องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 456

เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเย้าจู้ก็ตื่นเต้นอย่างมาก การได้ทำการค้นคว้าที่ฐานลับไปตลอดเหมือนได้ก้าวเข้าสู่แดนสวรรค์! เมื่อเทียบกับการประดิษฐ์แล้ว ชื่อเสียงและทรัพย์สินก็เป็นเรื่องเล็กน้อย

หลินเย้าจู้ไม่โง่เขลา เขาต้องที่จะเจริญและโดดเด่น ตราบใดที่สามารถสร้างสิ่งที่อยู่ในกระดาษได้ เขาก็มีสิทธิ์ที่จะได้ถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล

บัดนี้ความตื่นเต้นของหลินเย้าจู้ไม่อาจใช้คำพูดใดมากล่าวได้เลย เขารีบลุกขึ้นแล้วโค้งตัวประสานมือคารวะพูดว่า

“ยินดีพ่ะย่ะค่ะ! ท่านอ๋องให้ความสำคัญกับกระหม่อมเช่นนี้ กระหม่อมจะไม่ทำให้ท่านอ๋องต้องผิดหวัง และขอสาบานที่นี่ว่าจะทำให้อาวุธทั้งหมดในกระดาษเป็นของจริงขึ้นมาให้ได้พ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ถือเป็นอันตกลงแล้ว”

เพื่อให้หลินเย้าจู้สามารถศึกษาค้นคว้าวิทยาศาสตร์ได้อย่างสบายใจ เขาจึงหันไปถามหลู่เจาว่า

“ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีความรู้ด้านงานเย็บปักถักร้อยงั้นรึ?”

หลู่เจาหน้าแดงแล้วลุกขึ้นประสานมือคารวะพูดว่า “ท่านอ๋องตรัสเกินจริงไปแล้วเพคะ ดังที่ท่านอ๋องทรงทราบ หม่อมฉันมาจากครอบครัวที่เปิดโรงเตี๊ยม ได้พบเจอกับพ่อค้าบางคนที่นำตัวอย่างผ้าและภาพปักมาอยู่บ้างเพคะ นานๆเข้าหม่อมฉันจึงมีความรู้ด้านการเย็บปักถักร้อยบ้างเพคะ”

ผู้หญิงในสมัยโบราณเชื่อว่าการที่ผู้หญิงไร้ความสามารถถือเป็นเรื่องดี ผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานจะต้องศึกษาการเย็บปักถักร้อย การทอผ้า ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาและไม่ถือเป็นความรู้

ที่ฉินเหยียนถามเช่นนั้น เพราะเขามีแผนในใจเอาไว้อยู่แล้ว ในประเทศจีนโบราณ จีนมีชื่อเสียงในด้านเครื่องเคลือบและการปักแพรไหม ตอนนั้นเหล่าชาวเมืองไม่ได้คิดอะไร แต่หลังจากนั้นในอนาคตเมื่อโลกสันติสุขและเป็นปึกแผ่นเดียวกันแล้ว ต้องการจะขยับขยายออกไป วิธีเส้นทางสายไหมถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด

และในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ยุคอุตสาหกรรมตอนต้นคือการบูรณาการของเครื่องจักรไอน้ำและอุตสาหกรรมทอผ้า การรวมกันของทั้งสองสิ่งนี้ ทำให้การเกษตรพัฒนาอย่างรวดเร็วและเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมในระยะเวลาอันสั้น

ฉินเหยียนพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “อย่าพูดเช่นนั้นเลย หลินเย้าจู้คือลูกศิษย์ของข้า เจ้าเป็นภรรยาของเขา ก็ถือเป็นคนสนิทของข้า ประจวบเหมาะพอดี ข้ามีแผนจะขยายอุตสาหกรรม เมื่อยึดเขตปกครองสิบหกเขตแห่งเยี่ยนหยุนมาได้แล้ว จะทำการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเขตปกครองสิบหกเขตอย่างเร่วงด่วน โรงงานผ้าถือเป็นตัวเลือกที่ดี”

“แต่บัดนี้ข้าไม่มีผู้ใดที่จะทำได้เลย เจ้าจะยินดีรับตำแหน่งผู้ดูแลโรงงานทอผ้าและดูแลอุตสาหกรรมทอผ้ารึไม่?”

เมื่อพูดเช่นนั้นแล้วหลู่เจาก็ตะลึงไป นางมองไปทางหลินเย้าจู้อย่างผวา ไม่รู้จะทำอย่างไร นางเชื่อว่าตนเองเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ทั้งชีวิตนี้จะต้องดูแลครอบครัว ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งนางจะสร้างอนาคตได้ สิ่งที่อ๋องเหยียนกล่าวต่อนางในวันนี้ ทำให้นางประหลาดใจ

“มัวอึ้งอะไรอยู่เล่า รีบขอบพระทัยสิ”

หลินเย้าจู้เตือนขึ้นเบาๆ จึงทำให้หลู่เจาได้สติกลับมา นางรีบคุกเข่าประสานมือคารวะ

“ทะ ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันกลัวว่า......”

หลินเย้าจู้เองก็รีบลุกเข่าลงประสานมือคารวะ “ขอบพระทัยในความเมตตาของท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอขอบพระทัยในความเชื่อใจของท่านอ๋องแทนภรรยาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

จากนั้นหลู่เจาก็ถูกหลินเย้าจู้ดึงให้กราบกรานขอบพระทัยตามอย่างมึนงง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์