ต้าหย่งถือสาส์นกราบทูลไว้แล้วรีบวิ่งออกไปอย่างไร้วี่แววทันที ฉินเหยียนยืนอยู่หน้าประตูแล้วเงยหน้ามองไปราวกับคิดอะไรอยู่ โดยมีจ้าวจือหย่ายืนอยู่ข้างกายเขา
“อย่ากังวลไปเลยเพคะองค์ชาย ทันทีที่ฝ่าบาทได้อ่านสาส์นกราบทูลของท่านแล้วจะต้องเห็นด้วยกับแผนการของท่านแน่นอนเพคะ จะปล่อยให้แผนการชั่วร้ายของไท่ฟู่สำเร็จไม่ได้”
ฉินเหยียนกลับเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดว่า “ข้าไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนั้น ตลอดมาข้ามีคำถามอยู่อย่างหนึ่ง จือหย่า เจ้าว่ายุคสมัยของพวกเจ้ามีโจรปล้นของมีค่าระหว่างทางอยู่ตลอด แต่เหตุใดจึงไม่มีการปล้นรายงานสงครามเร่งด่วนล่ะ?”
จ้าวจือหย่าอึ้งไปแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องคิดเรื่องนี้อยู่งั้นรึเพคะ? โจรเองก็ไม่ได้โง่นี่เพคะ ปล้นรายงานสงครามเร่งด่วนเพราะต้องการเสื้อผ้าหรือรองเท้าของเขา หรือต้องการถูกประหารชีวิตล่ะเพคะ?”
ฉินเหยียนยิ้ม เขาคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ “นี่แล้วเจ้าว่าถ้าข้าอยากให้ถูกประหารจริงๆ มันจะเป็นไปได้ไหม”
จ้าวจือหย่าเบิกตากว้างพูดอะไรไม่ออก ไม่เข้าใจ
“เอาแบบนี้ละกัน ลองทดลองกับรายงานด่วนของไท่ฟู่ก่อน เรื่องนี้ต้องขอให้หลิวเชียนเชียนช่วยแล้วสิ ใครให้พ่อของนางเป็นผู้ดูแลศาลพักม้ากันละ”
ฉินเหยียนพูดแล้วก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
......
ภายในเต็นท์
หลิวเชียนเชียนค่อยๆลืมตาขึ้นมา นางรู้สึกร่างกายเจ็บปวดราวกับฉีกขาดยังไงอย่างงั้น เมื่อนึกถึงความรื่นรมย์จากการมีความสัมพันธ์กันเมื่อคืนนี้แล้ว หลิวเชียนเชียนก็หน้าแดงขึ้นมาอย่างเขินอาย
นางค่อยๆหันหน้าไปข้างๆและพบว่าฉินเหยียนไม่อยู่ จึงได้ค่อยๆเปิดม่านที่นอนออก และพบว่าฟ้าสว่างแล้ว
“ซีด เวลานี้แล้วรึเนี่ย” นางอดทนต่อความเจ็บปวดบนร่างกายแล้วค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงมาสวมเสื้อผ้า
ทันใดนั้นเองฉินเหยียนก็ได้ดันประตูเข้ามา
หลิวเชียนเชียนเพิ่งจะใส่ผ้ารัดหน้าท้องเสร็จก็ถูกฉินเหยียนทำให้ตกใจจนสะดุ้งโหยง นางรีบหยิบเสื้อมาคลุมแล้วย่อตัวทำความเคารพว่า “หม่อมฉันทำความเคารพท่านอ๋องเพคะ”
ในขณะที่นางกำลังจะทำความเคารพ คนที่เพิ่งผ่านเรื่องราวครั้งแรกอย่างนางก็แทบจะทรุดลงกับพื้น โชคดีที่ฉินเหยียนไหวพริบเร็วจึงได้พยุงนางขึ้น แล้วกอดนางไว้ในอ้อมกอดพร้อมพูดอย่างอ่อนโยนว่า
“ทำไมรึ ไม่พบข้าครู่เดียวก็จะทำความเคารพอย่างยิ่งใหญ่แล้วรึ” เมื่อพูดแล้วยังตบบั้นท้ายของนางอย่างเจ้าเล่ห์
หลิวเชียนเชียนใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที นางพูดอย่างเขินอายว่า “ขาของหม่อมฉันไม่มีแรงก็เลยยืนไม่อยู่เพคะ ท่านอ๋องเห็นเรื่องน่าขันเสียได้”
ฉินเหยียนยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วจงใจพูดขึ้นว่า “เมื่อคืนยืนยาวกันไปตั้งหลายต่อหลายครั้งจนสาแก่ใจ วันนี้เจ้าขาไม่อ่อนแรงสิแปลก!”
เมื่อฉินเหยียนพูดดังนั้น หลิวเชียนเชียนก็นึกถึงภาพการพลอดรักกันเมื่อคืนอีกครั้ง ทันใดนั้นใบหน้าของนางก็แดงขึ้นอย่างสุดขีด และพูดอย่างเขินอายว่า “ท่านอ๋องอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นสิเพคะ!”
ฉินเหยียนหัวเราะอย่างชอบใจ จากนั้นก็พูดอย่างจริงจังว่า “ไม่หยอกล้อเจ้าแล้ว ข้ามีเรื่องสำคัญอยากบอกเจ้าหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...