“ที่เจ้าพูดมามีเหตุผลมาก แต่ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องไร้สาระ ยังไม่ได้พูดถึงประเด็นหลักเลยว่าเจ้าจะแก้ปัญหาอย่างไร”
ฉินเหยียนพูดอย่างตรงไปตรงมา
เสิ่นเฟยพูดทันที
“ข้ารู้ว่ากลุ่มของหวังจี้ตงได้จัดตั้งคณะกรรมการกลุ่มอู่ต่อเรือขึ้นมา เพื่อต้องการแข่งขันกับเรา”
“ความคิดของข้าคือ ให้พวกเขาดิ้นรนหาวิธีและเมื่อคณะกรรมการอู่ต่อเรือเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น พวกเราจะใช้อำนาจของเรากดดันและนำคณะกรรมการอู่ต่อเรือมาเป็นของเราแทน!”
ฉินเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า
“ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้หวังจี้ตงเชิญเจ้าด้วยใช่หรือไม่? แต่เจ้าไม่อยากร่วมงานกับเขา ถึงได้มาเจรจากับอาณาจักรฉิน?”
“ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ!”
เสิ่นเฟยพยักหน้าและพูดว่า
“แต่ในตอนนั้นที่ข้าปฏิเสธ เพราะข้ารู้สึกว่าพวกเขาต้องการต่อต้านอาณาจักรฉิน กลับกล้าขึ้นราคาในทันที ทั้งหมดนี้พวกเราหาเรื่องลำบากให้ตัวเองแท้ๆ”
“เอ๋? เจ้าไม่เคยคิดพิจารณายอมรับเงื่อนไขของเขาเลยหรือ?”
ฉินเหยียนมองเขาด้วยสายตาสนใจและลองถามเขาต่อไป
“หากเป็นเช่นนี้ พวกเจ้าก็จะผูกขาดอู่ต่อเรือ เมื่อถึงเวลาอาณาจักรต้องการจัดตั้งกองทัพเรือ พวกเราก็ไม่มีทางล้มพวกเจ้าลงได้ อีกทั้งยังจะมีเงินนับไม่ถ้วนเข้ามาให้พวกเจ้านี่?”
เสิ่นเฟยเกาหัวและสับสนเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าจู่ๆ อ๋องเหยียนพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่ออะไรกันแน่
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า
“ฝ่าบาท ที่ท่านพูดข้าเข้าใจ แต่ในใจข้ารู้ดีว่าตนเองสามารถแยกแยะความจริงได้”
ฉินเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นถามด้วยรอยยิ้ม
“เจ้ามั่นใจแค่ไหนว่า เจ้าจะสามารถสร้างธุรกิจอู่ต่อเรือขึ้นมาได้?”
“เอ่อ... เรื่องนี้... ข้าไม่อาจรับประกันได้ แต่ถ้าให้เวลาข้า ข้ามั่นใจเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์พ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นเฟยลังเล
ในความจริงเขารู้ดีว่าความสามารถของเขาทำได้แค่สามบสิบสี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่เพื่อให้อ๋องเหยียนเชื่อในตัวเขา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคุยโวออกไปก่อน
ฉินเหยียนขมวดคิ้วและส่ายหน้า
“เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์นั้นน้อยเกินไป อู่ต่อเรือของเจ้าเกี่ยวข้องไปถึงเรื่องที่ว่าอาณาจักรฉินจะสามารถสร้างอู่ต่อเรือในอนาคตหรือกองทัพเรือที่ยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ เจ้าต้องมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เท่านั้น!”
อะไรนะ?
เสิ่นเฟยเบิกตากว้างมองไปที่ฉินเหยียนด้วยความตกใจ สงสัยว่าตัวเองได้ยินถูกต้องหรือไม่
เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าอ๋องเหยียนจะทะเยอทะยานขนาดนี้
แม้ว่าเขาต้องการห้ามปรามอ๋องเหยียน แต่หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน
ความทะเยอทะยานของอ๋องเหยียนไม่ใช่สิ่งที่เขาควบคุมได้ และถ้าเขาปฏิเสธออกไป อาจจะถูกตีกลับมา
พูดง่ายๆ ก็คือ เขาได้แต่เงียบ
ฉินเหยียนเห็นว่าเขายังก้มหน้าไม่พูดไม่จา เขาเลยเปลี่ยนวิธีการพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...