องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 44

“บุก!”

ทหารรักษาพระองค์พุ่งขึ้นไปบนสังเวียนอย่างไม่กลัวตาย ใช้ชีวิตสกัดฝีเท้าของเทพสงครามแห่งอาณาจักรจ้าว

“พรวด” เลือดสดและเสียงกรีดร้องปะปนกันไปหมด ผสมปนเปทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืน สังเวียนอาบเลือดสีแดงสดไปหมด

“ฉินเหยียน! ข้าจ้าวอู๋ตี๋ หากวันนี้ฆ่าเจ้าไม่ได้ ข้าไม่ใช่คน!”

จ้าวอู๋ตี๋บ้าไปแล้ว ดวงตาของเขาเป็นสีแดงเลือด นี่คือจิตสังหารที่บ้าระห่ำ มีเพียงเหล่าแม่ทัพระดับสูงที่ผ่านสมรภูมิมานับร้อยจึงจะมีจิตสังหารเช่นนี้

แต่ทว่าดูเหมือนฉินเหยียนจะกำลังมึนเมา แต่แท้จริงแล้วเขามีสติดี เขาสัมผัสจิตสังหารของจ้าวอู๋ตี๋ได้ และสัมผัสแรงกดดันอันแรงกล้าราวกับภูเขาไท่ซาน แต่ตอนนี้เขาถอยไม่ได้! ทหารรักษาพระองค์อาณาจักรฉินได้เสียชีวิตด้วยน้ำมือของจ้าวอู๋ตี๋เพราะปกป้องเขา

“จ้าวอู๋ตี๋! ข้าอยู่นี่ มาฆ่าข้าเลยสิ มาเลย!” ฉินเหยียนตะโกนอย่างกล้าหาญ เขาแกว่งดาบยกขึ้นชี้ฟ้า แล้วตะโกนเสียงดังว่า “ข้าปรารถนาเพียงชาวเมืองจะปลอดภัย!”

เขาพุ่งเข้าหาจ้าวอู๋ตี๋อย่างกล้าหาญ! ฉินเหยียนไม่เก็บซ่อนจิตสังหารอีกต่อไป เขาระเบิดจิตสังหารออกมาอย่างแรงกล้า

“ข้ามีดาบที่สามารถฟันได้ทะลุฟ้า!”

ทันใดนั้นฉินเหยียนก็เหยียบขึ้นแผ่นหลังของทหารรักษาพระองค์นายหนึ่ง เขากระโดดขึ้นสูงแล้ววาดเป็นเส้นโค้งอย่างสมบูรณ์แบบกลางอากาศ

“อะไรน่ะ เป็นไปได้อย่างไร?”

ในขณะที่จ้าวอู๋ตี๋กำลังเข่นฆ่าไปทั่ว จู่ๆก็รู้สึกเหมือนโดนสัตว์ป่าจับตามอง เมื่อได้ยินเสียงของฉินเหยียนที่ตะโกนใส่เขาแล้ว นาทีที่ทั้งสองคนสบตากัน จ้าวอู๋ตี๋กลับเห็นว่าดวงตาของฉินเหยียนเต็มไปด้วยจิตสังหาร นี่คือความกดดันของนักฆ่าที่แท้จริงเมื่อกองทัพทั้งสองเผชิญหน้ากันในสนามรบ มันซัดมาทางเขาราวกับคลื่นลูกใหญ่

เมื่อฉินเหยียนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จิตสังหารของของเขาได้กลืนกินจิตสังหารของเขาไปหมด นั่นทำให้จ้าวอู๋ตี๋ในตอนนี้รู้สึกเหมือนเห็นภาพหลอนว่าจุดจบกำลังใกล้เข้ามา

“เป็นไปไม่ได้ ไม่จริงนี่คือภาพลวงตา!”

เมื่อฉินเหยียนกระโดดขึ้นสูงแล้ว ดาบที่มีพลังประดุจสายฟ้าก็ได้จู่โจมมาทางเขา จ้าวอู๋ตี๋โจมตีกลับด้วยสัญชาตญาณ พวกเขาประจันหน้ากันด้วยระยะที่ห่างกันเพียงคมดาบ

“ไปตายซะ!”

“โครม” ความกดดันมหาศาลทั้งสองประจันหน้ากันจนระเบิดออกไปทั่วทิศทาง

ทหารรักษาพระองค์ต่างก็กระเด็นออกไปเพราะแรงกดดันที่ระเบิดออกมา แม้กระทั่งเศษหินและฝุ่นก็ปลิวไปทั้งสังเวียน ทำให้มีควันเต็มไปหมด

“นี่มัน......” ทั้งสองฝ่ายอาณาจักรต่างพากันตกตะลึงอ้าปากค้างกันหมด

โดยเฉพาะฮ่องเต้ฉิน เขาเห็นกับตาว่าลูกชายคนที่สิบสี่ผู้อ่อนแอ ได้หันดาบพุ่งเข้าใส่จ้าวอู๋ตี๋ นี่คือภาพที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลย แต่วันนี้มันกลับเกิดขึ้นจริงๆ!

ฮองเฮาฉินซวงหลานเองก็ตกตะลึง เขาวางยาพิษองค์ชายสิบสี่มาตลอด เหตุใดจึงองอาจมากถึงเพียงนี้?

องค์ชายแปดเองก็ตะลึงจนอ้าปากค้างเช่นกัน น้องสิบสี่ที่เขาดูถูกมากที่สุดกลับมีวิชาที่เหนือกว่าเขาเป็นปลิดทิ้ง!

จ้าวจือหย่าเองก็มีสีหน้าที่ตกตะลึงเช่นกัน องค์ชายเจ้าชู้ที่นางหลงรักโดยไม่สนสิ่งใดคนนี้ ก็เป็นวีรบุรุษเช่นกัน!

จ้าวจีเอ๋อร์เห็นแล้วแทบคลั่ง ดวงตาแดงก่ำ นางพึมพำด้วยความไม่อยากเชื่อ “เป็นแบบนี้ได้อย่างไร เขา เขาเป็นคนไร่ค่าไม่ใช่รึ?”

บนสังเวียนมีศพอยู่เกลื่อนไปหมด เลือดของทหารองครักษ์ส่วนพระองค์อาบพื้นไปหมด เมื่อฝุ่นควันหายไปแล้ว ภายใต้แสงจันทร์จางๆ ในที่สุดเราก็สามารถเห็นได้ชัดเจนว่าคนทั้งสองยังคงยืนอยู่บนสังเวียน

จ้าวอู๋ตี๋ยืนหยัดอย่างองอาจ ฉินเหยียนคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น มือข้างหนึ่งยันดาบเอาไว้ ดูท่าจะจนมุมมาก

“ชนะแล้ว!” เหล่าอาณาจักรจ้าวเป็นฝ่ายดึงสติกลับมาได้ก่อน พวกเขาตะโกนอย่างตื่นเต้นและกอดกัน ยินดีกับชัยชนะของจ้าวอู๋ตี๋ ที่ได้สังหารองค์ชายสิบสี่ผู้โอหังไป

“เราชนะแล้ว!”

“แม่ทัพจ้าวอู๋ตี๋ไร้เทียมทาน!”

“ฮ่องเต้ฉิน อาณาจักรจ้าวเป็นฝ่ายชนะ คืนองค์หญิงสามมาซะ!”

“นอกจากนี้ต้องยกดินแดนและจ่ายค่าปฏิกรรม ไม่เช่นนั้นพวกข้าจะป่าวประกาศเรื่องในวันนี้ให้ทั่ว เมื่อถึงเวลานั้นสิ่งที่องค์ชายแห่งอาณาจักรฉินได้กระทำไปจะถูกรังเกียจ”

ความน่าเกลียดของคณะทูตอาณาจักรจ้าว บัดนี้ได้ปรากฏอย่างแจ่มแจ้งแล้ว อีกทั้งยังได้เผยธาตุแท้และเป้าหมายที่แท้จริงด้วย พวกเขาจงใจมาหาเรื่อง ไม่ได้จะมาสมรส

แต่ในขณะที่ฝ่ายอาณาจักรฉินเงียบสงัดและไม่กล้าเงยหน้ามอง

“แคร้ง” ร่างใหญ่ของจ้าวอู๋ตี๋จู่ๆก็ได้ล้มลงบนสังเวียนอย่างแรง

“กะ เกิดอะไรขึ้น?” ทุกคนเบิกตากว้างขึ้นอีกครั้ง

ภาพที่เกิดขึ้นถัดมากลับทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที เมื่อจ้าวอู๋ตี๋ล้มลงไปแล้ว ทุกคนจึงได้เห็นกันอย่างชัดเจนว่าตรงคอของเขามีดาบเล่มหนึ่งเสียบแทงอยู่

ส่วนฉินเหยียนก็ได้ค่อยๆลุกขึ้นมา ในมือของเขาถือดาบที่หักไปแล้วเอาไว้

“แคร้ง” เขาทิ้งดาบลงพื้นแล้วถือไหเหล้าขึ้นมา จากนั้นก็ได้ตะโกนไปยังท้องฟ้าว่า “ถึงเหล่าทหารที่เสียสละชีวิต เดินทางปลอดภัย!”

ฉินเหยียนเทเหล้าที่เหลือลงบนพื้นต่อหน้าของทุกคน “แด่วีรชน!”

การแสดงของฉินเหยียนทำให้ทุกคนที่อยู่นอกสังเวียนถึงกับมึนงงไปหมด โดยเฉพาะฝ่ายอาณาจักรจ้าว

“แม่ทัพจ้าวอู๋ตี๋!” ผู้ใต้บังคับบัญชาของจ้าวอู๋ตี๋ดึงสติกลับมาได้ก่อน เขาถือดาบพุ่งเข้าไปบนสังเวียน

คนเหล่านี้คือผู้ที่ได้ผ่านสนามรบหลายร้อยแห่ง ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน วันนี้เมื่อแม่ทัพจ้าวอู๋ตี๋ล้มลง ไม่ว่าจะเพื่อเก็บศพ หรือล้างแค้นต่อองค์ชายสิบสี่ก็ตาม ในขณะที่พุ่งตัวขึ้นไปยังสังเวียนต่างก็แผ่จิตสังหารอย่างแรง

“พรึบ” ฉินเหยียนยกเท้าขึ้น เขาเตะหอกออกไป

“พรวด” หอกยาวพุ่งเข้าไปเสียบคอของทหารอาณาจักรจ้าว

ตอนนี้แววตาของฉินเหยียนโหดเหี้ยมและน่าเกรงขาม เขาตะโกนว่า “บนสังเวียนนี้คือการสู้ระหว่างสองอาณาจักร ผู้ใดที่ขึ้นมายังสังเวียน ข้าจะฆ่ามันซะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์