องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 107

“อ๋องเหยียนทรงมีรับสั่งให้รวบรวมกระโถนของทหารจำนวนหกหมื่นนายในเช้าวันพรุ่งนี้”

ต้าจ้วงและต้าหย่งมองไปที่จ้าวจือหย่าด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“ทำไมกัน?”

จ้าวจือหย่าขมวดคิ้วและพูดว่า

“ไปถามองค์ชายเอง ทั้งเหม็นทั้งสกปรก ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะเอามาทำอะไร”

หลังจากที่จ้าวจือหย่าทำตามคำสั่งเสร็จแล้ว นางหมุนตัวกลับไปเข้าไปยังเต็นท์ผู้บัญชาการเพื่อประกอบเตียงให้ฉินเหยียนนอน

ฉินเหยียนที่เพิ่งล้างเท้าเสร็จ เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของจ้าวจือหย่า จึงยกมุมปากยิ้มเล็กน้อย

“จุดประสงค์หลักไม่ใช่เรื่องเก็บกระโถนหรอก พรุ่งนี้เจ้าพาพวกผู้หญิงนำของที่อยู่ในกระโถนไปเผาเสีย”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าจ้าวจือหย่าแสดงความรังเกียจออกมา ขนาดไม่เผายังเหม็นและสกปรกขนาดนี้ ถ้าเผาแล้วล่ะก้กลิ่นจะเป็นอย่างไรล่ะ

“ข้าไม่ทำ!”

ฉินเหยียนพูดปลอบว่า

“เชื่อฟังข้า นี่เป็นวิธีการเดียวที่จะชนะการสู้รบในครั้งนี้”

“หลังจากแห้งแล้วจะมีก้อนผลึกสีเทาอยู่ที่ก้นหม้อ รวมรวบผลึกเหล่านี้แล้วนำไปบดเป็นผง”

“อีกอย่าง ระหว่างนั้นข้าจะเก็บเถ้าถ่านจากกองไฟมาทำเป็นผงแล้วห่อด้วยกระดาษ พวกของเหล่านี้นำมาใช้ประโยชน์ได้ดีมากทีเดียว”

แม้ว่าจ้าวจือหย่าจะมีสีหน้ารังเกียจ แต่เนื่องจากฉินเหยียนพูดว่าของเหล่านี้มีประโยชน์ นางจึงทำตามที่เขาบอก โค้งคำนับรับคำสั่งอย่างไม่เต็มใจและเดินออกจากเต็นท์ไป

เช้าวันรุ่งขึ้น

ต้าจ้วงและต้าหย่งพาพวกผู้คุ้มกันเดินรวมรวมกระโถน

แม้ว่าผู้คุมกันจะมีท่าทีรังเกียจ แต่เงินที่ฉินเหยียนมอบให้นั้นเป็นเงินก้อนใหญ่มาก

แค่กัดฟัน เดินทำไปก็สิ้นเรื่องแล้ว!

เขาใช้มือข้างหนึ่งบีบจมูก อีกมือถือกระโถนเอาไว้ พูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า

“ไอ้พวกแม่งเอ๊ย ฉี่เหม็นมาก!”

บรรดากระโถนที่รวมรวบมาได้ถูกส่งต่อไปให้พวกหญิงหอโคมเขียวอย่างรวดเร็ว

หลังจากเดินไปกลับสองสามรอบ ในที่สุดก็รวมรวบกระโถนได้ตามจำนวนที่ต้องการ

พูดได้ว่าฉี่ในกระโถนถูกรวมเข้าด้วยกันและเผาบนกองไฟตามวิธีที่ฉินเหยียนบอก

ส่งกลิ่นเหมือนกับว่ามีใครระเบิดห้องน้ำตั้งแต่เช้าลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ

บรรดาหญิงสาวต่างใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดหน้า ปิดปากและจมูก แต่ไม่อาจระงับกลิ่นเหม็นที่อยู่ตรงหน้าได้ พยายามระงับความคลื่นไส้เอาไว้และทำต่อไป

หญิงสาวอีกกลุ่มหนึ่งรวบรวมถ่านที่ถูกเผาจากค่ายทหาร จากนั้นใช้วิธีของฉินเหยียนสกัดผลึกฉี่และเศษเถ้าถ่านออกมาอย่างรวดเร็ว

หลังจากเช้าที่แสนวุ่นวาย กองทัพก็ออกเดินทาง

ฉินเหยียนสั่งให้บดผลึกให้เป็นผงระหว่างเดินทาง

บรรดาผู้หญิงไม่สนใจว่าสกปรกหรือไม่ เริ่มบดทันที หลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก พวกนางบดผลึกและถ่านจนเป็นผง แล้วห่อด้วยกระดาษทันที

จ้าวจือหย่าหยิบผงที่ห่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ฉินเหยียน

“นี่คือสิ่งที่ท่านต้องการหรือ?”

ฉินเหยียนมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ สองสิ่งนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำดินปืน

การสร้างระเบิดในสมัยโบราณจะทำให้คนสมัยก่อนได้เห็นว่าอาวุธร้อนคืออะไรกันแน่!

“ใช่ แยกออกจากกัน วางไว้ในที่ที่ห้ามมีไฟเข้าถึง เข้าใจหรือไม่?”

“เจ้าค่ะ”

“เจ้าไปทำงานเถอะ ข้าจะออกไปเดินเล่น”

ฉินเหยียนออกจากรถม้าและเดินไปยังรถม้าของจ้าวจีเอ๋อร์

“นอนหลับสบายดีหรือไม่ นางทาสหญิงของข้า?”

จ้าวจีเอ๋อร์ที่กำลังบังคับรถม้า จากที่เป็นคนทำอะไรไม่เป็น มีคนคอยประเคนให้ทุกอย่าง นี่ถือว่าเป็นบททดสอบครั้งใหญ่สำหรับนาง

“คนชั่ว เจ้าแกล้งข้า!”

ฉินเหยียนสั่งให้คนนำข้าวและสเบียงอาหารโยนมาให้นาง

“ดูแลให้ดีล่ะ นี่เป็นของหมั้นของเจ้า”

หลังจากสะสมมาเป็นเวลานาน ปริมาณข้าวและเสบียงที่ได้ในหนึ่งวันก็สูงถึงสองร้อยห้าสิบหกจิน

ฉินเหียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เมื่อเขาเห็นจ้าวจีเอ๋อร์แบกข้าว และเดินมาที่รถม้าอย่างทุลักทุเล

กองทัพเดินทางอีกครึ่งวัน ผ่านเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ฉินเหยียนสั่งให้บรรดาหญิงหอโคมเขียวลงจากรถม้า ไปรวมรวมข้อมูลในพื้นที่นั้น

บรรดาหญิงหอโคมเขียวก็เชื่อฟังเป็นอย่างมาก พวกนางทำตัวกลมกลืนกับผู้คนอย่างรวดเร็ว

บนรถม้าที่หรูหราของฉินเหยียน

จ้างจือหย่าถามด้วยความไม่เข้าใจว่า

“องค์ชาย พวกผู้หญิงที่มาจากอาณาจักรจ้าว ท่านแน่ใจหรือว่าพวกนางจะเต็มใจทำงานให้เรา?”

ฉินเหยียนลูบใบหน้าจ้าวจือหย่าอย่างแผ่วเบาและพูดว่า

“เจ้าลองคิดตามข้าดู หากเจ้าเป็นหน่วยกล้าตาย ถูกจับได้ก่อนที่จะลงมือ จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น?”

จ้าวจือหย่าคิดสักพักและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า

“ยอมตายเพื่อแสดงความภักดี!”

“หากไม่ตายเล่า?”

จ้าวจือหย่าสับสนและไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

ทันใดนั้นฉินเหยียนพูดขึ้นมาว่า

“ดูเถิดว่ามนุษย์สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีเพื่อความอยู่รอด มันเป็นสัญชาตญาณของความอยู่รอด”

...

ในเมืองเล็กเมืองนั้น

บรรดาหญิงหอโคมเขียวต่างแยกกันทำงาน จะสังเกตเห็นได้ว่าพวกนางได้อยู่ในทุกๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านน้ำชา ร้านอาหาร หรือในตลาด

หญิงหอโคมเขียวในร้านน้ำชาสั่งชาแก้วหนึ่งและนั่งตั้งใจฟังการสนทนาของคนในร้าน

ในไม่ช้าพวกนางก็รวบรวมข้อมูลได้ทั้งหมด

รีบกลับไปยังกองทัพและรายงานให้กับหลิวเชียนเชียนทีละคน

หลิวเชียนเชียนฉลาดราวกับกรด รีบไปรายงานฉินเหยียน

“เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ!”

“เรื่องอะไร ถึงได้ร้อนรนขนาดนี้?”

หลิวเชียนเชียนกลืนน้ำลายและพูดตะกุกตะกักว่า

“พวกผู้หญิงกลับมาแล้ว บอกว่าร้านข้าวริมถนนปิดทุกร้าน เสบียงหายไปจนหมด ได้ยินว่าถูกย้ายไปเมื่อสองวันก่อน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์