เมื่อฮ่องเต้ได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นพรวดทันที เขาหรี่ตาจ้องมองฉีเยี่ยนเอ๋อร์แล้วถามขึ้นอย่างเย็นชาว่า
“เจ้าคือบุตรสาวบุญธรรมที่ไท่ฟู่รับอุปถัมภ์มา เหตุใดจึงหักหลังกล่าวหาไท่ฟู่เช่นนี้ เจ้าหมายจะทำอะไรกันแน่?”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์คุกเข่าตัวตรงแล้วขมวดคิ้วพูดอย่างจริงจังว่า
“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันมิได้กล่าวหาไท่ฟู่เพคะ สิ่งที่หม่อมฉันกล่าวมาเป็นความจริงทุกประการ หากมีความเท็จแม้แต่น้อยฝ่าบาททรงประหารหม่อมฉันเลยก็ได้เพคะ!”
ฮ่องเต้ฉินไม่คิดว่าหญิงที่ยังสาวมากเช่นนี้จะกล่าววาจาเด็ดขาดได้เช่นนี้ ต่อให้ต้องตายก็จะกล่าวหาไท่ฟู่ นั่นทำให้เขารู้สึกสนใจขึ้นมาทันที มองต่ำลงมาแล้วพูดว่า
“เช่นนั้นเจ้าลองว่ามาสิ ว่าไท่ฟู่ก่อความโกลาหลอย่างไรบ้าง?”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์พูดอย่างชัดเจนว่า “ในสี่สิบปีนี้ไท่ฟู่ได้รับอุปถัมภ์บุตรสาวบุญธรรมกว่าสามพันคน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วเมืองหลวงเพคะ! บุคคลสำคัญทุกคนในพระราชวังและญาติใกล้ชิดของราชวงศ์ล้วนมีบุตรสาวบุญธรรมของเขาอยู่ รวมไปถึงตำหนักใหญ่ตำหนักในพระราชวัง ล้วนมีสายของไท่ฟู่เพคะ หม่อมฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเพคะ!”
ฮ่องเต้แนขมวดคิ้วแน่นแล้วจ้องฉีเยี่ยนเอ๋อร์อย่างเย็นชา และพูดอย่างเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างว่า
“พวกเจ้าเป็นสาย แล้วเข้ามาในพระราชวังด้วยเป้าหมายอันใด?”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์พูดอย่างจริงจังว่า “ส่งข่าวให้แก่ไท่ฟู่ ดึงเหล่าขุนนางชั้นใหญ่ในพระราชสำนักเป็นพวกเพื่อฟังคำสั่งของไท่ฟู่ เพื่อสร้างประโยชน์ให้เขา ในเวลาคับขันจะต้องพร้อมตายแทน ยอมสละชีวิตเพื่อเขาเพคะ!”
ฮ่องเต้ฉินเดือดดาลขึ้นมาทันที เขาตบโต๊ะแล้วด่าทอว่า “บังอาจ! ที่กล้ากล่าวเช่นนี้......เจ้ามีหลักฐานรึไม่?”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ตอบกลับทันทีว่า “ฝ่าบาทเพคะ หลักฐานอยู่บนร่างของหม่อมฉันเพคะ”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วนางก็ยืนขึ้นต่อหน้าของฮ่องเต้ฉิน แล้วถอดชุดบนร่างทีละตัวออก จนกระทั่งเปลื้องผ้าจนหมด แล้วจึงหยิบสมุดรายชื่อออกจากผ้ารัดท้อง จากนั้นก็ถวายขึ้น
“ฝ่าบาทเพคะ นี่คือรายชื่อบุตรสาวบุญธรรมที่ไท่ฟู่รับอุปถัมภ์มาตั้งแต่อดีต รวมแล้วมีมากกว่าสามพันกว่าคนเพคะ ถูกส่งไปเป็นหญิงดีงามในพระราชวังกว่าห้าร้อยคน ส่วนบุตรสาวบุญธรรมที่ถูกส่งไปยังจวนของขุนนางในพระราชสำนักมีมากกว่าสองพันห้าร้อยคนเลยเพคะ!”
“อีกทั้งเหล่าหญิงสาวพวกนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นคนโปรดข้างกายของเหล่าขุนนางด้วย ได้รับความโปรดปรานมากมาย”
ฮ่องเต้ฉินรับสมุดรายชื่อมา เขาจ้องมองรายชื่อแต่ละคนด้วยมือสั่นเทา
“รายชื่อที่ถูกขีดคาดบนสมุดหมายถึงหญิงผู้นั้นได้ตายไปแล้ว ไม่ถูกขีดคาดหมายถึงว่ายังอยู่ทำประโยชน์ให้แก่ไท่ฟู่ตามจวนต่างๆ จะส่งข่าวอยู่ตลอดเวลาเพคะ”
ฮ่องเต้ฉินมองสมุดรายชื่อเล่มหนา เขาโกรธจนมือสั่นเทา รู้สึกวิงเวียนศีรษะไปหมด เส้นเลือดบนหน้าผากกระตุก
“แล้วเหตุใด......พวกเจ้าจึงฟังคำสั่งของไท่ฟู่ เขาสั่งให้ส่งข่าวพวกเจ้าก็ส่งงั้นรึ?”
หมายถึงเหตุใดจึงไม่เลือกกระทำนั่นเอง
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์น้ำตาคลอ นางคุกเข่าแล้วร้องไห้ว่า “ฝ่าบาทเพคะ ทันทีที่มีคนคิดจะแข็งข้อกับไท่ฟู่ ไท่ฟู่ก็จะตัดแขนตัดขาของพวกหม่อมฉันทิ้ง ไว้ชีวิตพวกหม่อมฉันเฉกเช่นคนหมูเพคะ! ทรมานจนไม่เหลือความเป็นมนุษย์ เจ็บปวดทรมานแสนสาหัส หญิงสาวบางคนไม่อาจรับไหวจนกระทั่งกดลิ้นตนเองตาย”
“เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู ไท่ฟู่ให้เหล่าบุตรสาวบุตรธรรมทุกคนยืนมองผลจากการไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาซึ่งๆหน้า ดังนั้น พวกหม่อมฉันจึงมิกล้าแข็งข้อ......”
เมื่อฮ่องเต้ฉินได้ยินดังนั้นก็ขนลุกสะพรึงขึ้นมา เขาพูดอย่างเหลือเชื่อว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...