องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 40

“หรือว่าองค์ชายสิบสี่จะ......”

“ไม่หรอกนะ......”

เหล่าขุนนางอาณาจักรฉินต่างพูดออกมาอย่างตกตะลึง ทุกคนล้วนมองด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ และจับตามองท่าทางของฉินเหยียนทุกกระบวน

ฉินเหยียนนำลูกธนูทั้งสามดอกวางตรงกลางของคันธนู ในขณะที่ยกคันธนูขึ้นเขาก็ลดแขนซ้ายลง และดันคันธนูไปข้างหน้าเพื่อยึกลูกธนูทั้งสามดอกไว้

เขาใช้ไหล่ซ้ายออกแรงดันไหล่ขวาเพื่อชักคันธนู และใช้มือที่กำลูกธนูดึงมาใต้คาง ทำการดึงธนูให้สุด จากนั้นหลับตาซ้าย ตาขวาเล็งใบวิลโลว์บนเป้า

ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่ผ่อนคลาย แล้วพูดอย่างมั่นใจว่า “จ้าวอู๋ตี๋ ดูให้ดีละว่าสิ่งใดคือวิชายิงธนู!”

“สวบ” เมื่อสิ้นเสียงฉินเหยียนก็ปล่อยมือ

ลูกธนูทั้งสามดอกพุ่งไปยังเป้าใบวิลโลว์ที่อยู่ห่างไปร้อยเมตรอย่างรวดเร็วราวกับลูกปืน สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปยังลูกธนูสามดอกที่พุ่งไปไกล

“โดนรึเปล่า?”

“ยิงโดนไหมเนี่ย!”

หากไม่ใช่เพราะต้องสงวนกิริยาในพระราชวังแล้ว พวกเหล่าขุนนางก็คงวิ่งไปดูเองแล้ว

ขันทีที่อยู่ห่างออกไปวิ่งยกเป้าวิลโลว์มาแล้วตะโกนราวกับเด็กว่า “โดนแล้วโดนแล้ว!”

เขาวิ่งมาถึงตรงหน้าทุกคนอย่างเหน็ดเหนื่อย “รายงานพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท องค์ชายสิบสี่ยิงธนูทั้งสามดอกโดนใบวิลโลว์ทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ!”

เป็นไปตามคาด ลูกธนูทั้งสามดอกของฉินเหยียนเสียบใบวิลโลว์อย่างเป็นระเบียบ ผลลัพธ์นี้ทำเอาเกิดความฮือฮาอย่างมาก

“พระเจ้า! ใบวิลโลว์เล็กๆนั้นมีลูกธนูสามดอกเสียบเอาไว้! มหัศจรรย์มาก!”

“แม่ทัพแห่งอาณาจักรจ้าวก็ไม่เท่าไรนี่ ยิงโดนแค่ดอกเดียวเอง แต่ลูกธนูสามดอกขององค์ชายสิบสี่กลับยิงลูกธนูเรียงกันบนใบวิลโลว์!”

“ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!”

ด้วยเสียงที่ประจบประแจงข้างหูนั้น จ้าวอู๋ตี๋กัดฟันแน่นแล้วก้มหน้าลง แพ้อีกแล้ว เขาเองก็รู้สึกหม่นหมองอย่างมาก

ฮ่องเต้ฉินหัวเราะเสียงดัง “เหยียนเอ๋อร์ วันนี้เจ้าทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจอย่างที่สุด ไม่เลว มีความคล้ายข้าเมื่อยังวัยเยาว์”

คำที่ชมฉินเหยียนเหล่านี้ กลับทำให้ฮองเฮาฉินซวงหลานรู้สึกไม่รื่นหูเอาเสียเลย

ฉินเหยียนกลับหัวเราะจนหุบปากไม่ได้ เขาแสร้งทำเป็นจริงจังแล้วพูดว่า

“ลูกมีความสามารถเพียงเท่านี้ จะเทียบกับท่านพ่อได้อย่างไร ท่านประหยัดและรักชาวเมือง จิตใจกว้างขวาง ทุ่มเทเพื่อให้อาณาจักรเจริญรุ่งเรือง ปฏิรูปโดยผู้มีความสามารถ กำลังของลูกยังไม่เท่าส่วนหนึ่งของท่านพ่อเลยพ่ะย่ะค่ะ”

คำเยินยอนี้ทำเอาฮ่องเต้ฉินยิ่งหลงระเริงเข้าไปใหญ่ ฮองเฮาฉินซวงหลานที่อยู่อีกด้านสีหน้าไม่พอใจมากกว่าเดิม

แม้แต่องค์ชายแปดฉินอู่เองก็แอบด่าทอในใจ เจ้าสิบสี่ช่างพูดเยินยอเก่งนัก ไม่ว่าอะไรเขาก็ได้หน้าไปหมด!

ฉินเหยียนหันหน้ามาพูดกับจ้าวอู๋ตี๋ว่า “ เป็นไรอย่างไรบ้างแม่ทัพใหญ่จ้าว ยอมรับรึไม่?”

จ้าวอู๋ตี๋โกรธจนหน้าแดงไปหมด เขากำมือแน่นแล้วกัดฟันกรอด “ไม่ยอมรับ! การแข่งแบบไม่ใช้กำลังแพ้ แต่ยังมีแบบใช้กำลังอยู่ เรามาแข่งกันอีกครั้ง!”

ฉินเหยียนยิ้มอย่างชั่วร้าย “แบบใช้กำลังก็ย่อมได้ แต่ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน ตอนนี้องค์หญิงของพวกเจ้าเลื่อนขั้นลงตามสัญญาแล้ว หากการแข่งแบบใช้กำลังพวกเจ้ายังแพ้อีก งั้นองค์หญิงสามของพวกเจ้าก็ต้องเป็นนางทาสของข้า!”

จ้าวจีเอ๋อร์จ้องฉินเหยียนอย่างโกรธเกรี้ยว

ต๋าอิ้ง! หากแพ้ก็ต้องเป็นนางทาส! ความอัปยศอดสูที่ไอ้สารเลวนี่ทำกับนางถือเป็นความอัปยศอย่างยิ่ง!

จ้าวจีเอ๋อร์เสียการควบคุมแล้วตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ประลองซะ แล้วสังหารเขา!”

ฉินเหยียนไม่ได้โกรธแต่กลับหัวเราะ “แค่นี้ก็โกรธแล้วงั้นรึ อยากจะสังหารข้าก็ต้องดูว่าพวกเจ้ามีความสามารถนี้ไหม”

จ้าวอู๋ตี๋กัดฟันแล้วคุกเข่าข้างเดียวพร้อมพูดว่า “พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงสามวางใจเถิด ข้าน้อยจะสู้อย่างสุดกำลัง สังหารเจ้าคนตัณหากลับที่ทำให้ท่านต้องอับอายพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อองค์หญิงสามต้องตกต่ำเป็นนางทาส เหล่าคณะทูตอาณาจักรจ้าวก็เดือดดาลกันอย่างมาก พวกเขาอยากจะหั่นเจ้าคนชั่วผู้โอหังให้เป็นชิ้นๆ

เหล่าขุนนางอาณาจักรฉิน เมื่อได้ยินว่าแม่ทัพอาณาจักรจ้าวจะทำการประลองด้วยชีวิต ก็กระซิบกระซากขึ้นมา

“นะ นี่มันกลั่นแกล้งกันชัดๆเลย แม่ทัพอาณาจักรจ้าวเคยมีประสบการณ์การต่อสู้มาหลายครั้ง แต่องค์ชายที่สิบสี่นั้นอ่อนแอ จะประลองได้อย่างไร!”

“นั่นสิ จะตอบรับไม่ได้เด็ดขาด หากโดนโจมตีเข้าอาจถึงแก่ชีวิตเชียวนะ”

ฮ่องเต้ฉินเองก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกชายเช่นกัน เรื่องในวันนี้เขาเข้าใจแล้วว่า การสมรสเพื่อสันติภาพของอาณาจักรจ้าวนั้นเป็นเพียงคำหลอกลวงทั้งนั้น อีกทั้งยังกล่าวออกมาว่าจะสังหารองค์ชายสิบสี่ต่อหน้าทุกคน มันคือการยั่วยุท้าทายอาณาจักรฉินอย่างเห็นได้ชัด!

“อัปยศอดสูนัก!” ฮ่องเต้ฉินตบโต๊ะแล้วยืนขึ้นอย่างน่าเกรงขาม

“คณะทูตอาณาจักรจ้าว พวกเจ้าเห็นหอชิ่นกงคือสถานที่แบบไหนกัน! เจ้าพวกชั้นต่ำทั้งหลายกล้าทำโอหังเช่นนี้ มีแผนการอะไรกันแน่?”

เมื่อพูดดังนั้นแล้ว เหล่าคณะทูตอาณาจักรจ้าวก็สะดุ้งโหยง พวกเขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าได้เผยเป้าหมายที่แท้จริงออกมาอย่างไม่ตั้งใจเสียแล้ว ในเมื่อหลุดแล้วก็ไม่ต้องแสร้งทำอีกต่อไปแล้ว

“ฮ่องเต้ฉิน พวกข้าอาณาจักรจ้าวอุตส่าห์มารับการสมรสเพื่อสันติภาพ แต่องค์ชายอาณาจักรฉินของท่าน ไม่เพียงแต่จะไม่ต้อนรับอย่างดีแล้ว กลับทำการท้าทายยั่วยุหลายครั้ง แล้วจะให้พวกข้าอดทนได้อย่างไรกันพ่ะย่ะค่ะ”

“องค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวนั้นเป็นถึงผู้สูงส่ง แต่การสมรสกับอาณาจักรฉินกลับให้เป็นต๋าอิ้ง หากทั่วทั้งอาณาจักรรู้เข้า ก็ไม่กลัวว่าจะโกรธเกรี้ยวกันหมดรึ?”

การตอบโต้ของคณะทูตอาณาจักรจ้าวทำให้มีคนเห็นด้วยมากมาย โดยเฉพาะฮองเฮาฉินซวงหลาน

“ฝ่าบาท คณะทูตอาณาจักรจ้าวพูดถูกนะเพคะ วันนี้เจ้าสิบสี่ทำเกินไปจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็ลงโทษเขาด้วยการให้ประลองกับแม่ทัพอาณาจักรจ้าว เพื่อลดความโอหังของเขาลงบ้าง”

เมื่อองค์ชายแปดเห็นดังนั้นจึงสมทบทันที “ท่านพ่อ วันนี้น้องสิบสี่ทำเกินไปจริงๆ เพื่อดับไฟแห่งความโกรธของคณะทูตอาณาจักรจ้าว ให้พวกเขาประลองกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์