ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดอยู่ องค์ชายใหญ่ฉินชงก็ได้ตามมาแล้วถามขึ้นว่า
“ท่านอ๋องของพวกเจ้าอยู่ในเต็นท์รึไม่ ข้ามีเรื่องทางทหารจะหารือกับเขาเสียหน่อย”
ไส้ศึกหญิงพยักหน้าพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายอีกครั้ง แล้วพูดอย่างลังเลว่า
“ท่านอ๋อง......คงจะยุ่งอยู่เพคะ องค์ชายใหญ่รอสักเดี๋ยวแล้วค่อยเข้าไปดีรึไม่เพคะ?”
องค์ชายใหญ่ฉินชงดูเวลา นี่มันก็บ่ายสามโมงแล้ว จะยุ่งอะไรอยู่ในเต็นท์กัน จึงได้พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“เหตุใดจึงเข้าไปมิได้ หากทำให้เรื่องการทหารล่าช้าไปพวกเจ้ารับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ”
“คือ......”
ไส้ศึกหญิงอยากจะห้ามเอาไว้ แต่องค์ชายใหญ่ก็ได้เปิดเต็นท์แล้วเดินเข้าไปทันที ผ่านไปเป็นชั่วโมงตั้งแต่ที่องค์ชายใหญ่ฉินชงเข้าไป ก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย
ไส้ศึกหญิงที่ยืนเฝ้าอยู่ต่างมองหน้ากันด้วยความตะลึงแล้วพูดว่า “ไม่หรอกนะ หรือว่าองค์ชายใหญ่จะเข้าร่วมด้วยงั้นรึ?”
“จุ๊จุ๊จุ๊ นี่เล่นสุดเหวี่ยงกันเลยนะเนี่ย!”
ทันใดนั้นเององค์ชายเจ็ดฉินอวี่เองก็ตามมาด้วย และได้ถามขึ้นว่า “องค์ชายใหญ่มาที่นี่รึไม่?”
ไส้ศึกหญิงพยักหน้าแล้วชี้ไปในเต็นท์แล้วพูดว่า “มาแล้วเพคะ อยู่ด้านในเพคะ”
องค์ชายเจ็ดฉินอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “บอกว่าจะประชุมวางกลยุทธ์แท้ๆ นี่ก็ผ่านไปครึ่งค่อนวันแล้ว นี่มาหาคนหรือมาผ่อนคลายอารมณ์กัน?”
ไส้ศึกหญิงต่างกะพริบตาปริบๆ ชายสองคนและหญิงสองคนไม่ได้ออกมาจากเต็นท์เป็นเวลานาน แล้วจะให้พวกนางตอบอย่างไร อ้ำอึ้งไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
องค์ชายเจ็ดสีหน้าไม่สบอารมณ์ เขาเดินไปเดินมาอยู่ครู่หนึ่งสุดท้ายก็ได้ประสานมือคารวะแล้วพูดว่า
“พี่ใหญ่ น้องสิบสี่ ฉินอวี่ขอเข้าพบ”
ผ่านไปนานแต่ก็ไม่มีการตอบกลับใดๆ
“เกิดอะไรขึ้นกัน?” องค์ชายเจ็ดฉินอวี่รอไม่ไหว “เอาเถอะ ลองเข้าไปดูก่อนละกัน”
ไส้ศึกหญิงอยากจะห้ามแต่องค์ชายเจ็ดฉินอวี่ก็ได้เดินเข้าไปก่อนแล้ว ไส้ศึกหญิงทั้งคู่มองหน้ากันด้วยสีหน้าทำอะไรไม่ถูก พวกนางมองหน้ากันไปมาแล้วกระซิบคาดเดาว่า
“นี่เข้าไปกี่คนแล้วนะ?”
“เจ้าว่า องค์ชายเจ็ดจะออกมารึไม่?”
“ขะ ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร”
แต่ว่า ต้าจ้วง หย่งและต้าซานก็เหมือนกับเหล่าองค์ชายที่ตั้งแต่เข้าไปในเต็นท์ก็หายไปเลย ไส้ศึกหญิงที่เฝ้าอยู่ด้านนอก เดิมทียังคาดเดาในใจว่าองค์ชายกำลังสนุกอยู่จริงๆ แต่ตอนนี้พอยิ่งคิดก็ยิ่งผิดปกติ เหตุใดคนเหล่านี้เข้าไปแล้วจึงไม่ออกมาอีกเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
บัดนี้องค์ชายสิบสี่คือผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทุกๆเรื่องในค่ายทหารนั้นต้องคอยมีเขาชี้แนะออกคำสั่ง ไส้ศึกหญิงที่คอยiyรับใช้รออยู่ที่ประตูอย่างใจจดใจจ่อ พวกนางจะใช้โอกาสในตอนนำอาหารเข้าไปส่งให้ดูเสียหน่อย จากนั้น ก็ไม่มีอะไรแล้ว พวกนางเองก็ไม่ได้ออกมาเช่นกัน
เพราะหาตัวผู้บัญชาการทหารสูงสุดไม่พบ แถมเหล่าองค์ชายก็หายไปด้วย นั่นทำให้เหล่าแม่ทัพยิ่งรู้สึกกระวนกระวายและตามหากันมากขึ้น แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ เหล่าแม่ทัพตามกันมาติดๆ แต่กลับไม่มีใครออกมาอีกเลย
เต็นท์ขององค์ชายสิบสี่นั้นราวกับเป็นเหวไร้ก้น มันกลืนกินทุกคนที่เข้าไปจนหายสาบสูญไปหมด เมื่อท้องฟ้าใกล้ค่ำแล้ว ในค่ายก็เริ่มจะวุ่นวายขึ้น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ส่งคนไปมากมายเพียงนี้แต่กลับไม่มีใครกลับมาเลย ทำบ้าอะไรกัน?”
“จะพูดให้เปลืองน้ำลายกันทำไม เข้าไปดูเดี๋ยวก็รู้เอง”
ทั้งสองตัดสินใจเหมือนกัน เหล่าแม่ทัพอื่นๆเองก็ไม่มัวรีรอแล้ว พวกเขาเดินมายังหน้าเต็นท์ด้วยความน่าเกรงขาม ทุกคนที่เข้าไปไม่มีใครออกมาอีกเลยเช่นเคย
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งอาณาจักรฉินรออยู่บนกำแพงเมืองทั้งวันก็รอไม่ไหวอีกแล้ว ทุกคนที่ส่งออกไปต่างไม่กลับมาอีกเลย ไม่มีใครสนใจเรื่องทางทหารเลย นี่มันใช้ได้ที่ไหนกัน แม้แต่ผู้นำทหารต่างๆเองก็หายไปพร้อมกันเช่นนี้ เขาเองก็ไม่มัวรีรอ รีบมาหาฉินเหยียนด้วยความเดือดดาล
เขาเปิดเต็นท์ออกทันที แต่กลับภาพตรงหน้ากลับทำให้ต้องอึ้งไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...