อาหารที่เหล่าเชลยศึกอาณาจักรจ้าวได้ทานทุกวันในค่ายเชลยยังหลากหลายกว่าอาหารในบ้านเสียอีก นอกจากนั้นยังมีนักเล่าเรื่องที่มาเล่าเรื่องวีรบุรุษ108คนให้ฟังทุกวันอีก
ทุกคนล้วนถูกเรื่องเล่าดึงดูด เมื่อเล่าถึงเรื่องที่ถูกขุนนางกดขี่ข่มเหง เหล่าชาวเมืองลำบากยากจนและความสิ้นหวัง ภายในใจของเหล่าเชลยศึกต่างก็เกิดเจ็บแปล๊บขึ้นมา น้ำตาคลอเบ้าแล้วพูดด้วยความสะอึกสะอื้นว่า
“นี่มันพูดถึงพวกข้าชัดๆ!”
“เฮ้อ อำนาจอยู่ในมือของเหล่าขุนนาง ชาวเมืองอย่างเราก็เป็นได้แค่เหยื่อที่อยู่ในกำมือเท่านั้น”
เมื่อนักเล่าเรียนพูดถึงเรื่องที่ขุนนางกดขี่ให้ชาวเมืองต้องก่อกบฏ ลุกขึ้นสู้เพื่อต่อต้านอำนาจใหญ่แล้ว เหล่าเชลยศึกต่างก็หัวใจเต้นแรงมากยิ่งขึ้น มีคนเชื่อว่าหากอาณาจักรไร้ความกรุณา ชาวเมืองก็จะเป็นหมูเป็นหมา ไม่เพียงแต่จะไม่คำนึงถึงชาวเมืองเท่านั้น แถมยังจะให้พวกเขาไปตายฟรีๆด้วย การปกป้องราชวงศ์เช่นนี้ต่อไปจะมีประโยชน์อันใด
เหล่าเชลยศึกต่างปรบมือพร้อมกัน ในเมื่ออาณาจักรด้านชาและไร้ความกรุณา งั้นก็อย่าหาว่าพวกเขาไม่มีความเป็นธรรม! ทันใดนั้นก็ได้ตัดสินใจเลียนแบบวีรบุรุษ108คนในเรื่องเล่า หักคันธงขึ้นสู้โดยไม่เกรงกลัวต่ออำนาจใหญ่ และได้แอบวางแผนหนีหลายแผนการเอาไว้ด้วย
ทันทีที่ทหารหัวกะทิรู้ตัวจึงได้รีบไปรายงานกับฉินเหยียน “อ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ เชลยศึกอาณาจักรจ้าวคิดจะหนีพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนยิ้มออกมา ทุกอย่างล้วนอยู่ในแผนการของเขา
“ทุกอย่างล้วนไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจตจำนงของมนุษย์ แต่มันจะเป็นไปตามกฎภววิสัย พวกเขาอยากไปก็ปล่อยไปเถอะ พวกเจ้าทำเป็นมองไม่เห็นไป อย่างไรก็มอบเงินค่าเดินทางให้พวกเขาหน่อยล่ะ จะทำการใหญ่ทั้งที ต้องมีทุนเริ่มต้นเสียหน่อย”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
ทหารหัวกะทิถือเงินที่อ๋องเหยียนมอบให้กลับมาถึงยังค่ายเชลยศึก เขาเปิดมันออกแล้วพูดว่า
“อ๋องเหยียนออกคำสั่งว่า หากพวกเจ้าอยากไปก็ไปเสีย พวกข้าจะไม่ห้ามเด็ดขาด”
ในขณะที่พูดก็มีอีกคนหนึ่งที่เปิดหีบออก ด้านในนั้นล้วนเป็นเงินทองทั้งนั้น
“อีกทั้งอ๋องเหยียนยังได้เตรียมค่าเดินทางเอาไว้ให้พวกเจ้าด้วย หลังจากกลับไปแล้ว ซื้อทุ่งนาและเลี้ยงตนเองให้กินอิ่มด้วย”
เชลยศึกอาณาจักรจ้าวนึกไม่ถึงเลยว่า อ๋องเหยียนที่พวกเขาได้พบเพียงแค่ครั้งเดียวคนนั้น ไม่เพียงแต่จะไม่เห็นพวกเขาเป็นเชลยศึกเท่านั้น แถมยังให้อาหารและน้ำดื่มกับพวกเขาอย่างอิ่มเอมทุกวัน แม้แต่ตอนที่พวกเขากำลังจะหนีก็ยังไม่ทำให้ลำบากใจ แถมยังเตรียมเงินค่าเดินทางไว้ให้พวกเขาแล้วด้วย
จากนั้นพวกเขาก็นึกถึงเหล่าขุนนางอาณาจักรจ้าว บังคับและล่อลวงให้พวกเขาไปตายที่แนวหน้า เห็นชีวิตของพวกเขาไร้ค่า นั่นยิ่งทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะล้มล้างอำนาจอาณาจักรจ้าว
“พวกข้าจะกลับไปก็จริง แต่ใช่ว่าจะกลับไปเพื่อทำนา แต่จะเพื่อหักคันธงขึ้นสู้ต่างหาก!”
“ขุนนางอาณาจักรจ้าวกดขี่ชาวเมือง พวกข้าไม่อาจอยู่อย่างสงบสุขได้”
“ใช่แล้ว ทั้งเมียและลูกของข้าต่างถูกขุนนางพวกนั้นฆ่าตาย แถมข้ายังถูกจับมาเป็นทหารตั้งแต่ยังหนุ่มอีก ข้าจะล้างแค้น ฆ่าพวกขุนนางโลภมากโสมมพวกนั้น!”
“ข้าเองก็ด้วย ถูกจับมาเป็นทหารตั้งแต่ยังหนุ่ม เมียและลูกก็ถูกขุนนางโลภมากโสมมพวกนั้นข่มเหง พวกข้าต้องการหักคันธงขึ้นสูง หวงคืนความยุติธรรม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...