องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 147

เมื่อจ้าวจีเอ๋อร์แสดงการร่ายรำที่งดงามเสร็จก็ค่อยๆออกไปจากสนาม

และเสียงปรบมือก็ดังสนั่นขึ้นในสนามทันที

"งดงาม งดงามจริงๆ!"

เมื่อได้ยินเสียงกล่าวชมว่าดี คณะทูตของอาณาจักรจ้าวต่างก็มีสีหน้าเขียวและขาว และตบต้นขาด้วยความอับอายและ โกรธ

"ไร้เหตุผลสิ้นดี มององค์หญิงของอาณาจักรจ้าวของข้าเป็นนางรำ ช่างอัปยศอดสูและเสียเกียรติจริงๆ!"

จ้าวฉี่หมิงมีใบหน้าที่มืดคล้ำตลอดเวลา นี่ยังมิใช่เวลาที่จะโกรธ ขอเพียงรอเมื่อทุกอย่างที่เตรียมมาพร้อมก็จะปราบอาณาจักรกบฏนี้ในคราวเดียว หนามยอกต้องเอาหนามบ่งจึงจะสามารถบรรเทาความเกลียดชังในใจได้

จ้าวจือหย่ากล่าวต่อด้วยเสียงอันดังว่า

"เวลานี้ขอเชิญผู้เล่นทั้งสองฝ่ายเข้าสนาม!"

เมื่อกล่าวจบผู้เล่นชู่จวีของฉินและจ้าวสองอาณาจักรก็เดินเข้ามาในสนามจากสองฝั่ง

ผู้เล่นชู่จวีของอาณาจักรฉินสวมเข็มขัดสีแดงรอบเอว ในขณะที่ผู้เล่นชู่จวีของอาณาจักรจ้าวสวมเข็มขัดสีเขียว ความแตกต่างของสีของเข็มขัดทำให้ผู้เล่นสามารถมองเห็นเพื่อนร่วมกลุ่มได้อย่างรวดเร็วในระหว่างการแข่งขัน เป็นการหลีกเลี่ยงการส่งผ่านลูกหนังผิด

จ้าวฉี่หมิงพินิจไปที่ผู้เล่นชู่จวีของอาณาจักรฉิน แต่ละคนร่างกายกำยำ มองดูก็รู้ว่าเป็นผู้เล่นชู่จวีที่มีฝีมือ

แต่ผู้เล่นชู่จวีของอาณาจักรจ้าวของพวกเขาก็มิได้อ่อนแอ ในนั้นมีทหารนายหนึ่งรูปร่างไม่สูงแต่เขาเป็นผู้เล่นชู่จวีที่มีชื่อเสียง ทักษะการเลี้ยงลูกหนังของเขาก็อยู่ในระดับสูงสุด

จ้าวฉี่หมิงยืนอยู่ริมกำแพงเมืองพลางสั่งด้วยเสียงอันดังและหยิ่งผยองว่า

"ทหารของอาณาจักรจ้าวฟังข้าให้ดี พวกเจ้ามีโทษติดตัวอยู่ การแข่งขันครั้งนี้จะต้องชนะ หากกล้าแพ้จะประหารเก้าชั่วโคตร ไม่เพียงแต่หัวของพวกเจ้าจะย้ายที่เท่านั้นครอบครัวของพวกเจ้าก็จะเดือดร้อนเช่นกัน ได้ยินชัดเจนไหม!"

คำพูดข่มขู่เหล่านี้ทำให้จิตใจของเหล่าเชลยศึกของอาณาจักรจ้าวที่เดิมทีมีขวัญและกำลังใจสูงกลับกลายเป็นท้อแท้

การแพ้ศึกสงครามก็มิใช่สิ่งที่พวกเขาปรารถนา พวกเขายอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน แม้ไม่มีความดีความชอบแต่ก็ยังมีความมานะพยายามกระมัง

ท้ายที่สุดพวกเขามิได้ตายในสนามรบแต่กลับต้องมาตายด้วยน้ำมือของคนในอาณาจักรเดียวกันเพียงเพราะการแข่งขัน พวกเขาแต่ละคนล้วนรู้สึกหดหู่จนแม้แต่น้ำเสียงในการตอบกลับก็อ่อนลงเล็กน้อย

"ขอรับ ข้าน้อยรับคำสั่ง"

ดังคำกล่าวที่ว่าหากปราศจากแรงกดดันก็จะไม่มีแรงกระตุ้น ในเวลานี้ไท่ฟู่ก็มีความกระตือรือร้นเช่นกัน เขาจึงยืนขึ้นและออกคำสั่งด้วยเสียงอันดังว่า

"ทหารแห่งอาณาจักรฉินฟังข้าให้ดีเช่นกัน การแข่งขันชู่จวีครั้งนี้มีแต่ชนะไม่มีแพ้ หากพวกเจ้าแพ้แล้วล่ะก็ จงระวังหัวของพวกเจ้า......"

ยังไม่ทันรอให้ไท่ฟู่กล่าวจบ ฉินเหยียนก็หยิบไม้ตีกลองที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาแล้วเหวี่ยงมันไปที่ศีรษะของไท่ฟู่เพื่อขัดจังหวะคำพูดต่อไปของเขา

"โอ้ย!"

ไท่ฟู่ถูกตีจนมึนงง เขาทรุดลงบนเก้าอี้พร้อมกับกุมศีรษะของตน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์