วันถัดมา เมื่อฟ้าสว่างขึ้นฉินเหยียนก็เดินออกจากเต็นท์ด้วยสีหน้าที่ดี
เมื่อคืนยืดยาวจนดึกดื่น หลิวเชียนเชียนคงหมดแรงแล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่นางมีความสัมพันธ์ คงนอนหลับลึกจนลุกไม่ขึ้นแน่นอน
ฉินเหยียนเองก็ไม่ได้รบกวนนาง ไส้ศึกหญิงทั้งสองช่วยปรนนิบัติฉินเหยียนสวมชุด จากนั้นเขาก็ขี่ม้าสูงใหญ่มาถึงด่านเจียยวี่ด้วยสีหน้ายินดี
เหล่าชาวนาและช่างฝีมือต่างยุ่งกันอย่างมาก พวกเขาได้สร้างหีบลูกศรออกมานับสิบหีบแล้ว
ฉินเหยียนเดินชมรอบหนึ่งแล้วไม่พบจ้าวจือหย่าจึงได้ขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นว่า “จ้าวปั๋วซื่อล่ะ?”
ทหารหัวกะทิรายงานว่า “จ้าวปั๋วซื่ออยู่ที่ห้องใต้หลังคาพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อฉินเหยียนมาถึงห้องใต้หลังคาก็พบว่าจ้าวจือหย่ากำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ นางไม่รู้ตัวเลยว่าฉินเหยียนมาที่นี่ ฉินเหยียนยืนอยู่ด้านหลังของนางแล้วมองปราดหนึ่ง แล้วอ่านออกมาอย่างไม่รู้ว่าตัวว่า
“บันทึกอ๋องเหยียน?”
เมื่อได้ยินเสียงจากด้านหลัง จ้าวจือหย่าก็เงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ เมื่อพบว่าเป็นฉินเหยียนจึงได้รีบลุกขึ้นแล้วทำความเคารพว่า “หม่อมฉันทำความเคารพท่านอ๋องเพคะ”
“ไม่ต้องมากพิธี”
ฉินเหยียนนั่งลงบนเก้าอี้ไท่ซือแล้วหยิบสิ่งที่จ้าวจือหย่าเขียนขึ้นมาเปิดดู จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “เขียนอะไรน่ะ?”
ใบหน้าของจ้าวจือหย่าค่อยๆแดงขึ้น นางอธิบายว่า “ท่านอ๋องก็รู้ว่าหน้าที่ของหม่อมฉันคือผู้ตรวจการสำนักฮั่นหลิน เรียบเรียงบันทึกภายในราชวัง”
“หม่อมฉันมีหน้าที่บันทึกทุกคำพูดและการกระทำของท่าน เพื่อให้ชื่อของท่านถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ต่อไปเพคะ บันทึกอ๋องเหยียนเล่มนี้ได้จดทุกคำพูดและทุกการกระทำของท่านช่วงนี้ไว้ รวมถึงคำตักเตือนที่เป็นนิยมด้วยเพคะ”
ฉินเหยียนเข้าใจแล้ว และพบว่าในสมุดบันทึกนี้จดไว้ละเอียดอย่างมาก ทุกอย่างถูกบันทึกไว้หมด ตั้งแต่สำนักศึกษาหลวง กลอนคู่ คำคมสร้างแรงบันดาลใจในชีวิตประจำวันที่พูดออกมาอย่างนั้น
เขาถามขึ้นว่า “เพียงแค่จดบันทึกไว้มันไม่มีประโยชน์หรอก เจ้าต้องสัมผัสด้วยใจ ว่าแต่เจ้าเข้าใจมากแค่ไหนแล้ว?”
จ้าวจือหย่าประสานมือคารวะแล้วตอบกลับว่า “การกระทำและความคิดของท่านอ๋องล้ำสมัยนัก หม่อมฉันโง่เขลาจึงยังไม่เข้าใจทั้งหมดเพคะ ดังนั้นหม่อมฉันจึงทำการบันทึกคำพูดของท่านอ๋องทุกอย่าง เพื่อที่ภายหลังจะได้อ่านอย่างละเอียด หวังว่าวันใดวันหนึ่งจะได้เข้าใจความรู้ของท่านอ๋องทั้งหมด”
มองขาดเรื่องนับหมื่นพัน เว้นเพียงเรื่องประจบสอพลอ ฉินเหยียนน้อมรับคำชื่นชมนี้อย่างมาก เขามองจ้าวจือหย่าด้วยความโปรดปรานแล้วช่วยปัดผมของนางไปด้านหลัง พร้อมพูดอย่างอ่อนโยนว่า
“ความคิดไม่เลวเลย เจ้าสร้างอัตชีวประวัติของข้าให้โดยการบันทึกทุกคำพูดและทุกการกระทำของข้าลงไป บันทึกว่าข้าสร้างกลยุทธ์การเมืองสามัคคีกลุ่มเป็นประโยชน์ และสร้างความแตกสามัคคีในกลุ่มศัตรูได้อย่างไร เพื่อเยาะเย้ยทุกคน ฮ่าๆๆ”
จ้าวจือหย่าย่อตัวคำนับแล้วพูดว่า “เพคะ หม่อมฉันจะไม่ทำให้ท่านอ๋องต้องผิดหวังเพคะ”
ความสามารถทางวรรณกรรมจ้าวจือหย่าดีอย่างไม่ต้องสงสัยเลย นางทำหน้าที่อย่างเป็นระเบียบ ทำให้ฉินเหยียนวางใจมาก
“จริงสิ ที่ข้ามาหาเจ้าเพราะอยากให้เจ้าช่วยเรื่องสำคัญอีกเรื่อง” ฉินเหยียนพูดเข้าประเด็นในที่สุด
“ให้ข้าช่วยรึเพคะ” จ้าวจือหย่าตะลึงอย่างดีใจ นางคุกเข่าลงแล้วประสานมือคารวะอย่างตื่นเต้น
“ท่านอ๋องรับสั่งมาได้เลยเพคะ หม่อมฉันจะไม่ปฏิเสธแม้จะตายเป็นหมื่นๆครั้งเพคะ”
“เฮ้อ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่เพียงนั้นหรอก รีบลุกขึ้นมาเถิด”
ฉินเหยียนดึงแขนของจ้าวจือหย่าขึ้นแล้วดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...