เหล่าคณะทูตอาณาจักรจ้าวคนอื่นๆเองก็ต่างพากันพูดสมทบอย่างไม่ละอายว่า “นั่นสิ ข้าว่าตัวอักษรที่องค์ชายสิบสี่ของพวกเจ้าเขียนก็ไม่ได้ดีเท่าไร”
“ใช่ ตัวอักษรที่ไม่เหมือนตัวอักษร จะภาพวาดก็ไม่ใช่ ไม่ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่อะไรหรอกนะ!”
“อย่างไรตัวอักษรของปรมาจารย์หวังเหอจื้อแห่งอาณาจักรจ้าวของเราก็เหนือกว่า สิ่งที่องค์ชายสิบสี่เขียนนั้นเรียกว่าตัวอะไรกัน”
เมื่อพูดดังนั้นแล้ว เหล่าขุนนางแห่งอาณาจักรฉินก็ยอมไม่ได้
“พูดจาไร้สาระทั้งนั้น ตัวอักษรขององค์ชายสิบสี่ของเราต่างหากที่เหนือกว่า!”
“นั่นสิ ตัวอักษรขององค์ชายสิบสี่นั้นทั้งมีภาพที่บ่งบอกถึงความหมายของบทกลอน ใช่ว่าคนหยาบคายอย่างพวกเจ้าจะเทียบได้!”
“ครั้งนี้ พวกข้าชนะ!”
เป็นครั้งแรกที่เหล่าขุนนางแห่งอาณาจักรฉินออกหน้าแทนฉินเหยียน อย่างไรก็ตามเมื่อเกี่ยวกับหน้าตาของอาณาจักรแล้ว จะไม่เกี่ยงงอนในเรื่องที่ควรกระทำ
“องค์ชายสิบสี่ของเราต่างหากที่ชนะ!”
“ปรมาจารย์แห่งอาณาจักรจ้าวของเราต่างหากที่ชนะ!”
ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีความคิดเห็นของตนเองและโต้เถียงกันไม่รู้จบ
“พอได้แล้ว!” ฮ่องเต้ฉินตะโกนเสียงดังเพื่อห้ามให้ทั้งสองฝ่ายหยุดการโต้เถียงกัน
อย่างไรอาณาจักรจ้าวก็มาที่นี่เพื่อสมรสเพื่อสันติภาพ จะไม่ไว้หน้าเลยก็ไม่ได้ อย่างไรก็ชนะไปสองครั้งแล้ว ต่อให้ครั้งนี้จะเสมอกันก็ไม่ได้เป็นผลเสียอะไร จึงได้พูดให้บรรยากาศผ่อนคลายลงว่า
“โต้เถียงเช่นนี้กันต่อไปก็มีแต่จะส่งผลเสียต่ออาณาจักรฉินของข้า หากจะมีการขุ่นเคืองกันกับอาณาจักรจ้าว งั้นข้าว่าตัดสินเสมอกันจะดีกว่า”
จ้าวจีเอ๋อร์รู้ว่าคำพูดของฮ่องเต้ฉินนั้นเต็มไปด้วยการให้ความช่วยเหลือนาง นางกำลังจะตอบกลับ แต่หวังเซียนจือที่ยืนอึ้งอยู่อีกด้านมาตลอดก็เกิดเพ้อขึ้นมาว่า “ข้าแพ้แล้ว!”
ผลงานอันยิ่งใหญ่ของฉินเหยียนยังคงตราตรึงอยู่ในหัวของเขา ทุกขีดทุกเส้นนั้นประดุจดั่งเทพมังกรที่โปรยบินอยู่บนท้องฟ้า!
ส่วนภาพวาดในตัวอักษรนั้นก็ได้สะท้อนออกมาได้อย่างถึงอกถึงใจ! บทกลอนที่ปรากฏอยู่ในหัวของเขา ใช้วิธีการเขียนตัวอักษรในการสะท้อนออกมาจริงๆรึเนี่ย
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ที่สุดของศิลปะการเขียนที่เขาไล่ตามมาทั้งชีวิต จะมีคนทำได้จริงๆ สามารถใช้ตัวอักษรเดียวในการเขียนทุกสิ่งอย่างบนโลกได้
เมื่อเห็นผลงานอันยิ่งใหญ่นี้ปรากฏขึ้น ความตกตะลึงจากสุดหัวใจก็ยากที่จะสงบลง
“หวังเซียนจือ รู้รึเปล่าว่ากำลังพูดสิ่งใดออกมา!” น้ำเสียงของจ้าวจีเอ๋อร์โกรธเกรี้ยว ทั้งที่ฮ่องเต้ฉินเองก็ได้เอ่ยปากว่าเสมอกันแล้ว ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ตาเฒ่านี่กลับยอมแพ้!
เหล่าคณะทูตแห่งอาณาจักรจ้าวต่างพากันมองไปหาด้วยความสายตาที่โกรธเกลียด
หวังเซียนจือประสานมือคารวะแล้วขอโทษ “องค์หญิงสาม ตัวอักษรที่องค์ชายสิบแปดได้เขียนออกมานั้น เป็นระดับที่ข้าไม่อาจเอื้อมถึงได้จริงๆพ่ะย่ะค่ะ หากจะบอกว่าเป็นการเสมอกัน ข้าก็รู้สึกละอายใจเหลือเกิน! ครั้งนี้ข้าขอยอมแพ้!”
จ้าวจีเอ๋อร์โกรธจนมือทั้งสองข้างสั่นไม่หยุด แม้ว่านางจะพูดเก่งแต่หากเจ้าตัวขอยอมแพ้เอง ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ไม่มีประโยชน์ นางรู้สึกผิดหวังอย่างมาก หากรู้ว่าหวังเซียนจือเป็นคนหัวรั้นเพียงนี้ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีทางออกหน้าแทนเขาแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...