ฮ่องเต้ฉินและฮองเฮาฉินซวงหลานนั่งอยู่ตรงกลาง ส่วนผู้คนอาณาจักรฉินและอาณาจักรจ้าวก็ได้แบ่งฝ่ายกันเอง โดยยืนอยู่อีกสองข้าง
บนสนามประลอง ขันทีได้ยื่นคันธนูที่เหมือนกันให้กับองค์ชายแปดฉินอู่และจ้าวอู๋ตี๋แม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรจ้าว
องค์ชายแปดฉินอู่ถือคันธนูไว้ในมือ เขารู้สึกประหม่าอย่างห้ามไม่ได้ เขาค่อยๆสูดลมหายใจเขาลึกๆเพื่อพยายามทำให้จิตใจสงบลง
จ้าวอู๋ตี๋ที่อยู่ข้างๆเขาตรวจสอบคันธนูไปมา
ฉินเหยียนที่ยืนอยู่อีกด้านก็ได้พูดประชดขึ้นว่า “เป็นอะไรไปรึแม่ทัพใหญ่จ้าว กลัวว่าคันธรูนี้จะมีอะไรรึไง วางใจได้เลยล่ะ อาณาจักรฉินขอเราไม่ได้ตกต่ำ จนต้องทำอุบายลับๆล่อๆพวกนั้นหรอก!”
จ้าวอู๋ตี๋จ้องฉินเหยียนเขม็ง “หึ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดต้องระวังเอาไว้ก่อน ได้ข่าวว่าองค์ชายสิบสี่ใช้ธนูยังไม่เป็นเลยนี่ เช่นนั้นก็หยุดพูดคำประชดประชันเสียที ระวังธนูมันพลาดไปทำร้ายท่าน”
ฉินเหยียนทำเสียงเย็นชา “เจ้าน่ะ ไม่ช้าก็ต้องตายเพราะปาก”
จ้าวอู๋ตี๋กำลังจะตอบโต้ แต่เสียงขันทีก็ดังก้องไปทั่วสนามประลองเสียก่อน “นำเป้าใบวิลโลว์ขึ้นมา!”
เมื่อสิ้นเสียง ในระยะห่างหนึ่งร้อยเมตรก็มีขันทีสองคนดันเป้าธนูที่มีใบวิลโลว์ตรึงอยู่ออกมาให้ผู้คนได้เห็น ทันทีที่องค์ชายแปดเห็นเป้าใบวิลโลว์ก็ถึงกับอึ้งไปทันที
เขาคิดไว้แล้วว่าต้องยากมากๆ แต่คิดไม่ถึงว่าใบวิลโลว์ระยะหนึ่งร้อยเมตรจะเล็กมากเพียงนั้น ประจวบกับการมองเห็นในตอนกลางคืนนั้นค่อนข้างมืด ทำให้เปอร์เซ็นต์การยิงโดนนั้นน้อยลงมามาก หน้าผากของเขามีเหงื่อตกลงมาทันที
เหล่าขุนนางอาณาจักรฉินเองก็ตกตะลึงกันอย่างมาก
“โอ้! ใบวิลโลว์ที่ระยะห่างหนึ่งร้อยเมตรนั้นมีขนาดนั้นเข็มเองนะเนี่ย แล้วจะยิงโดนได้อย่างไรกัน!”
“นั่นสิ! ด้วยสายตาชราของข้า ข้ามองเห็นไม่ชัดเลยว่าใบวิลโลว์อยู่ตำแหน่งใดของเป้า”
“โชคดีที่องค์ชายแปดมีทักษะการยิงธนูที่เฉียบแหลม ข้าเชื่อมั่นในองค์ชายแปด!”
“ถูกต้อง ข้าเองก็เชื่อมั่นในองค์ชายแปดเช่นกัน!”
เหล่าขุนนางอาณาจักรฉินต่างมีความมั่นใจในองค์ชายแปดฉินอู่อย่างมาก แม้แต่ฮ่องเต้ฉินเองก็ยังรู้สึกว่า การแข่งยิงธนูในครั้งนี้ลูกชายของเขาจะต้องได้รับชัยอย่างไม่ต้องสงสัย จึงได้พูดอย่างมั่นใจว่า “จะค่ำแล้ว เริ่มเลยเถอะ!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของฮ่องเต้ฉินแล้ว องค์ชายแปดฉินอู่ก็รู้สึกใจเต้น เขากัดฟันและพยายามเตือนตัวเองว่าอย่าทำผิดพลาดเป็นอันขาด
“พ่ะย่ะค่ะ”
พวกเขาค่อยๆ ยกธนูในมือขึ้น วางลูกธนูไว้ที่ช่องลูกธนู จากนั้นหลับตาซ้าย มองที่เป้าใบวิลโลว์ที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรด้วยตาขวา ปรับการเล็ง หายใจเข้า และชักธนูให้เต็มที่
เหล่าขุนนางอาณาจักรฉินต่างรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก พวกเขาชะเง้อหน้าไปมองกันหมด
ฮองเฮาฉินซวงหลานเองก็ตื่นเต้นอย่างมาก นางกำมือแน่นจนเหงื่อออก หากลูกชายของนางสามารถเอาชนะการแข่งครั้งนี้ได้ จะได้ขอรางวัลใหญ่ต่อฮ่องเต้ได้
ฉินเหยียนมองออกว่าองค์ชายแปดฉินอู่ตื่นเต้นอย่างมาก มุมปากของเขายิ้มประชดขึ้น
ขณะนี้องค์ชายแปดฉินอู่ตื่นเต้นอย่างมาก เป้าใบวิลโลว์ที่อยู่ห่างไปร้อยเมตรกระโดดโลดเต้นไปมาราวกับมีขา รู้สึกว่าจะพยายามเล็งเท่าไรก็เล็งไม่โดน
ลูกธนูดอกนี้ยังคงไม่ได้ยิง จนทำให้เหล่าขุนนางหัวใจแทบหยุดเต้น
“เหตุใดองค์ชายแปดจึงยังไม่ยิงอีก?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
เสียงพึมพำที่ดังข้างหูเขาไม่หยุดยิ่งทำให้ฉินอู่รู้สึกสับสนมากกว่าเดิม เขาสงบสติอารมณ์แล้วปล่อยลูกธนูตรงไปยังเป้าที่ไม่นิ่งนั่น
“สวบ” ลูกศรยิงออกไปเป็นเส้นโค้ง
“ยิงแล้ว!”
“ยิงโดนไหม!”
“มองไม่ชัดเลย!”
ทุกคนในสนามประลองต่างพากันยื่นคอออกมาเพราะอยากรู้คำตอบ
ขันทีที่อยู่ไกลๆรีบวิ่งยกเป้าใบวิลโลว์ขององค์ชายมายังเบื้องหน้าของฮ่องเต้ฉิน ทุกคนจึงได้เห็นชัดเจนว่าลูกธนูขององค์ชายแปดนั้น แม้จะยิงโดนคราดไม้ แต่ก็ยังอยู่ห่างจากใบวิลโลว์ห้านิ้ว พลาดไปมากเลยทีเดียว
ขันทีรายงานอย่างกล้าๆกลัวๆว่า “ระ รายงานฝ่าบาท องค์ชายแปด มิได้ยิงโดนใบวิลโลว์พ่ะย่ะค่ะ”
ทันใดนั้นเหล่าขุนนางอาณาจักรฉินถอนหายใจอย่างตะลึง
“องค์ชายแปดยิงไม่โดนงั้นรึ เป็นไปไม่ได้”
“อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น น่าเสียดายยิ่งนัก!”
ฮ่องเต้ฉินสีหน้าไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโกรธ
ฉินอู่ก้มหน้าไม่กล้าสบตากับฮ่องเต้ฉิน เขาประสานมือคารวะแล้วพูดว่า “ลูกไร้ความสามารถ เชิญท่านพ่อลงโทษพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮองเฮาฉินซวงหลานมองเห็นความโกรธเกรี้ยวในแววตาของฮ่องเต้ฉิน นางกลัวว่าลูกชายจะถูกลงโทษจึงรีบทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง
“ฝ่าบาท ท่านก็รู้ถึงทักษะการยิงธนูของอู่เอ๋อร์ ในค่ำคืนที่ลมแรงเช่นนี้ การจะยิงโดนนั้นแสนลำบาก อีกอย่างทหารอาณาจักรจ้าวเองก็ยังไม่ได้ยิง ยังไม่ถือว่าเราแพ้ แล้วข้าว่าแม้แต่อู่เอ๋อร์ยังยิงไม่โดนใบวิลโลว์เลย เจ้าแม่ทัพใหญ่ผู้นี้ก็คงยิงไม่โดนแม้แต่ไม้หรอกเพคะ”
เมื่อจ้าวอู๋ตี๋ได้ยินสิ่งที่ฮองเฮาฉินซวงหลานกล่าว เขาก็ทำเสียงเย็นชา
เขายกคันธนูขึ้นแล้ววางลูกธนูลงบนธนู จากนั้นก็ทำการยิงไปยังเป้าใบวิลโลว์โดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย
“สวบ” ลูกธนูยิงออกไปเป็นเส้นโค้ง
ลูกธนูยิงออกไปก่อนที่ทุกคนจะไหวตัวทัน เมื่อดึงสติกลับมาได้ก็พบว่าขันทีได้ยกเป้าใบวิลโลว์มาถึงแล้ว
“รายงานพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท แม่ทัพจ้าวอู๋ตี๋ยิงโดนเป้าใบวิลโลว์พ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าของฮองเฮาฉินซวงหลานแย่ยิ่งกว่าสิ่งใด ยังพูดไม่ทันไรก็หน้าแตกเสียแล้ว
สีหน้าของฮ่องเต้ฉินโกรธเกรี้ยวจนขีดสุด เขาจ้องฉินซวงหลานเขม็ง
“แพ้แล้วก็คือแพ้แล้ว”
ฉินซวงหลานไม่กล้าไม่กล้าพูดอีก เธอลังเลและไม่รู้ว่าจะพูดอะไร “ฝ่าบาท ข้า......”
จ้าวอู๋ตี๋หัวเราะเสียงดัง “ฮ่องเต้ฉิน การประลองครั้งนี้พวกข้าได้รับชัยชนะ คืนองค์หญิงมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
ฉินเหยียนหลุดหัวเราะออกมาแล้วเดินหน้าออกไปพร้อมพูดว่า “ใครบอกว่าพวกเจ้าชนะกัน พี่แปดผู้ไร้ค่าแพ้ แต่ข้ายังไม่แพ้ แล้วเหตุให้จึงบอกว่าพวกเจ้าชนะแล้วล่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์