องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 325

องค์ชายเจ็ดพูดอย่างฉะฉานว่า “ไท่ฟู่เป็นบุตรของตระกูลขุนนางแต่เดิมแล้ว ได้สืบทอดความรู้และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามอีกทั้งยังเป็นมหาราชครูของท่านพ่อด้วย อบรมการศึกษาให้ท่านพ่อโดยเฉพาะ รวมถึงวิถีแห่งฮ่องเต้ด้วย”

“ต่อมาฮ่องเต้องค์ก่อนประชวรหนัก ประสงค์จะสืบบัลลังก์ให้ท่านพ่อ แต่เพราะท่านพ่อของข้าอายุน้อยนักจึงทำให้องค์ชายอื่นๆต่างไม่พอใจ ไท่ฟู่เป็นผู้ปัดเป่าภัยร้ายทั้งหมด และทำให้ท่านพ่อได้ขึ้นครองบัลลังก์ ช่วยให้อาณาจักรและพระราชสำนักมั่นคง จึงได้มีอาณาจักรฉินในวันทุกวันนี้”

“ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นระหว่างครูและศิษย์ พ่อและลูก สำหรับท่านพ่อแล้วมิมีผู้ใดที่ทัดเทียมไท่ฟู่ได้”

ที่แท้ไท่ฟู่ก็เคยช่วยให้ฮ่องเต้ฉินได้ครองบัลลังก์นี่เอง ไม่ลังเลที่จะใช้เส้นสายของตระกูลในการกำจัดภัยร้าย จึงได้ทำให้ฮ่องเต้ฉินได้นั่งบนบัลลังก์อย่างมั่นคง

และหลังจากนั้นฮ่องเต้ฉินก็เชื่อใจไท่ฟู่อย่างหมดใจ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ในพระราชสำนัก รวมถึงสาส์นกราบทูลจากฝ่ายต่างๆที่ส่งมาจะต้องผ่านไท่ฟู่ก่อน มีเพียงตอนที่ไท่ฟู่ตัดสินใจไม่ถูก ฮ่องเต้จึงจะตัดสินใจครั้งสุดท้าย ฮ่องเต้ฉินเชื่อใจไท่ฟู่มากเกินไปจึงได้ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไท่ฟู่มีอำนาจยิ่งใหญ่มากเพียงนี้

ฉินเหยียนถอนหายใจยาวๆแล้วพูดว่า “ดูท่าแล้วอย่างไรก็ยังล้มไท่ฟู่ไม่ได้”

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่ถามขึ้นด้วยความสับสนว่า “ท่านสิบสี่หมายความว่าอย่างไร?”

ฉินเหยียนอธิบายว่า “ท่านพ่อของเรานั้นหูเบาเชื่อคนง่าย หากเขาเป็นฮ่องเต้ที่เย็นชา โง่เขลาไร้ศีลธรรม ทันทีที่ข้าเข้าเมืองมาก็จะส่งคนมาฆ่าข้าทันที จะมาขังข้าไว้ในจวนจงเหรินทำไมกัน”

“ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ระหว่างไท่ฟู่และท่านพ่อยังแน่นแฟ้นไปถึงขั้นพ่อลูก หากในยามที่ไท่ฟู่หมดหนทางแล้วใช้วิธีเดียวกับข้ายอมสละอะไรบางอย่างเพื่อมีชีวิตรอด ยอมถอยก่อน เขาก็ไม่มีทางตายแน่นอน”

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่พูดว่า “ไท่ฟู่น่ะรึ? เขาฉลาดเช่นเจ้ารึไง?”

ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจังว่า “พี่เจ็ดอย่าดูถูกเขาเลย ไท่ฟู่เป็นคนที่เจ้าเล่ห์อย่างยิ่ง เขาสามารถแอบบงการใหญ่ได้โดยที่ไม่มีใครรู้ได้เช่นนี้ อำนาจ ความทะเยอทะยานและความรู้ของเขา ไม่ได้ด้อยไปกว่าข้านักหรอก ดูท่าแล้วในพระราชสำนักอาณาจักรฉินนี้ เกรงว่าจะมีเพียงเขาที่สามารถทัดเทียมข้าได้”

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่พยักหน้าเบาๆ “หากเป็นเมื่อก่อนข้าได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าต้องคิดว่าเจ้าโม้แน่ๆ แต่ตอนนี้ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไรข้าก็เชื่อทั้งนั้น จากที่ข้าดูแล้วไท่ฟู่ยังไม่เคยเอาชนะเจ้าได้เลย”

ฉินเหยียนมองไปนอกหน้าต่างแล้วพูดอย่างครุ่นคิดว่า “เช่นนั้นก็ต้องดูว่าครั้งนี้ไท่ฟู่จะเลือกอย่างไรแล้วล่ะ”

......

เช้าวันต่อมา

ฮ่องเต้ฉินสวมชุดเกราะ พกกระบี่ชื่อเซียวแล้วนั่งอยู่บนบัลลังก์อย่างน่าเกรงขามมาก บรรดาขุนนางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่างก็พากันส่งสายตาให้กันแล้วซุบซิบขึ้น ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“มีสิ่งใดสามารถกราบทูลได้ หากไม่มีก็ถอยไปซะ!”

เสียงแหลมๆของหัวหน้ากิจการพระราชวังขันทีเกาดังสนั่นตำหนัก

“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ข้ามีเรื่องอยากทราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์