องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 46

ทุกคนมึนงงไปหมด! ทั้งฮ่องเต้ฉิน ฮองเฮา องค์ชายแปด ขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นแห่งอาณาจักรฉิน จ้าวจือหย่าและคนอื่นๆ

จ้าวจีเอ๋อร์องค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าว และคนที่เหลือรอดในคณะทูตอาณาจักรจ้าว แม้แต่ขันที นางกำนัล รวมถึงทหารองครักษ์ ทุกคนต่างพากันมึนงง อึ้ง และนิ่งไปกันหมด! ไม่มีใครส่งเสียงใดๆอีกต่อไป

“พรวด” เมื่อชักดาบออก ร่างของอาจารย์หลี่ก็ทรุดลงกับพื้น เขาส่ายหน้าอย่างเหลือเชื่อ มือเปื้อนเลือดของเขาจับฉินเหยียนที่อาบเลือดไปทั้งตัว

“ข้าคือคนอาณาจักรฉิน เจ้า เหตุใดจึงฆ่าข้าด้วย!”

“แล้วใครให้เจ้า.....เห่าอยู่ได้!” ฉินเหยียนถีบอาจารย์หลี่ล้มลงกับพื้น เขามองไปหาทุกคนด้วยจิตสังหารที่ล้นหลาม แฝงไปด้วยความเมาและจิตสังหารประดุจสัตว์ป่า

“เจ้า!”

ฮองเฮาฉินซวงหลานกำลังจะสั่งสอนฉินเหยียน แต่กลับถูกฮ่องเต้ฉินเอามือปิดปากเอาไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่า “เจ้าบ้าไปแล้วรึ เหยียนเอ๋อร์ดื่มมากไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีสติ เขากำลังคิดว่าตนเองยังอยู่บนสังเวียน หากเจ้าพูดเสียงดังแล้วถูกเขาหมายหัวเข้า ข้าไม่รับรองว่าเขาจะหันดาบมาไหมหรอกนะ!”

“ข้า!” ฮองเฮาสีหน้าสีหน้าร้อนรน สุดท้ายเขาก็ได้ระงับความโกรธเอาไว้

แม้องค์ชายแปดจะไม่กล้าส่งเสียงดัง แต่เขาก็ได้แอบชักดาบออกมาแล้วพาทหารองครักษ์ค่อยๆย่องมายืนอยู่ตรงหน้าของท่านพ่อและท่านแม่ เพื่อป้องกันในกรณีฉุกเฉิน

ทางด้านคณะทูตอาณาจักรจ้าว ก็ได้หมดมาดโอหังไปแล้ว ไม่ว่าจะการแข่งแบบไหนก็ไม่อาจเอาชนะได้เลย ต่อให้จะขี้โกงก็ยังไม่ชนะอีก ตอนนี้ยังไม่ยอมให้พูดอีก รู้สึกเหมือนเป็นคนใบ้ที่พูดความเจ็บปวดออกมาไม่ได้ยังไงอย่างงั้น

“อึก” ฉินเหยียนสะอึก ดวงตามึนเมาของเขากวาดมองไปทั่ว

“อืม แบบนี้สิดี ควรพูดแล้วค่อยพูด มีอะไรก็มาคุยกันดีๆ อย่าเอาแต่ด่าทอทะเลาะกัน ใช่ไหมล่ะ ทุกคนล้วนเป็นอารยชน มีกิริยางดงาม ใช่ไหมล่ะ อึก......”

หน้าไม่อายเลย! ไม่เคยเห็นใครที่ไร้ยางอายมากเท่านี้มาก่อน! พูดเต็มปากเต็มคำว่าเป็นอารยชน มีกิริยางดงาม แต่เขากลับฆ่าทุกคนไม่เว้นแต่คนของตนเองที่พูดเสียงดัง นี่มันอารยชนและกิริยางดงามแบบไหนกัน!

“ถุย! เจ้าบ้า!” ทางด้านของอาณาจักรจ้าวมีคนหนึ่งที่ทนไม่ไหวแล้วสบถออกมาเบาๆจากด้านหลัง

ดี!

ฉินเหยียนเดินโซเซและเตรียมถอย แต่เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็กระตือรือร้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาใช้ดาบชี้ไปยังคณะทูตอาณาจักรจ้าว

“ใคร กล้าถุยน้ำลายในพระราชวังได้อย่างไร ออกมานะ!”

ใครจะกล้าละ ต่างพากันก้มหน้าก้มตาไม่กล้าออกเสียงใดๆ

ฉินเหยียนเองก็ไม่ปล่อยพวกเขาไป เขาถือดาบแล้วเดินเข้าไป ชี้ไปยังขุนนางฝ่ายบุ๋นแห่งอาณาจักรจ้าวที่ตะโกนอย่างมีความสุขเมื่อครู่นี้แล้วถามว่า “เจ้ารึเปล่า?”

“เปล่าๆๆ......” เขาส่ายหน้าแรง

แต่ทันใดนั้น “พรวด”

ทุกคนอึ้งกันไปหมด ฆ่าอีกคนแล้ว!

“นี่เจ้ามาบังข้าทำไมเนี่ย ให้ตายเถอะ!” ฉินเหยียนถามคนต่อไปอีกว่า “ใช่เจ้ารึเปล่า?”

คนๆนี้หันหน้าวิ่งหนีไปทันที “พรวด” ฆ่าอีกคนแล้ว

“ข้าถามเจ้า เจ้าไม่ตอบแล้วยังกล้าหนีอีก!”

ฮ่องเต้ฉินเอามือปิดหน้า จากวันนี้ไปไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่อาณาจักรฉินจะต้องถูกตราหน้าว่าเป็นพวกใช้อำนาจบาตรใหญ่ สังหารคนอย่างกำเริบเสิบสานแน่นอน

“เจ้ารึเปล่า เจ้า หรือเจ้า ส่งตัวคนถุยน้ำลายออกมา!”

“ส่ง ส่ง!” คณะทูตอาณาจักรจ้าวที่ตกใจกลัวกันหมดได้ลากตัวคนที่ด่าทอเมื่อครู่นี้ออกมาจากด้านหลังสุด

“เขาคนนี้ เขาเป็นคนถุยพ่ะย่ะค่ะ!”

“อึก” ฉินเหยียนสะอึกแล้วใช้ดาบตบใบหน้าของเขา

“ข้าเพิ่งพูดไปเองนะว่าต้องเป็นอารยชน แล้วเจ้าก็ถุยน้ำลายไปมั่วแบบนี้ เห็นคำพูดของข้าเป็นลมตดรึไง เจ้าทำได้ยังไงกัน”

“ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะอย่าฆ่าข้าเลยนะ” ขุนนางใหญ่ในกลุ่มคณะทูตแห่งอาณาจักรจ้าวก้มศีรษะเพื่อร้องขอชีวิต

ดาบที่ยกสูงของฉินเหยียนเองก็ไม่ได้บั่นคอของเขา “แบบนี้สิดี บอกแล้วไงว่าขอร้องจะไม่ฆ่า ดูพวกเจ้าสิ รั้นจะท้าทายความอดทนของข้า”

เมื่อพูดดังนั้นแล้ว เหล่าคณะทูตอาณาจักรจ้าวต่างก็พากันคุกเข่าลงแล้วร้องขอชีวิตกันใหญ่

“พวกข้าผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะอย่าฆ่าพวกข้าเลย”

ฉินเหยียนถอยหลังโซเซไปก้าวหนึ่ง แล้วหันไปกะพริบตาให้กับฮ่องเต้ฉินที่ถูกคุ้มครองอย่างหนาแน่น

“หือ หมายความว่าอย่างไร?” ฮ่องเต้ฉินมึนงงไป ลูกชายคนที่สิบสี่ไม่ได้เมา เขากำลังแสร้งทำเป็นเมาแล้วฉวยโอกาสนี้ในการระงับความเย่อหยิ่งของพวกอาณาจักรจ้าวงั้นรึ? แต่ทำเช่นนี้มันไม่เหมาะไม่ควรรึเปล่านะ?

ฉินเหยียนมองไปทางจ้าวจีเอ๋อร์ที่นั่งกองอยู่กับพื้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่าอย่างโซเซ “ทำอะไรของเจ้าน่ะหญิงงาม เจ้าช่างงดงามจริงๆ มานอนปรนนิบัติข้าทีสิ”

“อย่าเข้ามานะ ออกไป!” จ้าวจีเอ๋อร์ตกใจกลัวต่อความกดดันที่ฉินเหยียนฆ่าไม่เลือกหน้า นางหน้าซีดและคลานไปด้านหลัง

“จะหนีไปไหน” ฉินเหยียนจับข้อเท้าของจ้าวจีเอ๋อร์เอาไว้แล้วออกแรงดึง เพื่อลากนางมาข้างกาย

“อยู่นิ่งๆหน่อย ข้าจะขอถามอะไรเจ้าหน่อย เจ้าตอบมาตามจริงล่ะ หากพูดผิดไปข้าจะแก้ผ้าของเจ้าต่อหน้าทุกคน!”

“เจ้า ไร้ยางอายเสียจริง!” จ้าวจีเอ๋อร์ใบหน้าแดงไปถึงหู นางมองไปทางคณะทูตอาณาจักรจ้าวด้วยความอับอาย

“พวกเจ้ามัวรออะไรกันอยู่ เหตุใดจึงไม่ช่วยข้า!”

แต่ว่าคณะทูตอาณาจักรจ้าวต่างพากันคุกเข่ากันพื้นแล้วตัวสั่นเทาด้วยความกลัว อย่าว่าแต่ช่วยเลย ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าด้วยซ้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์