ทุกคนมึนงงไปหมด! ทั้งฮ่องเต้ฉิน ฮองเฮา องค์ชายแปด ขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นแห่งอาณาจักรฉิน จ้าวจือหย่าและคนอื่นๆ
จ้าวจีเอ๋อร์องค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าว และคนที่เหลือรอดในคณะทูตอาณาจักรจ้าว แม้แต่ขันที นางกำนัล รวมถึงทหารองครักษ์ ทุกคนต่างพากันมึนงง อึ้ง และนิ่งไปกันหมด! ไม่มีใครส่งเสียงใดๆอีกต่อไป
“พรวด” เมื่อชักดาบออก ร่างของอาจารย์หลี่ก็ทรุดลงกับพื้น เขาส่ายหน้าอย่างเหลือเชื่อ มือเปื้อนเลือดของเขาจับฉินเหยียนที่อาบเลือดไปทั้งตัว
“ข้าคือคนอาณาจักรฉิน เจ้า เหตุใดจึงฆ่าข้าด้วย!”
“แล้วใครให้เจ้า.....เห่าอยู่ได้!” ฉินเหยียนถีบอาจารย์หลี่ล้มลงกับพื้น เขามองไปหาทุกคนด้วยจิตสังหารที่ล้นหลาม แฝงไปด้วยความเมาและจิตสังหารประดุจสัตว์ป่า
“เจ้า!”
ฮองเฮาฉินซวงหลานกำลังจะสั่งสอนฉินเหยียน แต่กลับถูกฮ่องเต้ฉินเอามือปิดปากเอาไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่า “เจ้าบ้าไปแล้วรึ เหยียนเอ๋อร์ดื่มมากไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีสติ เขากำลังคิดว่าตนเองยังอยู่บนสังเวียน หากเจ้าพูดเสียงดังแล้วถูกเขาหมายหัวเข้า ข้าไม่รับรองว่าเขาจะหันดาบมาไหมหรอกนะ!”
“ข้า!” ฮองเฮาสีหน้าสีหน้าร้อนรน สุดท้ายเขาก็ได้ระงับความโกรธเอาไว้
แม้องค์ชายแปดจะไม่กล้าส่งเสียงดัง แต่เขาก็ได้แอบชักดาบออกมาแล้วพาทหารองครักษ์ค่อยๆย่องมายืนอยู่ตรงหน้าของท่านพ่อและท่านแม่ เพื่อป้องกันในกรณีฉุกเฉิน
ทางด้านคณะทูตอาณาจักรจ้าว ก็ได้หมดมาดโอหังไปแล้ว ไม่ว่าจะการแข่งแบบไหนก็ไม่อาจเอาชนะได้เลย ต่อให้จะขี้โกงก็ยังไม่ชนะอีก ตอนนี้ยังไม่ยอมให้พูดอีก รู้สึกเหมือนเป็นคนใบ้ที่พูดความเจ็บปวดออกมาไม่ได้ยังไงอย่างงั้น
“อึก” ฉินเหยียนสะอึก ดวงตามึนเมาของเขากวาดมองไปทั่ว
“อืม แบบนี้สิดี ควรพูดแล้วค่อยพูด มีอะไรก็มาคุยกันดีๆ อย่าเอาแต่ด่าทอทะเลาะกัน ใช่ไหมล่ะ ทุกคนล้วนเป็นอารยชน มีกิริยางดงาม ใช่ไหมล่ะ อึก......”
หน้าไม่อายเลย! ไม่เคยเห็นใครที่ไร้ยางอายมากเท่านี้มาก่อน! พูดเต็มปากเต็มคำว่าเป็นอารยชน มีกิริยางดงาม แต่เขากลับฆ่าทุกคนไม่เว้นแต่คนของตนเองที่พูดเสียงดัง นี่มันอารยชนและกิริยางดงามแบบไหนกัน!
“ถุย! เจ้าบ้า!” ทางด้านของอาณาจักรจ้าวมีคนหนึ่งที่ทนไม่ไหวแล้วสบถออกมาเบาๆจากด้านหลัง
ดี!
ฉินเหยียนเดินโซเซและเตรียมถอย แต่เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็กระตือรือร้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาใช้ดาบชี้ไปยังคณะทูตอาณาจักรจ้าว
“ใคร กล้าถุยน้ำลายในพระราชวังได้อย่างไร ออกมานะ!”
ใครจะกล้าละ ต่างพากันก้มหน้าก้มตาไม่กล้าออกเสียงใดๆ
ฉินเหยียนเองก็ไม่ปล่อยพวกเขาไป เขาถือดาบแล้วเดินเข้าไป ชี้ไปยังขุนนางฝ่ายบุ๋นแห่งอาณาจักรจ้าวที่ตะโกนอย่างมีความสุขเมื่อครู่นี้แล้วถามว่า “เจ้ารึเปล่า?”
“เปล่าๆๆ......” เขาส่ายหน้าแรง
แต่ทันใดนั้น “พรวด”
ทุกคนอึ้งกันไปหมด ฆ่าอีกคนแล้ว!
“พวกข้าผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะอย่าฆ่าพวกข้าเลย”
ฉินเหยียนถอยหลังโซเซไปก้าวหนึ่ง แล้วหันไปกะพริบตาให้กับฮ่องเต้ฉินที่ถูกคุ้มครองอย่างหนาแน่น
“หือ หมายความว่าอย่างไร?” ฮ่องเต้ฉินมึนงงไป ลูกชายคนที่สิบสี่ไม่ได้เมา เขากำลังแสร้งทำเป็นเมาแล้วฉวยโอกาสนี้ในการระงับความเย่อหยิ่งของพวกอาณาจักรจ้าวงั้นรึ? แต่ทำเช่นนี้มันไม่เหมาะไม่ควรรึเปล่านะ?
ฉินเหยียนมองไปทางจ้าวจีเอ๋อร์ที่นั่งกองอยู่กับพื้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่าอย่างโซเซ “ทำอะไรของเจ้าน่ะหญิงงาม เจ้าช่างงดงามจริงๆ มานอนปรนนิบัติข้าทีสิ”
“อย่าเข้ามานะ ออกไป!” จ้าวจีเอ๋อร์ตกใจกลัวต่อความกดดันที่ฉินเหยียนฆ่าไม่เลือกหน้า นางหน้าซีดและคลานไปด้านหลัง
“จะหนีไปไหน” ฉินเหยียนจับข้อเท้าของจ้าวจีเอ๋อร์เอาไว้แล้วออกแรงดึง เพื่อลากนางมาข้างกาย
“อยู่นิ่งๆหน่อย ข้าจะขอถามอะไรเจ้าหน่อย เจ้าตอบมาตามจริงล่ะ หากพูดผิดไปข้าจะแก้ผ้าของเจ้าต่อหน้าทุกคน!”
“เจ้า ไร้ยางอายเสียจริง!” จ้าวจีเอ๋อร์ใบหน้าแดงไปถึงหู นางมองไปทางคณะทูตอาณาจักรจ้าวด้วยความอับอาย
“พวกเจ้ามัวรออะไรกันอยู่ เหตุใดจึงไม่ช่วยข้า!”
แต่ว่าคณะทูตอาณาจักรจ้าวต่างพากันคุกเข่ากันพื้นแล้วตัวสั่นเทาด้วยความกลัว อย่าว่าแต่ช่วยเลย ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...