องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 163

ต้าหย่งถือสาส์นกราบทูลไว้แล้วรีบวิ่งออกไปอย่างไร้วี่แววทันที ฉินเหยียนยืนอยู่หน้าประตูแล้วเงยหน้ามองไปราวกับคิดอะไรอยู่ โดยมีจ้าวจือหย่ายืนอยู่ข้างกายเขา

“อย่ากังวลไปเลยเพคะองค์ชาย ทันทีที่ฝ่าบาทได้อ่านสาส์นกราบทูลของท่านแล้วจะต้องเห็นด้วยกับแผนการของท่านแน่นอนเพคะ จะปล่อยให้แผนการชั่วร้ายของไท่ฟู่สำเร็จไม่ได้”

ฉินเหยียนกลับเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดว่า “ข้าไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนั้น ตลอดมาข้ามีคำถามอยู่อย่างหนึ่ง จือหย่า เจ้าว่ายุคสมัยของพวกเจ้ามีโจรปล้นของมีค่าระหว่างทางอยู่ตลอด แต่เหตุใดจึงไม่มีการปล้นรายงานสงครามเร่งด่วนล่ะ?”

จ้าวจือหย่าอึ้งไปแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องคิดเรื่องนี้อยู่งั้นรึเพคะ? โจรเองก็ไม่ได้โง่นี่เพคะ ปล้นรายงานสงครามเร่งด่วนเพราะต้องการเสื้อผ้าหรือรองเท้าของเขา หรือต้องการถูกประหารชีวิตล่ะเพคะ?”

ฉินเหยียนยิ้ม เขาคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ “นี่แล้วเจ้าว่าถ้าข้าอยากให้ถูกประหารจริงๆ มันจะเป็นไปได้ไหม”

จ้าวจือหย่าเบิกตากว้างพูดอะไรไม่ออก ไม่เข้าใจ

“เอาแบบนี้ละกัน ลองทดลองกับรายงานด่วนของไท่ฟู่ก่อน เรื่องนี้ต้องขอให้หลิวเชียนเชียนช่วยแล้วสิ ใครให้พ่อของนางเป็นผู้ดูแลศาลพักม้ากันละ”

ฉินเหยียนพูดแล้วก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

......

ภายในเต็นท์

หลิวเชียนเชียนค่อยๆลืมตาขึ้นมา นางรู้สึกร่างกายเจ็บปวดราวกับฉีกขาดยังไงอย่างงั้น เมื่อนึกถึงความรื่นรมย์จากการมีความสัมพันธ์กันเมื่อคืนนี้แล้ว หลิวเชียนเชียนก็หน้าแดงขึ้นมาอย่างเขินอาย

นางค่อยๆหันหน้าไปข้างๆและพบว่าฉินเหยียนไม่อยู่ จึงได้ค่อยๆเปิดม่านที่นอนออก และพบว่าฟ้าสว่างแล้ว

“ซีด เวลานี้แล้วรึเนี่ย” นางอดทนต่อความเจ็บปวดบนร่างกายแล้วค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงมาสวมเสื้อผ้า

ทันใดนั้นเองฉินเหยียนก็ได้ดันประตูเข้ามา

หลิวเชียนเชียนเพิ่งจะใส่ผ้ารัดหน้าท้องเสร็จก็ถูกฉินเหยียนทำให้ตกใจจนสะดุ้งโหยง นางรีบหยิบเสื้อมาคลุมแล้วย่อตัวทำความเคารพว่า “หม่อมฉันทำความเคารพท่านอ๋องเพคะ”

ในขณะที่นางกำลังจะทำความเคารพ คนที่เพิ่งผ่านเรื่องราวครั้งแรกอย่างนางก็แทบจะทรุดลงกับพื้น โชคดีที่ฉินเหยียนไหวพริบเร็วจึงได้พยุงนางขึ้น แล้วกอดนางไว้ในอ้อมกอดพร้อมพูดอย่างอ่อนโยนว่า

“ทำไมรึ ไม่พบข้าครู่เดียวก็จะทำความเคารพอย่างยิ่งใหญ่แล้วรึ” เมื่อพูดแล้วยังตบบั้นท้ายของนางอย่างเจ้าเล่ห์

หลิวเชียนเชียนใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที นางพูดอย่างเขินอายว่า “ขาของหม่อมฉันไม่มีแรงก็เลยยืนไม่อยู่เพคะ ท่านอ๋องเห็นเรื่องน่าขันเสียได้”

ฉินเหยียนยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วจงใจพูดขึ้นว่า “เมื่อคืนยืนยาวกันไปตั้งหลายต่อหลายครั้งจนสาแก่ใจ วันนี้เจ้าขาไม่อ่อนแรงสิแปลก!”

เมื่อฉินเหยียนพูดดังนั้น หลิวเชียนเชียนก็นึกถึงภาพการพลอดรักกันเมื่อคืนอีกครั้ง ทันใดนั้นใบหน้าของนางก็แดงขึ้นอย่างสุดขีด และพูดอย่างเขินอายว่า “ท่านอ๋องอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นสิเพคะ!”

ฉินเหยียนหัวเราะอย่างชอบใจ จากนั้นก็พูดอย่างจริงจังว่า “ไม่หยอกล้อเจ้าแล้ว ข้ามีเรื่องสำคัญอยากบอกเจ้าหน่อย”

......

ศาลพักม้า

“ท่านผู้ดูแลขอรับ มีจดหมายนกพิราบถึงท่านขอรับ!” เด็กรับใช้ผู้ชายวิ่งเหยาะๆเข้ามา แล้วนำจดหมายของหลิวเชียนเชียนส่งให้พ่อของนาง

ตั้งแต่หลิวเชียนเชียนถูกจับไป ผู้ดูแลศาลพักม้าก็คิดว่าลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขาต้องกระทำเรื่องเลวร้ายไว้มากมายแน่นอน เขาเสียใจกับเรื่องนี้อยู่พักใหญ่ๆเลย

เขารับจดหมายมาแล้วถอนหายใจพูดว่า “เฮ้อ ก็แค่เรื่องไม่สำคัญพวกนั้น”

เขาพูดไปด้วยแล้วเปิดจดหมายไปด้วย กลับพบว่าเป็นชื่อหลิวเชียนเชียน ดวงตาของเขาประกายขึ้นแล้วพูดอย่างตะลึงว่า “เป็นจดหมายจากเชียนเชียน!”

เขารีบนั่งตัวตรงขึ้นมาแล้วค่อยๆเปิดจดหมายออกอย่างระมัดระวังแล้วตั้งใจอ่านมัน หลิวเชียนเชียนแจ้งว่านางปลอดภัยดี นั่นทำให้ผู้ดูแลศาลพักม้าที่รู้สึกกังวลมาตลอดในที่สุดก็วางใจ

เมื่อรับรู้ว่าลูกสาวปลอดภัยดีก็ดีใจแล้ว อีกทั้งยังได้สร้างประโยชน์ที่แนวหน้าสงครามอีก นั่นทำให้เขาดีใจอย่างมาก และพูดอวดกับเด็กรับใช้ข้างๆว่า “ลูกสาวของข้ายอดเยี่ยมจริงๆ ตอนนี้นางได้ทำงานอยู่ข้างกายขององค์ชายสิบสี่ผู้เป็นที่โปรดปรานที่สุด แบบนี้ข้าก็ได้เลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วสิ!”

เด็กรับใช้ประสานมือคารวะแล้วยินดี “ยินดีด้วยขอรับผู้ดูแล ขอยินดีกับผู้ดูแลขอรับ!”

ผู้ดูแลศาลพักม้ายิ้มแย้มแล้วอ่านต่อไป แต่ยิ่งอ่านสีหน้าของเขาก็ยิ่งไม่ดีเรื่อยๆ จากนั้นก็ลุกขึ้นพรวดทันที แล้วพูดออกมาอย่างตกใจว่า “ว่าอย่างไรนะ! แล้วข้าจะทำอย่างไรดีเนี่ย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์