พ่อบ้านครุ่นคิดแล้วพิจารณาคำพูดของเขาอย่างถี่ถ้วนแล้วพูดว่า
“ราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากการขุดลูกพลัม สะบักสะบอมจนคนเกือบจะจำเขาไม่ได้ เขาอาจจะโชคดีหนีรอดออกมาจากคนอาณาจักรฉินได้ขอรับ”
ผู้นำตระกูลอู๋ขมวดคิ้วแน่นแล้วรีบครุ่นคิด
พ่อบ้านถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “นายท่านขอรับ ไม่แน่ว่าตอนนี้คนอาณาจักรฉินอาจกำลังตามล่าคุณชายจางจวิ้นก็ได้ หากเขาอยู่ที่นี่อาจจะเป็นปัญหา......เราจะไล่เขาออกไปรึไม่ขอรับ?”
“ไร้สาระ อย่างไรเจ้าหนูนั่นก็เรียกข้าว่าท่านลุง หากข้าขับไล่เขาออกไปเช่นนี้แล้วผู้อื่นรู้เข้า ตระกูลอู๋ก็กลายเป็นคนไร้น้ำใจสิ”
“แต่ว่านายท่านขอรับ หากคุณชายจางจวิ้นอยู่ที่ตระกูลอู๋ต่อไป หรือขอให้ตระกูลอู๋ช่วยล้างแค้นขึ้นมา แล้วจะทำอย่างไรขอรับ?”
พ่อบ้านถามคำถามใหญ่ขึ้นมาอีก
ผู้นำตระกูลอู๋รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาทันที หากให้เขาไปเผชิญหน้ากับคนอาณาจักรฉินเช่นนี้เขาก็ไม่มีความกล้านั้น แต่จะทำเป็นไม่สนใจเรื่องนี้ก็คงไม่ได้ เช่นนั้นก็จะถูกหัวเราะเยาะได้
เมื่อคิดดังนั้นแล้วเขาก็กัดฟันแล้วพูดว่า “เช่นนี้แล้วกัน หากเจ้าหนูนั่นอยากจะอยู่ที่ตระกูลอู๋สักระยะก็ให้เขาอยู่ หากเขาอยากจะพบข้า ก็บอกไปว่าข้าไม่อยู่ ไล่เขาไป หากเขาจะจากไปก็ให้เงินสักก้อน เช่นนี้ก็ถือว่าเราเมตตามากที่สุดแล้ว”
“ขอรับนายท่าน” พ่อบ้านตอบรับแล้วถอยไป
อู๋เจี๋ยและจางจวิ้นกินดื่มด้วยกัน อู๋เจี๋ยเหมือนว่าจะมึนเมาแล้ว เขาเอาแต่กอดจางจวิ้นแล้วร้องไห้ขอโทษไม่หยุด
จางจวิ้นรู้สึกขนลุกไปหมด แต่ก็ต้องอดทนต่อไป และจากนั้นอู๋เจี๋ยก็ได้ถามว่าเหตุใดเขาจึงดูทรุดโทรมเช่นนี้ แต่จางจวิ้นก็ได้พูดปัดเรื่องนี้ไป
อู๋เจี๋ยก็เป็นลูกคนร่ำรวยที่นิสัยเสีย เขาไม่ได้สนใจเรื่องใดๆในเยี่ยนเป่ยเลย ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่องของจางจวิ้นในตอนนี้เลย เรื่องที่ตระกูลจางเกิดเรื่องเขาเองก็ไม่รู้เรื่องสักอย่าง
เมื่อดื่มจนมึนเมา อู๋เจี๋ยก็กอดคอของจางจวิ้นแล้วพูดว่า “คุณชายจาง เมื่อก่อนเจ้าคอยดูแลข้า ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะต้องดูแลเจ้าไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เจ้าคอยอยู่ที่นี่อย่างสบายใจเถิด สหายผู้นี้จะพาเจ้าไปเที่ยวอย่างสาแก่ใจ เจ้าห้ามไปไหนทั้งนั้นเชียว”
จางจวิ้นเองก็ตบหน้าอกแล้วรับรอง เขาไม่มีทางจากไปง่ายๆแน่นอน
ทันใดนั้นจู่ๆเขาก็กลอกตาแล้วถามว่า “เจ้าว่าเราสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ เป็นสหายคู่ซี้กันแล้ว เช่นนั้นเรามาสาบานเป็นพี่น้องกันดีรึไม่?”
อู๋เจี๋ยดีใจมาก “ดีอย่างยิ่ง ข้ายินดี!”
เขาไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธเรื่องนี้เลย ประการแรกพวกเขาสนิทสนมกันอย่างยิ่ง ประการสอง สำหรับเขาแล้วจางจวิ้นก็เป็นผู้นำตระกูลจางในอนาคตเชียวนะ ส่วนตระกูลจาง เดิมทีก็แข็งแกร่งกว่าตระกูลอู๋อยู่บ้างแล้ว อย่างไรพวกเขาก็ได้ครอบครองเมืองถูเหอ พัฒนาได้ดีมากยิ่งกว่า
อีกอย่างเขาและจางจวิ้นแตกต่างกัน เขายังมีคนที่คอยแย่งสมบัติอยู่ หากตนเองได้กลายเป็นพี่น้องกับผู้นำตระกูลจางในอนาคตก็เป็นการเพิ่มหมากให้ตนเองไม่ใช่รึ? ความเป็นไปที่จะได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลอู๋ก็มากขึ้น
เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วอู๋เจี๋ยก็รีบยืนขึ้นแล้วดึงมือของจางจวิ้น จากนั้นก็รีบพูดว่า
“ไปกัน เราไปไหว้เทพเจ้ากวนอูกันดีกว่า!”
“ไม่ต้องมากพิธีเพียงนั้นหรอก” จางจวิ้นจงใจทำท่าทีสำรวม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...