องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 277

สรุปบท ตอนที่ 277 ทั่วทั้งท้องพระโรงต่างประหลาดใจ: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

ตอน ตอนที่ 277 ทั่วทั้งท้องพระโรงต่างประหลาดใจ จาก องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 277 ทั่วทั้งท้องพระโรงต่างประหลาดใจ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติกโบราณ องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ ที่เขียนโดย Namfon เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ไท่ฟู่รับฎีกามา เมื่อเปิดออกสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

"นี่ นี่มัน....."

ดวงตาที่ตกตะลึงเบิกกว้างขึ้นทันที มือของเขาพลิกเปิดภาพวาดด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งพลิกดูสีหน้าของเขาก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้น ปากของเขาอ้ากว้างจนแทบจะใส่ไข่ไก่ทั้งฟองเข้าไปได้

เนื้อหาในภาพวาดละเอียดมากและสิ่งก่อสร้างล้วนงดงาม เมืองใหม่ทั้งหมดขยายออกมาจากพื้นที่แปดเหลี่ยมที่อยู่ตรงกลาง มีถนนและตึกรามมากมายนับไม่ถ้วน

ไท่ฟู่พลิกรูปภาพไปมาหลายรอบ จากนั้นจึงปิดฎีกาและชี้ไปที่ขันทีทั้งสามพลางกล่าวหาพวกเขาด้วยสีหน้าราวกับว่าพวกเขาสมควรได้รับการลงโทษ

"ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฝ่าบาทต้องการจะลงโทษพวกเจ้า พวกเจ้าพูดจาเหลวไหลจริงๆ!"

"ตึกรามมากมายเช่นนี้แต่ละแห่งล้วนมหัศจรรย์ หากอยู่ที่เมืองอื่นย่อมเป็นสถานที่สำคัญ แต่พวกเจ้ากลับบอกว่าสิ่งเหล่านี้สร้างขึ้นโดยไม่มีเงินและเสบียงเช่นนั้นหรือ?"

เมื่อกล่าวจบเขาก็เขวี้ยงฎีกาใส่หน้าขันทีผู้ดูแลกิจการในพระราชวัง และกล่าวด้วยความโกรธว่า

"บอกมา พวกเจ้าได้รับสินบนจากองค์ชายสิบสี่ใช่หรือไม่!"

"มิได้ ต่อให้ข้าน้อยมีความกล้าอย่างไรก็มิกล้าทรยศต่อฝ่าบาท!"

เมื่อขันทีผู้ดูแลกิจการในพระราชวังทั้งสามมิอาจโต้แย้งได้จึงคุกเข่าลงกับพื้น และโขกศีรษะซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทั้งสามโขกจนศีรษะแทบแตกและพยายามอย่างเต็มที่เพื่ออธิบายว่าสิ่งที่พวกเขาพูดคือสิ่งที่พวกเขาเห็น

ไท่ฟู่เพิกเฉย และประสานมือพลางกราบทูลว่า

"กราบทูลฝ่าบาท เมื่อสามเดือนก่อนกระหม่อมอยู่ที่ชายแดน เวลานั้นสิ่งที่เรียกว่าเมืองใหม่ล้วนเป็นที่รกร้าง เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างเมืองที่งดงามออกมาได้ในเวลาเพียงไม่กี่เดือนพะยะค่ะ!"

"ยิ่งไปกว่านั้น อาคารแต่ละหลังบนภาพวาดต่างสูงประมาณสิบจั้ง จะต้องใช้ช่างฝีมือที่มีทักษะกี่คนจึงจะสร้างออกมาได้ กระหม่อมเห็นว่าสามคนนี้กำลังพูดจาเหลวไหลและโป้ปดมดเท็จ สมควรถูกประหารพะยะค่ะ!"

ความโกรธของฮ่องเต้ฉินพุ่งสูงขึ้น มุมปากกระตุกโดยไม่รู้ตัว เขาหรี่ตามองไปที่องค์ชายใหญ่

เวลานี้องค์ชายใหญ่ฉินชงหลบเลี่ยงการทำลายล้างโดยก้มหน้าลงและไม่สบตากับเสด็จพ่อ แต่มุมปากของเขากลับยกขึ้นอย่างพึงพอใจโดยไม่รู้ตัว

ท่านใดนั้นฮ่องเต้ฉินก็ตระหนักได้ บุตรชายคนโตของเขาผู้นี้ดูเหมือนว่าจะพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่และไม่สนใจเรื่องทางโลก แต่ในความเป็นจริงในใจเขากลับรู้ดีทุกอย่าง

เมืองใหม่ในเวลานี้มิใช่ดินแดนที่แห้งแล้ง แต่เป็นเมืองหลวงที่งดงามที่พร้อมใช้งาน!

ไม่คิดเลยว่าบุตรชายคนโตของเขาผู้นี้จะปกปิดข้อมูลที่สำคัญเช่นนี้ จึงถามเสียงเข้มว่า

"ชงเอ่อร์ เหตุใดก่อนหน้านี้เจ้าจึงไม่เล่าความงดงามของเมืองใหม่ให้ข้าฟัง?"

องค์ชายใหญ่ฉินชงคุกเข่าลงพลางประสานมือ และกราบทูลว่า

ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ฮ่องเต้ฉิน เหล่าขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ทั่วทั้งทองพระโรงต่างก็ระเบิดทันที

"ว่าอย่างไรนะ คนสี่ห้าแสนคน ประชากรทั้งหมดของต้าฉินของเรามีเพียงสองแสนคนเท่านั้น!"

"ด่านชายแดนหนึ่งมีคนถึงสี่ห้าแสนคน คนมากมายเหล่านี้มาจากที่ใดกัน?"

"ตามที่กล่าว หากมีผู้คนมากมายเช่นนี้สร้างเมืองเมืองหนึ่ง ในเวลาไม่กี่เดือนก็สามารถสร้างได้ใช่หรือไม่?"

"กระนั้นก็เป็นไปไม่ได้!"

เสนาบดีกรมโยธาธิการหยิบฎีกาที่ถูกเขวี้ยงไปบนพื้น เขาส่ายศีรษะและค้านว่า

"เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ด้วยความสามารถของช่างฝีมือในเวลานี้ของพวกเรา แม้แต่จวนเจ้าเมืองของเมืองใหม่ก็ยังต้องใช้เวลาสามถึงห้าปีจึงจะสร้างได้โอ่อ่าและกว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้"

"อาคารบ้านเรือนทุกหลังในภาพงดงามและสูงถึงเพียงนี้ แม้ว่าจะมีช่างฝีมือที่ฝีมือดีมากมายก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างขึ้นมาได้ในช่วงเวลาอันสั้นเช่นนี้ ภาพวาดนี้จะต้องเจือความเท็จอย่างแน่นอน!"

เมื่อเสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวเช่นนี้เหล่าขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ก็ดูเหมือนว่าจะตระหนักว่าแม้อาคารในเมืองหลวงก็มิอาจสร้างสูงห้าหกชั้นได้ ส่วนอาคารในเมืองใหม่กลับสูงสิบจั้ง ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นไปได้

ดังนั้นจึงมีขุนนางผู้หนึ่งเสนอความเห็นว่า

"ขอองค์ชายใหญ่โปรดอธิบายด้วยว่าหากสิ่งที่ท่านกล่าวนั้นเป็นความจริง เช่นนั้นอาคารในภาพสร้างขึ้นมาได้อย่างไรพะยะค่ะ?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์