องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 463

สรุปบท ตอนที่ 463 ต้องการสวมมงกุฎ: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 463 ต้องการสวมมงกุฎ – องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดย Namfon

บท ตอนที่ 463 ต้องการสวมมงกุฎ ของ องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Namfon อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เมื่อจัดการทหารตระกูลฉินเหล่านี้แล้ว ฉินเหยียนและจ้าวจีเอ๋อร์รวมถึงคนอื่นๆก็มุ่งหน้าไปยังเมืองหนานเฉิง หญิงสาวที่ถูกช่วยเหลือพากันพยุงกันแล้วเดินตามหลังรถม้าของจ้าวจีเอ๋อร์

บนรถม้า จ้าวจีเอ๋อร์ตัวสั่นด้วยอาการหนาวสั่น ดวงตาของนางหมองคล้ำแล้วจ้องมองไปยังมือที่กำลังสั่นเทาอยู่ นางยังคงตกใจกลัวอยู่

ฉินเหยียนกุมมือที่สั่นเทาของจ้าวจีเอ๋อร์เอาไว้ แล้วปลอบใจนางว่า

“นี่เป็นเพียงเริ่มต้น ต่อไปไม่ว่าจะเมืองไหนของเขตปกครองสิบหกเขตแห่งเยี่ยนหยุน เจ้าจะต้องเป็นผู้ออกหน้าเองทั้งหมด ข้ารู้ว่าเจ้ากลัว แต่หากข้าเป็นคนออกมาปราบปรามตระกูลขุนนางอาณาจักรฉินเหล่านี้ ก็เท่ากับว่าเป็นการทรยศ อีกอย่างยังทำให้ชาวเมืองอาณาจักรจ้าวในพื้นที่เกิดความขุ่นเคืองและไม่ไว้ใจได้”

“แต่กับเจ้า เจ้าเป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรจ้าวอยู่แล้ว หากเจ้าออกหน้า อย่างแรกจะสามารถปราบปรามพวกอาณาจักรฉินได้ ต่อมาก็สามารถเอาชนะใจชาวเมืองได้ด้วย”

“เมื่อชาวเมืองเขตปกครองสิบหกเขตแห่งเยี่ยนหยุนรู้ว่าองค์หญิงของพวกเขาปกป้องพวกเขา จะต้องซาบซึ้งในบุญคุณอย่างยิ่งแน่นอน ด้วยวิธีนี้เจ้าก็จะเลื่องชื่อ ถึงตอนนั้นที่เจ้าขึ้นครองบัลลังก์เป็นฮ่องเต้หญิง เหล่าชาวเมืองก็จะสนับสนุนเจ้าแน่นอน”

คำพูดของฉินเหยียนได้ดึงสติจ้าวจีเอ๋อร์ จะสวมมงกุฎก็ต้องแบกรับความหนักของมัน หากอยากจะครองบัลลังก์ ก็ต้องแบกรับความกดดันที่คนทั่วไปไม่อาจทนรับไหว

อีกทั้งคนที่นางเพิ่งจะกำจัดไป ล้วนเป็นคนที่รังแกข่มเหงชาวเมือง และเป็นคนชั่วอย่างมาก หากไม่ฆ่าคนพวกนี้ พวกมันก็จะสังหารชาวเมืองต่อไป ทำให้ชาวเมืองอยู่ไม่เป็นสุข อยากจะคืนความสงบสุขให้แก่ชาวเมืองก็ต้องกำจัดเนื้อร้ายออกไป นี่คือการทำเพื่อชาวเมืองอย่างแท้จริง

เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วจ่าวจีเอ๋อร์ก็ดึงสติกลับมาได้แล้วเงยหน้ามองฉินเหยียน นางนึกถึงความเด็ดเดี่ยวของฉินเหยียนก่อนหน้านี้ นางรู้สึกห่างเหินกับฉินเหยียนขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว พูดอย่างอ่อนแรงว่า

“ขอบพระทัยอ๋องเหยียนที่ช่วยชี้แนะเพคะ”

ฉินเหยียนมองจ้าวจีเอ๋อร์อย่างไม่ค่อยสบายใจ “เหตุใดเจ้าจึงเรียกข้าว่าอ๋องเหยียน เรียกสามีสิ”

จ้าวจีเอ๋อร์สบตากับดวงตาที่อ่อนโยนของฉินเหยียน นางพยักหน้าเบาๆราวกับได้ทานยากล่อมประสาทแล้วพูดว่า

“ขอบพระคุณที่ชี้แนะท่านสามี”

ฉินเหยียนยิ้มแล้วตามน้ำต่อ “เป็นเด็กดี ไหนจูบสักที!”

จ้าวจีเอ๋อร์รู้สึกเขินอาย นางทำปากจู๋เล็กน้อย ส่วนฉินเหยียนก็ก้มหน้าลง......

ในขณะที่ทั้งสองกำลังจุมพิตกันอย่างร้อนแรง ต้าหย่งก็รายงานจากด้านนอกรถม้าว่า

“รายงานพ่ะย่ะค่ะอ๋องเหยียน ถึงเมืองหนานเฉิงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ทั้งคู่ที่เข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆถูกต้าหย่งแทรกขึ้นทันที ทั้งสองรีบนั่งกับที่ ฉินเหยียนด่าทอเบาๆว่า

“ชิ ไม่ถูกเวลาเลยนะ”

ส่วนจ้าวจีเอ๋อร์ก็หันหน้าหนีอย่างเขินอาย แม้จะถูกขัดจังหวะดีๆแต่ก็จะลืมเรื่องสำคัญไม่ได้ ฉินเหยียนใส่ดินปืนในปืนไฟ เมื่อเสร็จแล้วก็ส่งให้จ้าวจีเอ๋อร์

เมื่อสิ้นเสียงก็รุมเตะศีรษะของชายชราอย่างรุนแรง กองกำลังตระกูลฉินแทบจะลงมือกับทุกคนที่พวกเขาพบเห็น ชิงปล้น หากมีคนขัดขืนก็จะทุบตีพวกเขาอย่างแรง แม้แต่พวกที่เอาเงินมาให้เองก็ยังไม่เว้น

ในตรอกซอยมีเสียงร้องคร่ำครวญดังขึ้นไม่หยุด

“ท่านทหารไว้ชีวิตข้าสักครั้งเถิดขอรับ!”

“นั่นเป็นอาหารสุดท้ายของพวกข้าแล้ว ช่วยกรุณาด้วยเถิดท่านทหาร!”

“ไว้ชีวิตด้วยเถิด......”

เสียงร้องคร่ำครวญสุดเสียงนั้นไม่ได้ปลุกความดีของทหารตระกูลฉินเลย กลับยิ่งทำให้พวกเขาดุร้ายยิ่งขึ้น ถึงขั้นเห็นการปล้นชิงทุบตีเป็นเรื่องสนุก ภาพบนท้องถนนกลายเป็นนรกบนดิน ยิ่งในบ้านก็ยิ่งอนาถ

“กรี๊ด! เจ้าพวกสัตว์เดรัจฉาน ปล่อยข้านะ!”

“พวกสารเลว พวกเจ้าต้องไม่ได้ตายดี!”

ได้ยินเสียงของหญิงสาวที่ร้องอ้อนวอนอย่างเจ็บปวดจากทุกๆบ้าน ยิ่งเหล่าหญิงสาวดิ้นรนมากแค่ไหน ทหารตระกูลฉินก็ยิ่งชอบใจมากเท่านั้น หากมีใครที่ไม่ยอมก็จะทุบตีหญิงสาวจนหมดแรงจะตอบโต้ แล้วขืนใจ

ตรงหน้าบ้านจะมีทหารคอยเฝ้ารออยู่หลายคน เมื่อคนแรกระบายความใคร่เสร็จแล้ว อีกคนก็จะเข้าไปก่อความรุนแรงต่อ เมืองทั้งเมืองมีแต่ความโกลาหล ราวกับนรกบนดิน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์