องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 443

แบ่งออกเป็นสองด้าน

ด้านหนึ่งผู้คนกำลังดื่มสังสรรค์ร้องเพลง หญิงสาวรายล้อม ส่วนอีกด้านบ้านเมืองลุกเป็นไฟ ความคับแค้นใจได้ร่ำลือไปทั่ว

ในขณะนี้จ้าวหรงจีและหลี่ชางคนอื่นๆ รวมถึงเหล่าผู้ลี้ภัย พากันหลบๆซ่อนๆ จนในที่สุดก็ได้มาถึงชายแดนแล้ว แต่ยังไม่ทันได้ดีใจก็เห็นว่ามีทหารกลุ่มหนึ่งถือธงของอู๋ซานกุ่ยไว้อยู่บนถนนไม่ไกลนี้ พอเห็นใครเข้าก็จับแล้วถามชาวเมืองอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เคยกินเนื้อหมูรึไม่?”

ชาวเมืองที่ถูกจับตัวสั่นเทาแล้วตอบกลับทันทีว่า “เคย เคยขอรับ”

ทหารจ้องเขม็งแล้วพูดเสียงเข้มงวดว่า “จ่ายเงิน!”

คำพูดนั้นทำเอาชาวเมืองมึนงงไปหมด แล้วถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “ท่านทหาร จ่ายค่าอะไรรึขอรับ?”

ทหารพูดทันทีว่า “คนเลี้ยงหมูใช่รึไม่ คนก็เป็นคนอาณาจักรใช่รึไม่ เจ้ากินเนื้อหมูก็เท่ากับกินเนื้อหมูของอาณาจักรจ้าว เจ้าไม่จ่ายแล้วใครจ่าย! รีบเอาเงินมา!”

ชาวเมืองยังไม่ทันได้ตั้งใจ ทหารก็เข้าไปค้นตัวทันที แล้วเอาเงินที่ชาวเมืองหลงเหลือจากการลี้ภัยไป ชาวเมืองที่ถูกแย่งเงินไปร้องไห้คุกเข่าขอให้ทหารคืนให้

“ท่านทหาร ข้าเหลืออยู่เท่านั้นเองขอรับ ขอร้องละเมตตาคืนให้ข้าเถิดขอรับ!”

แต่ทหารไม่ได้แยแสอะไร เขาเตะเท้าออก ชาวเมืองที่ถูกชิงเงินไปถูกเตะไปไกล จากนั้นก็จับคนต่อไปอย่างโอหัง

“เคยกินเนื้อหมูรึไม่!”

เหล่าชาวเมืองที่เห็นสภาพของคนที่ถูกทำร้ายเมื่อครู่นี้แล้ว ต่างก็พากันส่ายหน้า “ไม่เคยขอรับ ไม่เคย”

แต่ทหารกลับไม่ปล่อยไปง่ายๆ แล้วถามขึ้นอีกว่า “เคยกินข้าวรึไม่!”

คำถามนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการวางกับดักเหล่าชาวเมือง เป็นคนก็ต้องกินข้าว เหล่าชาวเมืองตอบอย่างไม่อาจปฏิเสธว่า

“เคย เคยกินขอรับ”

ทหารยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “เช่นนั้นก็ต้องจ่าย!”

ชาวเมืองตะลึงแล้วถามอย่างต่ำต้อยว่า “ท่านทหารขอรับ กินข้าวก็ต้องจ่ายเงินรึ?”

ทหารของอู๋ซานกุ่ยชี้นิ้วอย่างไม่พอใจแล้วพูดว่า “ไร้สาระ ข้าวที่เจ้ากินมันหล่นลงมาจากฟ้ารึไง?”

เหล่าชาวเมืองพยายามอธิบาย “ท่านทหาร อาหารที่ข้ากิน ข้าปลูกมันเองกับมือทั้งนั้น ไม่ใช่อาหารของหลวงขอรับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์