จ้าวหรงจีมองเหล่าชาวเมืองที่เอาแต่ร้องไห้กราบกรานอย่างเจ็บปวดแล้วก็ใจอ่อนอีกครั้ง และตอบตกลงว่า
“ช่วยชีวิตคนหนึ่งชีวิต ได้กุศลมหาศาลยิ่งกว่าทำบุญสร้างสถูปเจดีย์เจ็ดชั้น ข้าขอรับลูกๆของพวกเจ้าไว้ทุกคน”
เมื่อเหล่าชาวเมืองได้รับคำตอบก็ซาบซึ้งกันอย่างมาก และกราบกรานยิ่งกว่าเดิม
“ขอบพระคุณท่านอย่างมาก!”
“ท่านคือพระโพธิสัตว์ที่มีชีวิต!”
“พวกเราขอกราบกรานแก่ท่าน!”
จ้าวหรงจีปล่อยให้เหล่าชาวเมืองทนความลำบากไม่ไหว แต่ก็มีกำลังที่จำกัด สิ่งที่จะช่วยได้ก็มีเท่านี้
เมื่อปลอบโยนเหล่าชาวเมืองเรียบร้อยแล้วก็ได้ยินเสียงคนพูดขึ้นที่ลานวัดเก่าว่า
“มีการเล่าเรื่องอีกแล้ว!”
“เร็ว ไปฟังกันเร็วเข้า!”
จ้าวหรงจีเองก็อยากจะลองฟังเรื่องเล่าในหมู่ชาวเมืองเหมือนกัน จึงได้ดึงหลี่ชางออกไปแฝงตัวกับชาวเมือง แล้วออกจากวัดเก่าไปเพื่อฟังเรื่องเล่า
ชายชราในชุดขาดๆคนหนึ่ง ถือก้อนหินเอาไว้เป็นไม้ค้อน เขาตีไปบนพื้นแล้วพูดด้วยสีหน้าที่หลากหลายว่า
“ต่อจากครั้งที่แล้ว องค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉินนั้นคือเทพเจ้ามาจุติ ไม่เพียงแต่จะสามารถเรียกสายฟ้าและฝนได้เท่านั้น แถมยังสามารถต่อกรกับกองทัพใหญ่โตด้วยตัวคนเดียวได้”
“ในตอนนั้นแม่ทัพหยาง หยางจ้ายซิ่น ได้พ่ายแพ้ให้กับองค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉิน องค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉินและเขาเห็นใจซึ่งกันและกัน จึงได้จัดพิธีศพให้แก่แม่ทัพหยางอย่างมีเกียรติ แถมยังได้สร้างสุสานที่ยิ่งใหญ่และแกะสลักรูปของแม่ทัพหยางออกมาด้วย เพื่อที่จะลำลึกถึงแม่ทัพหยาง”
เหล่าชาวเมืองอาณาจักรจ้าวได้ยินดังนั้นก็อิจฉากันอย่างมาก การหนีตายในครั้งนี้ก็เพราะได้ยินว่าองค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉินมีการปกครองโดยเมตตาธรรม จึงพากันอยากหนีตายไปใช่ชีวิตดีๆที่อาณาจักรฉิน
จ้าวหรงจีเองก็ฟังแล้วอิจฉาขึ้นมา แล้วถามหลี่ชางที่อยู่ข้างๆว่า “นิทานเรื่องเล่านี้เป็นความจริงงั้นรึ?”
หลี่ชางพูดอย่างจริงจังมากว่า “ข้ารับรองได้ว่าเป็นจริงที่สุด เป็นความจริงแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
จ้าวหรงจีพูดขึ้นอย่างสงสัยว่า “เพราะเหตุใด? เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจว่าไม่ได้เป็นแค่คำร่ำลือ?”
หลี่ชางพูดอย่างจริงจังมากว่า “องค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉินปกครองอย่างเมตตาธรรม ชาวเมืองในพื้นที่ต่างก็รู้กันดีพ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งพี่สาวของพระองค์ องค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าว ก็เป็นภรรยาขององค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉินพ่ะย่ะค่ะ”
จ้าวหรงจีตกตะลึงแล้วพูดว่า “สามารถทำให้พี่สาวของข้าติดตามไปอย่างสุดจิตสุดใจเช่นนี้ ข้าอยากจะพบคนผู้นี้ยิ่งนัก”
หลี่ชางพูดอย่างจริงจังว่า “วันข้างหน้าจะต้องได้พบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉินคือเซียนที่ในอดีตไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ในอนาคตก็ไม่มีใครที่จะเหมือนได้ พระองค์คือคนยิ่งใหญ่ที่เที่ยงธรรม ใจดี มีคุณธรรมและเพียบพร้อมด้วยสติปัญญาที่สุดในโลกนี้พ่ะย่ะค่ะ”
......
“ฮัดชิ้ว”
ขณะเดียวกันนั้น จู่ๆฉินเหยียนก็จามออกมา เมื่อสิบสองปิ่นหิรัญย์เห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าล้อมฉินเหยียนเอาไว้ แล้วถามไถ่อย่างเป็นห่วงกัน บางคนก็เริ่มลงมือกับฉินเหยียน ไม่เอามือแตะหน้าปากก็แตะหน้าอกของเขา
“ท่านอ๋องเพคะ ทรงพระประชวรรึเพคะ?”
“รู้สึกไม่สบายที่ใดเพคะ หม่อมฉันจะช่วยดูให้เพคะ”
“ท่านอ๋องเพคะ เมื่อก่อนหม่อมฉันเคยศึกษาการบำบัดด้วยความร้อนมาก่อน จะลองดูไหมเพคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...