องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 31

จ้าวจีเอ๋อร์เคยตรวจสอบมาว่า ก่อนหน้านี้ฉินเหยียนเคยเขียนทำนองเพลงสายน้ำ เป็นที่น่าตื่นตกใจอย่างมากจริงๆ แต่ตัวอักษรที่เขียนกลับไม่งดงาม ไม่อาจขึ้นสถานที่สูงส่งได้

ครั้งนี้จงใจเลือกหัวข้อศิลปะการเขียนที่ฉินเหยียนไม่ถนัดที่สุด ดูสิว่าเขาจะเอาชนะยังไง

เมื่อได้ยินว่าครั้งที่สามจะประลองศิลปะการเขียน ฉินเหยียนก็รู้ได้ทันทีว่าจ้าวจีเอ๋อร์ต้องจงใจเลือกสิ่งที่เขาไม่ถนัดแน่นอน

เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะในใจ คิดว่าฉินเหยียนลายมือน่าเกลียดงั้นรึ ล้อเล่นรึไง เขาเคยได้รับรางวัลชนะเลิศในการประลองคัดลายมือเยาวชนเชียวนะ จะเขียนไม่สวยได้อย่างไร?

วันนั้นเขาจงใจเขียนมันน่าเกลียด เพราะอย่างไรก็เพิ่งข้ามมิติมา จะทำพฤติกรรมที่ขัดต่อเจ้าของร่างมากไม่ได้ อย่างไรในตำหนักพระราชวังนี้ มันก็ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปทีละขั้นนี่นะ

พอทำเช่นนั้น กลับทำให้อาณาจักรจ้าวเข้าใจผิดว่าจับจุดอ่อนของเขาได้แล้ว

ฉินเหยียนแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหา ก็แค่เขียน ง่ายนิดเดียว!”

องค์ชายแปดฉินอู่หลุดหัวเราะแล้วพูดว่า “น้องสิบสี่ ด้วยลายมือที่น่าเกลียดของเจ้า อย่าทำเป็นเสแสร้งต่อหน้าองค์หญิงสามเลย ไม่รู้สึกขายหน้ารึไง”

เหล่าขุนนางแห่งอาณาจักรฉินต่างรู้ว่าลายมือของฉินเหยียนนั้นแย่มาก ทันใดนั้นก็เกิดพูดประชดประชันขึ้นมา

“พวกเจ้ายังไม่เคยเห็นสินะ ตัวอักษรที่องค์ชายสิบสี่เขียนน่ะเทียบไม่ได้กับเด็กน้อยอายุหนึ่งขวบขีดเขียนเล่นเลยล่ะ”

“ไม่มีความสามารถเช่นนั้นก็อย่าฝืนทำเลย จะอวดดีทำไม!”

“ข้าว่านะพอเห็นว่าตัวเองชนะสองครั้งก็เกิดได้ใจขึ้นมา ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”

จ้าวจีเอ๋อร์พูดอย่างได้ใจว่า “ตัวอักษรที่เขียนนั้นเป็นเช่นไรนั้น จะสามารถเห็นและเข้าใจได้ทันที งั้นเราว่ามาเขียนบทกลอนคนละบท มาดูว่าใครเขียนตัวอักษรได้ดีกว่ากัน!”

องค์ชายแปดคิดว่าการประลองครั้งนี้มีการตระเตรียมมาก่อนแล้ว ต่อให้จะเอาชนะองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวไม่ได้ แต่หากสามารถอยู่เหนือฉินเหยียนด้านศิลปะการเขียนได้ เขาก็รู้สึกสะใจ จึงได้ตอบกลับอย่างมั่นใจว่า “ไม่มีปัญหา”

จากนั้นเขาก็หันไปมองฉินเหยียนด้วยความท้าทายแล้วพูดว่า “น้องสิบสี่ ลายมือของเจ้าสู้อะไรไม่ได้หรอก พี่แปดจะแสดงให้ดูก่อน เจ้าคอยดูให้ดีล่ะ”

“ชิ” ฉินเหยียนเบ้ปากอย่างไม่พอใจ

จักรพรรดิฉินเองก็รู้สึกกังวลใจแทนพวกเขา แม้จะชนะถึงสองครั้งแล้ว แต่ลูกชายคนที่แปดก็เก่งศิลปะการต่อสู้ และลูกชายคนที่สิบสี่ก็ไม่ชอบฝึกคัดลายมือตั้งแต่เล็กแล้ว ลายมือของทั้งคู่ไม่อาจประลองกับใครได้เลย นั่นทำให้เขารู้สึกกังวลใจขึ้นมา แต่จะมาสั่งให้หยุดก็ได้ จึงทำให้เพียงนั่งชมอยู่ข้างๆเงียบๆ

เขาออกคำสั่งว่า “ยกสิ่งล้ำค่าทั้งสี่ในห้องหนังสือขึ้นมา”

เมื่อเทียบกับสองครั้งก่อน ครั้งนี้ฉินซวงหลานกลับมีสีหน้าที่ชัยชนะอยู่ในกำมือ อย่างไรนางก็เคยเห็นลายมือของฉินเหยียนแล้ว ในระยะเวลาสั้นๆแค่นี้ไม่มีทางฝึกฝนได้ดีหรอก

อีกทั้งตั้งแต่นางรู้ว่าต้องดองกับอาณาจักรจ้าวแล้ว ก็ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการเขียนมาสั่งสอนฉินอู่ และได้ฝึกฝนเป็นเวลาสองเดือนกว่าแล้ว ตอนนี้ลายมือของลูกชายของนางฉินอู่ ใช่ว่าคนทั่วไปจะเทียบได้

ผ่านไปครู่หนึ่ง เหล่าขันทีก็ได้เตรียมพู่กัน หมึกดำ กระดาษ จานฝนหมึก เรียบร้อยแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์