องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 388

จ้าวจีเอ๋อร์มองชาวนาที่กราบกรานไม่หยุด จึงได้เอ่ยห้ามว่า “ลุกขึ้นเถิดทุกท่าน วันนี้ข้าจะทวงความยุติธรรมให้เอง”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็เงยหน้าขึ้น เสี่ยวชุนรีบไปพาปลัดเทศาและอาลักษณ์เข้ามา ทั้งสองคุกเข่าประสานมือทำความเคารพ

“เข้าเฝ้าองค์หญิงสามพ่ะย่ะค่ะ”

จ้าวจีเอ๋อร์พูดเสียงเรียบว่า “ลุกขึ้นเถิด ที่ข้าเชิญทั้งสองท่านมาในวันนี้ เพราะอยากให้มาเป็นพยาน”

ปลัดเทศาและอาลักษณ์รีบประสานมือคารวะแล้วพูดว่า “องค์หญิงสามวางใจเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าทั้งสองจะเที่ยงธรรม ไม่เก็บคนทรยศไว้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

จ้าวจีเอ๋อร์พยักหน้าเบาๆแล้วถามขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “หัวหน้าเฉิน ต้องการให้ปลัดเทศาและอาลักษณ์มุ่งหน้าไปตรวจสอบทุกหลังคาเรือนของชาวนาผู้เช่ารึไม่ เผื่อว่าพวกเขาจะใส่ร้ายและพูดเกินจริง”

หัวหน้าเฉินสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก เขากัดฟันแล้วพูดว่า

“องค์หญิงสามอย่าลืมไปละ ว่าหมู่บ้านนี้ยังไม่ได้จ่ายค่าหนี้ค้างก้อนโต หากนำตัวพวกข้าไปสอบปากคำที่ศาลาว่าการ พูดออกไปราชวงศ์ต่างหากที่จะขายหน้า!”

จ้าวจีเอ๋อร์พูดอย่างประชดประชันว่า “พอคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากเจ้าแล้วมันช่างน่าขันยิ่งนัก หากปล่อยเนื้อร้ายอย่างเจ้าเอาไว้ให้ทำร้ายชาวเมืองต่อไปต่างหาก ที่จะทำให้ราชวงศ์ต้องขายหน้า!”

จากนั้นก็โบกมือ เหล่าองครักษ์เงานำหีบที่บรรจุหนังสือหนี้ออกมาเทต่อหน้าเหล่าชาวนาผู้เช่า

เหล่าชาวนาต่างพากันซุบซิบว่า “ดูสิ นั่นคือใบแจ้งหนี้ที่หัวหน้าเฉินบีบบังคับให้เราลงนามกัน!”

“นี่องค์หญิงสามจะทำอะไรกัน?”

จ้าวจีเอ๋อร์ลุกขึ้นแล้วรับคบเพลิงจากองครักษ์เงามา นางเดินไปเบื้องหน้าหนังสือแจ้งหนี้แล้วพูดอย่างจริงจังว่า

“ข้าไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับเรื่องสกปรก และไม่ต้องการแย่งชิงอะไรกับพวกไร้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในหมู่บ้านหู่เหยียน ตอนนี้อำนาจในการตัดสินทั้งหมดเป็นของข้า เช่นนั้นข้าก็ต้องจัดการหนี้สูญเหล่านี้ในหู่เหยียนให้เรียบร้อย”

เมื่อพูดดังนั้นแล้ว ทำเอาหัวหน้าเฉินหน้าแดงไปหมด เขาพูดด้วยสีหน้าที่ดุร้ายยิ่งขึ้นว่า “เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร!”

จ้าวจีเอ๋อร์จ้องหัวหน้าเฉินเขม็งแล้วพูดอย่างเข้มงวดว่า “ในเมื่อเป็นหนี้สูญ ก็เผามันทิ้งไปเสีย เงินที่เหล่าชาวนาผู้เช่าได้ค้างเอาไว้ ถือเป็นยกเลิกทั้งหมด!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็ได้โยนคบเพลิงลงไปในกองหนี้ทั้งหมด พริบตาเดียวใบแจ้งหนี้ก็มีไฟลุกขึ้นมา

ชาวเมืองมองใบแจ้งหนี้ที่ถูกเผาไหม้แล้ว แรงกดดันอันใหญ่หลวงภายในใจก็ได้หายไป น้ำตาไหลรินลงมาไม่หยุด พวกเขาพากันคุกเข่าพูดอย่างซาบซึ้งว่า

“ขอบพระทัยองค์หญิงสามที่ช่วยชีวิตพ่ะย่ะค่ะ!”

“ขอบพระทัยในความกรุณาธิคุณพ่ะย่ะค่ะองค์หญิงสาม!

หัวหน้าเฉินมองดูเปลวไฟที่ลุกโชน เขาพูดด้วยสีหน้าที่น่าเกลียดว่า “ไร้สาระสิ้นดี!”

จ้าวจีเอ๋อร์พูดอย่างเย็นชาว่า “วันนี้มีทั้งปลัดเทศาและอาลักษณ์อยู่ด้วย ข้าอยากจะขอคำชี้แนะเสียหน่อย การค้าขายพื้นที่โดยพลการ รังแกข่มเหงชาวเมือง ทารุณชีวิตคน ไม่ยึดมั่นในกฎอาณาจักรฉิน มีความผิดอันใดรึ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์