่อเป็นเรื่องเล็ก เรื่องสำคัญก็คือ ตอนนี้ฉินเหยียนต้องกำลังร้อนรนอยู่แน่ๆ”
คนที่พูดชื่อหยางเหวิน เป็นหนึ่งในเจ็ดเจ้าของอู่ต่อเรือที่สำคัญในอาณาจักร สถานะทางสังคมเขามีอิทธิพลในวงการอู่ต่อเรือเป็นอย่างมาก
“คราวนี้เสิ่นเฟยจบเห่แล้ว!” คนอื่นหัวเราะอย่างเห็นด้วย
“เสิ่นเฟยจะต้องถูกชดใช้ด้วยราคาที่แสนจะเจ็บปวดอย่างแน่นอน!”
“ถูกต้อง! คนที่ชอบกอบโกยผลประโยชน์ให้ตัวเองเช่นนี้ ควรให้เขาได้ลิ้มรสความลำบากเสียให้เข็ด!”
หวังจี้ตงได้ยินเสียงทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ เขาพูดด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้มจางๆ
“ทุกคน ต้องทำให้เสิ่นเฟยได้รับความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเราในตอนนี้ เราต้องให้พวกอาณาจักรฉินรู้ว่า หากคิดอยากจะมีส่วนร่วมในธุรกิจอู่ต่อเรือ พวกเขาควรให้ความร่วมมือกับพวกเราเสียแต่โดยดี”
ทันทีที่เขาพูดจบ มีคนยกมือขึ้นเห็นด้วยทันที พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วพูดว่า
“เถ้าแก่หวังพูดถูก! ข้าเห็นด้วยกับแนวคิดนี้! เช่นนั้นแม้ว่าเสิ่นเฟยจะเก่งแค่ไหนแต่เขายังเด็ก ไม่มีอะไรต้องกังวล”
“อืม พี่หวังพูดถูก”
อีกคนแสดงท่าทีสนับสนุนเช่นเดียวกัน
หวังจี้ตงหัวเราะ จากนั้นหรี่ตาลงแล้วพูดว่า
“ทีนี้ เรามาคุยกันเถิดว่าพวกเราจะร่วมมือกับฉินเหยียนอย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...