องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 182

เมืองหลวงอาณาจักรฉิน ตำหนักจินหลวน

เหล่าข้าราชการทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นต่างพากันทำความเคารพต่อฮ่องเต้ฉิน หลังจากนั้นบรรดาขุนนางที่อยู่พรรคขององค์ชายแต่ละคนก็ได้พูดขึ้นก่อนว่า

“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายสิบสี่นำทัพได้รับชัยชนะถึงสามศึก เขากล้าหาญมีทักษะและมีไหวพริบ นี่คือโชคอันยิ่งใหญ่ของเรา ข้าน้อยคิดว่าผู้มีความดีความชอบมากถึงเพียงนี้ควรค่าแก่การให้รางวัลใหญ่ เพื่อเป็นการแสดงให้กำลังใจต่อเหล่าทหารที่ภักดีต่ออาณาจักรฉินพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าน้อยเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายสิบสี่สามารถใช้วิชาอสนีบาตและควบคุมวารีแห่งสวรรค์ได้ ด้วยกำลังนี้เป็นประโยชน์ต่ออาณาจักรฉินอย่างมาก แล้วจะมีใครในใต้หล้านี้ที่จะองอาจห้าวหาญเช่นนี้อีก!”

“ข้าน้อยเองก็คิดว่าองค์ชายสิบสี่มีกำลังที่โดดเด่นกว่าผู้อื่นเช่นนี้ เป็นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและจะไม่มีใครเหมือนได้อีก หากวันใดถูกเลือกเป็นรัชทยาทอย่างถูกต้อง จะต้องเป็นความสุขวาสนาแก่ผู้คนไปยืนนานแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ฉินยิ่งฟังสีหน้าก็ยิ่งไม่พอใจ แค่การประชุมราชสำนักในยามเช้าแค่นี้ ขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นก็ชื่นชมยกยอเจ้าสิบสี่จนจะเป็นเทพเจ้าแล้ว เขายังครองบัลลังก์อยู่เลยนะ เจ้าสิบสี่นั้นมีความน่าเกรงขามในพระราชสำนักมากกว่าเขาที่เป็นฮ่องเต้อีก

ทันใดนั้นเขาก็สีหน้ามืดมนแล้วพูดอย่างเข้มงวดว่า “พอได้แล้ว ข้ายังไม่ถึงแก่ชรา พวกเจ้าก็ร้อนใจอยากแต่งตั้งรัชทายาทแล้วงั้นรึ?”

เหล่าขุนนางในพระราชสำนักต่างคุกเข่าลงทันทีแล้วอธิบายว่า

“ฝ่าบาทอย่าทรงพิโรธไปเลยพ่ะย่ะค่ะ พวกข้ามองเห็นว่าฝ่าบาทมีความโปรดปรานต่อองค์ชายสิบสี่อย่างมาก ได้แต่งตั้งให้เลื่อนขั้นสามระดับ แถมยังมอบที่ศักดินาให้ และครองอำนาจการบัญชาการสูงสุดในกองทัพด้วย นั่นถือเป็นสิ่งที่เขาได้รับแต่เพียงผู้เดียว การที่พวกข้าคาดเดาไปเองนั้น โปรดอย่าพิโรธไปเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

แน่นอนว่าฮ่องเต้ฉินต้องรู้ความคิดของเจ้าพวกนี้ แต่ละคนย่อมมีเจตนาชั่วร้าย องค์ชายองค์ไหนมีอำนาจก็จะรีบโผเข้าหาแล้วเข้าข้าง

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เหล่าขุนนางกล่าวเช่นนั้นมา ฮ่องเต้ฉินเองก็คิดบางอย่างเช่นกัน ในตอนที่ได้รับข่าวว่าชนะสงคราม เขาเพียงแต่คิดว่าจะให้รางวัลแก่เหล่าวีรบุรุษอย่างไร แต่ดูเหมือนว่ารางวัลที่มอบให้กับเจ้าสิบสี่จะเหมาะสม

องค์ชายแปดฉินอู่มองการเปลี่ยนแปลงของสีหน้าของฮ่องเต้ฉินออก เขาประสานมือคารวะแล้วพูดว่า

“ท่านพ่อ ลูกคิดว่าน้องสิบสี่มีความกล้าหาญและมีความสามารถคล้ายกับท่านอย่างมาก แม้ว่าตำนานหนึ่งต่อร้อยของท่านจะเสมือนดั่งเทพเจ้าแล้ว”

“แต่น้องสิบสี่นั้นผู้ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย สามารถต่อกรกับกองทัพสองแสนนายอันมหาศาลด้วยกำลังของเขาเพียงคนเดียวได้ ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกเคารพนับถือ เชื่อว่าในวันข้างหน้าน้องสิบสี่จะต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจรับใช้ท่านพ่อ พิชิตอาณาจักรอื่นได้แน่นอน ท่านพ่อเพียงแค่รอรับข่าวดีในพระราชวังก็เพียงพอแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

คำพูดขององค์ชายแปดฉินอู่นั้น เห็นได้ชัดว่ากำลังทำลายเส้นฟางสุดท้ายในใจของฮ่องเต้ฉิน

แม้ว่ามองไปแล้วเจ้าสิบสี่กำลังทำเพื่ออาณาจักรฉิน แต่หากวันหนึ่งเขามีความดีความชอบที่เกินหน้าฮ่องเต้ฉินไป แล้วจะให้ฮ่องเต้ฉินเอาหน้าที่ไหนมานั่งบัลลังก์ต่อไปได้อีก สิ่งต้องห้ามที่สุดสำหรับราชวงศ์คือการโดดเด่นเกินฮ่องเต้

“แต่ประวัติศาสตร์ความรุ่งเรืองและการล่มสลายของราชวงศ์เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา ชื่อไม่กี่บรรทัดที่หลงเหลืออยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ได้ก่อให้เกิดสุสานบนเนินเขานับไม่ถ้วน แต่ละยุคในอดีตรากฐานที่สร้างขึ้นโดยราชวงศ์ก่อนๆ ถูกยึดครองโดยคนรุ่นต่อๆ ไป แต่ผู้คนในปัจจุบันกลับคิดว่ากำลังสู้กันอย่างรุนแรง!”

เมื่อกล่าวบทกวีปูเรื่องที่แสนองอาจแล้ว ก็ได้หยิบไม้ปลุกสติขึ้นมาแล้วทุบดังปัง เรื่องเล่าในวันนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว

“หนังสือเรื่องเล่าครั้งที่แล้วกล่าวไว้ว่า จ้าวฉี่หมิงได้ส่งหยางจ้ายซิ่นมาบุกโจมตีอาณาจักรฉิน การต่อสู้ครั้งนั้นน่าตกใจอย่างยิ่ง การมีฝ่ายชนะและฝ่ายแพ้นั้นคือเรื่องธรรมดาในสนามรบ แต่จ้าวฉี่หมิงกลับออกคำสั่งเด็ดขาดราวกับส่งหยางจ้ายซิ่นไปตาย”

“หากสงครามในครั้งนี้ได้รับชัยชนะ หยางจ้ายซิ่นจะยังคงได้เป็นแม่ทัพใหญ่เช่นเดิม แต่หากพ่ายแพ้ก็ให้เขาหยางจ้ายซิ่นมาพบแค่ศีรษะ อย่างไรจ้าวฉี่หมิงก็เป็นญาติสหายราชวงศ์ ถูกแต่งตั้งให้เป็นอัครเสนาบดี แต่ที่จริงก็เป็นแค่พวกคนเลวทรามต่ำช้า เพียงแค่ศึกนอกด่านครั้งนี้......”

ฉินเหยียนเล่าอย่างหน้าบานเป็นกระด้ง น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความฮึกเหิม เสียงดังและทรงพลัง

จ้าวจือหย่าเองก็คอยจดบันทึกตามที่ฉินเหยียนเล่าทุกอย่างโดยไม่ให้พลาดแม้แต่รายละเอียดเดียว

เหล่าทหารที่อยู่รอบๆและไส้ศึกหญิงต่างก็ฟังอย่างใจจดใจจ่อ อารมณ์เป็นไปตามเรื่องที่ฉินเหยียนเล่า บางครั้งก็หัวเราะออกมา บางครั้งก็ตื่นเต้นร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว อารมณ์ของทุกคนขึ้นๆลงๆ ตกอยู่ในภวังค์ของเรื่องเล่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์