องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 386

เมื่อเข้ามาในจวนแล้ว เหล่าปิ่นหิรัญย์ก็ได้พยุงจ้าวจีเอ๋อร์ลงจากรถม้า จ้าวจีเอ๋อร์ไม่ได้มองหัวหน้าหม่าเลยแม้แต่น้อย นางเดินเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว นางนั่งอยู่หน้าโต๊ะด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม

เมื่อกวาดสายตาไปมองหนังสือแผนที่และสมุดบัญชีแล้ว ไม่ว่าตรงไหนก็เป็นบัญชีปลอมที่สมบูรณ์แบบอย่างมาก นางจงใจไม่เปิดดูแล้วพูดว่า

“หัวหน้าเฉินอยู่ที่หมู่บ้านมาสิบกว่าปี ดำเนินงานได้อย่างเรียบร้อยเสียจริง มองก็รู้ได้เลยว่าหมู่บ้านจะต้องถูกหัวหน้าเฉินดูแลได้อย่างมีระเบียบ”

หัวหน้าเฉินคุกเข่าลงประสานมือคารวะหลังฉากบังลมแล้วพูดว่า “ขอบพระทัยในคำชมเชยพ่ะย่ะค่ะองค์หญิงสาม แต่ว่ามันก็น่าละอายยิ่งนัก หมู่บ้านหู่เหยียนมีชาวนาราวแปดสิบกว่าครัวเรือน บัดนี้ยังเป็นหนี้ค่าเช่าและหมู่บ้านด้วยพ่ะย่ะค่ะ หนี้ยังไม่ได้รับการชำระ ข้าน้อยมิรู้ว่าจะกราบทูลเช่นไร และปรารถนาองค์หญิงสามชี้แนะพ่ะย่ะค่ะ”

ดวงตาของจ้าวจีเอ๋อร์เย็นยะเยือกทันที นางถามด้วยเสียงที่เข้มงวดว่า “มีบัญชีอะไรอีก?”

หัวหน้าเฉินแสร้งทำเป็นรู้สึกผิดแล้วประสานมือคารวะพูดว่า “เป็นเพราะข้าน้อยทำงานได้ไม่ดี แต่นี่เป็นหนี้คงค้าง โปรดองค์หญิงสามตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็หันหลังไปส่งสายตาให้เหล่าเด็กรับใช้ เหล่าเด็กรับใช้รีบยกหีบไม้หลายหีบขึ้นมา ด้านในล้วนเป็นหนังสือแจ้งหนี้เต็มไปหมด

จ้าวจีเอ๋อร์เงยหน้า เหล่าปิ่นหิรัญย์เข้าใจในทันที พวกนางรีบเดินเข้าไปนำหีบที่มีใบแจ้งหนี้มายังหลังฉากบังลม

จ้าวจีเอ๋อร์หยิบขึ้นมาดูไม่กี่เล่มแล้วขมวดคิ้ว ใบแจ้งหนี้ถูกเขียนอย่างยุ่งเหยิง ไม่มีการระบุที่ชัดเจนเลย ล้วนเป็นหนี้สูญ

หัวหน้าเฉินแสร้งทำเป็นลำบากใจแล้วอธิบายด้วยสีหน้าเศร้าโศกว่า

“องค์หญิงสามทรงทราบดี ว่าเหล่าชาวนาต้องพึ่งฟ้าฝนในการดำรงชีพ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่มีฝนตกตามฤดูกาล พืชผลในทุ่งนาก็ตายเพราะภัยแล้งและน้ำขัง เมล็ดพืชเน่าเปื่อยในพื้นดินไม่อาจเก็บเกี่ยวได้เลย เงินที่เราสูญเสียไปตลอดหลายปีที่ผ่านมาอย่างน้อยก็หลายหมื่นตำลึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“เมื่อการเก็บเกี่ยวไม่ดี เหล่าชาวนาก็ไม่อาจมีเงินมาจ่ายค่าเช่าได้ เมื่อสะสมนานๆเข้า หลายปีมานี้ค่าเช่าค้างราวหนึ่งหมื่นตำลึงพ่ะย่ะค่ะ”

“อีกทั้งคนกินธัญพืชอาหารแห้งหลายชนิดจึงล้มป่วย มักจะปวดหัวและเป็นไข้ ครอบครัวชาวนายากจนจริงๆ จะรักษาโรคก็ต้องยืมเงิน เหล่าผู้ดูแลอย่างพวกข้าก็ล้วนมีเมตตา คงยืนมองชาวนาป่วยจนล้มตายไปไม่ได้ เงินที่ให้ยืมไปนั้นรวมแล้วก็มีห้าหกพันตำลึงพ่ะย่ะค่ะ เมื่อมาคิดคำนวณกันดูแล้ว อย่างน้อยก็มีถึงสามหมื่นหก สามหมื่นเจ็ดกระมังพ่ะย่ะค่ะ”

จ้าวจีเอ๋อร์ทำเสียงเย็นชา เจ้าสุนัขจิ้งจอกนี่กำลังรอนางมาที่นี่อยู่เลยสินะ ใช้บารมีขององค์ชายแปดและฮองเฮาในการตักตวงผลประโยชน์อย่างเปิดเผยเช่นนี้ ดูท่าเหล่าชาวนาในหมู่บ้านหู่เหยียนคงยากลำบากกันน่าดู

จากนั้นก็โยนบัญชีหนี้ค้างเข้าไปในหีบแล้วพูดเสียงเข้มงวดว่า “จากสิ่งที่กล่าวมา ในแต่ละปีหมู่บ้านแห่งนี้ไม่มีผลกำไรเลย แถมยังขาดทุนไปไม่น้อย ฮองเฮาทรงทราบเรื่องนี้รึไม่?”

หัวหน้าเฉินพูดอย่างน่าเชื่อถือว่า “ฮองเฮาทรงรักชาวเมืองดุจลูกของพระองค์เอง ทรงมีน้ำใจและเอื้อเฟื้อต่อชาวนามาโดยตลอด ยิ่งกว่านั้นฮองเฮาผู้มีคุณธรรมเองก็ไม่คิดจะหาผลประโยชน์จากที่นาแค่นี้ ทรงถือเป็นการให้ทานชาวนาเหล่านี้พ่ะย่ะค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์