จิ้งจอกเฒ่าไท่ฟู่กลอกตา เมื่อคิดถึงว่าเพื่อที่จะกำจัดฉินเหยียนซึ่งเป็นหายนะในภายภาคหน้าเขาจึงสนับสนุนองค์ชายใหญ่ขึ้นมา ต่อให้จะกำจัดฉินเหยียนไปแล้ววันข้างหน้ามีความเป็นไปได้ว่าองค์ชายใหญ่อาจจะดำเนินรอยตามฉินเหยียน เขาจะไม่มีวันปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้า และกล่าวด้วยความกระตือรือร้นว่า
"ฝ่าบาทพะยะค่ะ! ตามความเห็นของกระหม่อมเรื่องนี้ไม่ควรรีบร้อนจนเกินไป....."
ยังมิทันรอให้เขากล่าวจบฮ่องเต้ฉิงก็หยิบฎีกาบนโต๊ะขึ้นมาและเขวี้ยงใส่เขา
"ยังจะพูดเรื่องไร้สาระอยู่อีก!"
"สถานการณ์เลวร้ายถึงเพียงนี้แล้วยังจะบอกว่าไม่เร่งรีบ เจ้ายังมีวิธีใดที่สามารถแก้ไขได้เช่นนั้นหรือ?"
ไท่ฟู่คุกเข่าลงกับพื้นและตกตะลึงเป็นอย่างมากจนมิอาจคิดแผนที่ดีได้
องค์ชายใหญ่ฉินชงประสานมือ และกล่าวว่า
"เสด็จพ่อโปรดระงับโทสะพะยะค่ะ หากไท่ฟู่เป็นกังวลสามารถให้ขุนนางฝ่ายบู๊ในราชสำนักไปกับข้า อย่างไรเสียในบรรดาขุนนางเหล่านี้ก็มีผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไท่ฟู่ ให้พวกเขาไปกับข้าด้วยจะได้ป้องกันคำครหาว่าข้าร่วมมือกับอ๋องเหยียน"
ไท่ฟู่ยืดตัวขึ้นมององค์ชายใหญ่ และกล่าวด้วยความไม่พอใจว่า
"ใครว่าท่านสมคบคิดกับอ๋องเหยียน ข้ากังวลว่าท่านจะกลายเป็น.....คนที่ 2"
ยังไม่ทันที่ไท่ฟู่จะกล่าวจบองค์ชายใหญ่ฉินชงก็รีบประสานมือและกล่าวว่า
"กินเงินเดือนของฮ่องเต้ ต้องแบ่งปันความกังวลของฮ่องเต้ด้วย ความกังวลใจของเสด็จพ่อย่อมเป็นความกังวลใจของลูก ลูกจะไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวังอย่างแน่นอน และจะกำจัดความกังวลในใจแทนเสด็จพ่อพะยะค่ะ!"
ทันทีที่กล่าวคำพูดนี้ออกไปฮ่องเต้ฉินก็ใจชื้นขึ้นมาทันที และยืนขึ้นตบโต๊ะ
"พูดได้ดี!"
"พวกเจ้าเห็นหรือยัง นี่ก็คือโอรสของข้า นี่ก็คือโอรสองค์โตของข้า!"
ก่อนหน้านี้เขากลัวเป็นอย่างมาก เวลานี้ฉินชงบุตรชายคนโตของเขาอาสาก้าวออกมาเพื่อช่วยเขาขจัดอุปสรรค ในใจเขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก!
แม้ว่าในใจของเหล่าขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ทั่วทั้งราชสำนักจะไม่ยอมรับและไม่เต็มใจเพียงใดก็ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยคำพูดที่ระคายหูในขณะที่ฮ่องเต้ฉินกำลังขาดสติ แต่ละคนต่างก็หน้าเขียวและก้มศีรษะลง
ฮ่องเต้ฉินโบกมือและสั่งว่า
"ขุนนางฝ่ายบุ๋นในท้องพระโรง จงไปที่ชายแดนกับโอรสของข้า!"
แม้ว่าขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ในราชสำนักจะไม่พอใจ ทว่าพวกเขาก็ทำได้เพียงคุกเข่าลงเพื่อรับราชโองการ
"ฝ่าบาททรงพระปรีชา!"
หลังจากการประชุมเช้าของราชสำนักเสร็จสิ้นลงเหล่าขุนนางต่างก็แยกย้ายกันไป
"เพื่อที่จะปราบอ๋องเหยียนถึงกับให้อำนาจอันยิ่งใหญ่เช่นนี้แก่องค์ชายใหญ่ ทำลายกำแพงบูรพาเพื่อซ่อมแซมกำแพงประจิม นี่จะทำอย่างไรกันดี!"
"กลัวแต่เพียงว่าเมื่ออ๋องเหยียนถูกปราบปรามแล้วองค์ชายใหญ่จะกลายเป็นใหญ่แต่เพียงผู้เดียว และเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม แล้วจะให้พวกเราอยู่รอดได้อย่างไร?"
"หากองค์ชายใหญ่สมรู้ร่วมคิดกับอ๋องเหยียน สถานการณ์จะไม่ยิ่งควบคุมยากขึ้นอีกหรือ!"
ในใจของไท่ฟู่ยังมีความกังวล เขาเงยหน้าขึ้นมององค์ชายแปดฉินอู่และกระซิบที่ข้างหูเขาว่า
"รีบไปหาเสด็จแม่ของเจ้า เวลานี้มีเพียงนางแล้วที่สามารถหว่านล้อมฝ่าบาทได้"
หลังจากองค์ชายแปดฉินอู่ประสานมือแล้วจึงไปที่ตำหนักของฉินซวงหลาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...