หลังจากเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลอู๋แล้ว
สิ่งที่มองเห็นคือภาพลานบ้านด้านในที่หรูหราอลังการ
มีนกคีรีบูนปลอมตั้งอยู่ภูเขา มีปลากะพงแดงปลอมว่ายอยู่ในน้ำ เสาทุกต้นทำมาจากไม้จินซื่อหนาน ทุกๆ สองก้าวจะเห็นเชิงเทียนทองคำและแจกันดอกไม้แกะสลักที่ทำจากหยก
แม้แต่กระเบื้องปูพื้นที่อยู่ใต้แทบเท้าของพวกเขาก็ยังเป็นอิฐสีทองหรูหราเป็นอย่างมาก
ทหารชั้นดีและไส้ศึกหญิงต่างรออยู่ที่ลานบ้าน ในขณะที่ฉินเหยียนและผู้นำตระกูลอู๋เดินเข้าไปในห้องโถง
การตกแต่งภายในบ้านนั้นหรูหราเป็นอย่างมาก มีเครื่องลายครามและทองสัมฤทธิ์ทุกชนิด เครื่องประดับสีทองและเงิน อีกทั้งยังมีภาพวาดที่มีชื่อเสียง ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าหากรวมสิ่งของเหล่านี้เข้าด้วยกัน สามารถกลายเป็นภูเขาลูกเล็กๆ ได้เลยทีเดียว
ผู้นำตระกูลอู๋นั่งลงตรงที่นั่งหลัก ไม่ได้เรียกเด็กรับใช้ให้นำชามาให้ฉินเหยียนที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้รับแขก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจฉินเหยียนแม้แต่น้อย
เขาพูดด้วยท่าทีหยิ่งยโสว่า
“เจ้าเองก็รู้สถานการณ์ในตอนนี้ดี คิดจะซื้อเสบียงในพื้นที่รอบข้างในรัศมีสองสามร้อยลี้เป็นเรื่องที่ยากมาก”
ฉินเหยียนคนมั่วนิ่มอย่างเจ้าจะไปเข้าใจความหมายที่ข้าต้องการจะสื่อได้อย่างไร เจ้าก็แค่อยากรู้ราคามิใช่หรือ จะมาอ้อมค้อมอยู่ทำไมกันเล่า
“ข้าเข้าใจ ในเมื่อข้ามาขอความช่วยเหลือจากท่าน ข้าไม่มีทางให้ราคาตลาดกับท่านแน่นอน เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ท่านบอกราคาที่ต้องการมา ข้าจะให้ตามที่ท่านต้องการและท่านก็ส่งของให้ข้า ท่านว่าอย่างไร?”
เมื่อเห็นว่าปลาได้กินเหยื่อที่วางไว้แล้ว ผู้นำตระกูลอู๋พูดออกมาอย่างไม่เกรงใจว่า “ข้าวหนึ่งตั้น สองร้อยตำลึง”
ฉินเหยียนคิดว่าตาแก่คนนี้จะขึ้นราคา แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะพูดออกมาตรงๆว่า ข้าวหนึ่งตั้น ขอสองร้อยตำลึง ช่างน่าเสียดายที่เขาพูดออกมาเช่นนั้น
เขาแสร้งทำเป็นลำบากใจและพูดว่า
“โอ้ ราคานี้... สมเหตุสมผลมาก”
ผู้นำตระกูลอู๋ยิ้มเยาะ องค์ชายสิบสี่สมกับเป็นลูกผู้ดีมีเงินเสียจริง หมกตัวอยู่แต่ในพระราชวังไม่รู้เกี่ยวกับค่าครองชีพพื้นฐานของประชาชนเอาเสียเลย
“มองตามสถานการณ์ปัจจุบัน การหาเสบียงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ข้าวหนึ่งตั้น ราคาสองร้อยตำลึงนั้นไม่แพงเลย เช่นนั้นเป็นอันว่าตกลง”
ผู้นำตระกูลอู๋โกหกต่อ หนึ่งตั้น ราคาสองร้อยตำลึง ราคานี้ถือว่าแพงกว่าของทุกอย่างบนโลกนี้ถึงหนึ่งร้อยเท่าเลย เขามองฉินเหยียนราวกับเป็นคนโง่และพูดด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ ว่า
“จ่ายเงินและรับของ”
ท่าทีของฉินเหยียนเปลี่ยนไป เขาพูดอย่างช้าๆ ว่า
“ข้ามาออกรบไม่ได้ติดเงินสำรองมาด้วย เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ท่านเขียนสัญญากู้ยืมให้กับข้าก่อน รอข้าจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จแล้ว ข้าจะจ่ายคืนให้”
ทันใดนั้นผู้นำตระกูลอู๋พลันมีสีหน้าเย็นชา
“เจ้าไม่ได้ทำเงินมา แต่ยังคิดที่จะขอแลกเสบียง พระเจ้า มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ ให้เจ้ามาเอาเปรียบข้าได้ง่ายๆ! ทหาร ส่งแขก!”
ฉินเหยียนพูดอย่างรวดเร็ว
“ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อนไปเลย สัญญากู้ยืมข้าก็มิได้จ่ายเปล่า ข้ามีดอกเบี้ยให้ท่าน”
เมื่อพูดถึงเรื่องเงิน ผู้นำตระกูลอู๋กลอกตา และพูดช้าๆ ว่า
“ให้ดอกเบี้ย? เจ้าจะให้เท่าไหร่?”
“ท่านคิดว่าข้าควรให้ท่านเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...