เห็นได้ชัดว่าบรรดาขุนนางไม่คิดว่าฮ่องเต้ฉินจะปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้ พวกเขาที่คุกเข่าลงบนพื้น ไม่กล้าแม้แต่ขยับตัว
บรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราไม่กล้าฮ่องเต้ที่กำลังโกรธ ยกมือขึ้นและพูดอย่าไงปตรงมา
“ฝ่าบาท ช่วงที่พระองค์ทรงพระประชวรหนัก ไท่ฟู่และพรรคพวกของเขาปิดบัง ขัดขวางราชสำนัก ใช้วิธีการส่วนตัวเพื่อบังคับให้จ้าวปั๋วซื่อยอมจำนนและทุบตีนางจนถึงแก่ความตาย!”
“จ้าวปั๋วซื่อ ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราได้รับความอับอายและความอัปยศ ฝ่าบาทได้โปรดทรงตรวจสอบอย่างใกล้ชิดและให้ความยุติธณรมแก่จ้าวปั๋วซื่อด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตรากว่าห้าสิบคนรายงานสิ่งที่พวกเขาได้เห็นและได้ยินในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาผ่านสาส์น
หัวหน้าขันทีรับสาส์นมาแล้วมอบให้ฮ่องเต้ฉิน เขาค่อย ๆอ่าน เพื่อตรวจสอบการกระทำของข้าราชสำนักเหล่านี้ช่วงมที่ไม่อยู่ในท้องพระโรง
ไท่ฟู่รู้สึกผิดและยกมือขึ้นอย่างหวาดกลัว พูดขึ้นว่า
“ฝ่าบาท! เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราพูดจาเลอะเทอะพ่ะย่ะค่ะ ข้าเพียงแค่จับจ้าวปั๋วซื่อมาเพื่อสอบสวนตามปกติ องค์ชายสิบสี่นั้นมีความทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก การที่จับคนข้างตัวเขามาสอบสวน ก็มิใช่เรื่องผิดปกตินี่ขอรับ”
“การลงโทษที่รุนแรงนั้นเป็นผู้คุมต่างหากที่ทำเช่นนั้น เขาทุบตจ้าวปั๋วซื่อ ไม่เกี่ยวอะไรกับกระหม่อม พวกเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราโยนความผิดให้กระหม่อมนะขอรับฝ่าบาท ได้โปรดตรวจสอบให้ดีขอรับ!”
เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราเองก็ไม่ได้ยอมแพ้แต่อย่างใด
“ฝ่าบาท ไท่ฟู่ต่างหากที่ทำเรื่องผิดให้เป็นถูก...”
“พอแล้ว!”
ฮ่องเต้ฉินตวาดออกมา สาส์นในมือเขาสั่นเทา เขาตัวสั่นและพูดด้วยความโกรธว่า
“ข้าไม่มายังท้องพระโรงแค่สองวัน พวกเจ้าสร้างเรื่องวุ่นวายถึงเพียงนี้”
“จับตัวเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตรา รุมทำร้ายนางจนตาย เรื่องเข่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในราบวงศ์ฉินของข้า พวกเจ้ายังกล้ามาพูดจาเอาดีเข้าตัวอีก!”
ทันใดนั้นฮ่องเต้ฉินก็โยนสาส์นใส่ไท่ฟู่ด้วยความโกรธ
“อธิบายมา!”
ไม่แปลกใจที่ฮ่องเต้ฉินโกรธถึงขนาดนี้ ครึ่งชีวิตแรกของเขาสร้างอาณาจักรฉินให้เจริญรุ่งเรือง เขามั่นใจว่าเขาเป็นถึงสามจักรพรรดิ และจะเป็นฮ่องเต้เพียงคนเดียวตลอดยุคสมัยนี้
หลังจากที่ตนถูกนายพลหลี่พูดตำหนิในท้องพระโรง เขาจึงตระหนักได้ว่าเพื่ออำนาจและความมั่งคั่งของจักรววรดิเขาทำพลาดไปมากมาก
ทั้งผิดและถูก ทั้งดีและไม่ดี ข้อความของเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจตราเองก็มิได้มีความเมตตาแต่อย่างใด ดังนั้นเขาที่เพิ่งหายจากอาการประชวร จึงรีบมายังท้องพระโรงเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
เพียงแต่เขาไม่คิดว่า เพื่อใส่ร้ายองค์ชายสิบสี้ ไท่ฟู่จะกล้าฆ่าจ้าวปั๋วซื่อ
“พวกเจ้าบังอาจมาก ไม่กล้าฟ้าดิน! บัลลังก์มังกรของเรา เจ้าก็คงอย่างนั่งด้วยใช่หรือไม่!”
“กระหม่อมมิบังอาจขอรับ!”
“กระหม่อมมิบังอาจขอรับ!”
บรรดาขุนนางต่างพากันคุกเข่าลง พวกเขาหวาดกลัวมากได้แต่นิ่งเงียบ
แม้ว่าร่างกายไท่ฟู่จะสั่นเทา แต่เขาวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะยอมแพ้อย่างแน่นอน
“ฝ่าบาท กระหม่อมเพียงแค่ต้องการแบ่งเบาความกังวลของพระองค์ องค์ชายสิบสี่มีอำนาจสูงกลบนาย หากยังไม่ตัดสินลงโทษและปล่อยให้มีชีวิตอยู่ต่อไป เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นมาได้ หวังว่าฝ่าบาทจะทรงคิดให้รอบด้านพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ฉินไม่ได้นั่งลง แต่กลับยืนเอามือไพล่หลัง ถามเสียงทุ้มออกไปว่า
“พวกเจ้าจะบังคับเรา ให้ฆ่าพระชายาและลูกทิ้ง ให้ข้าถูกตอกตะปูบนเสาแห่งประวัติศาสตร์ด้วยความอับอายเชียวหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...