องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 505

สรุปบท ตอนที่ 505 แค่พูดออกมา: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

อ่านสรุป ตอนที่ 505 แค่พูดออกมา จาก องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดย Namfon

บทที่ ตอนที่ 505 แค่พูดออกมา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนติกโบราณ องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Namfon อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ฉินชงรับบันทึกมาและถามด้วยความสับสน

“นี่คือสิ่งใดหรือ?”

ฉินเหยียนลูบคาง

“พี่ใหญ่ดูแล้วจะรู้เอง”

ฉินชงมองดูเอกสารทีละฉบับ สีหน้าของเขาเศร้าหมองมากขึ้นเรื่อยๆ และพูดด้วยความโกรธ

“เหตุใดสิบหกเขตปกครองแห่งเมืองเยี่ยนหยุนถึงได้สับสนวุ่นวายเช่นนี้?”

ฉินเหยียนอธิบาย

“ในช่วงที่ท่านพี่อออกรบต่างเมือง ข้าได้กวาดล้างตระกูลขุนนาง ถอนรากถอนโคลนพวกคนแก่หัวรั้นออกไปจนหมด”

“หลังจากที่จับตัวไท่ฟู่ได้แล้ว ก็ไม่อาจปิดข่าวได้ ตระกูลขุนนางอื่นๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขากำลังต่อสู้อย่างหนักอยู่ด้านนอก แต่ข้ากลับขโมยทุกสิ่งทุกอย่างของเขาไปแล้ว พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้เป็นแบบนี้อย่างแน่นอน”

“ดังนั้น ตระกูลขุนนางเหล่านี้ล้วนวางแผนที่จะทำตามไท่ฟู่และเตรียมที่จะก่อกบฏ”

ฉินชงพูดออกมาอย่างโกรธๆ

“พวกกบฏพวกนี้ชั่วร้ายยิ่งนัก!”

ฉินเหยียนใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้พูดว่า

“ท่านพี่ไม่ได้พูดหรือว่าไม่มีอะไรให้ทำ เช่นนั้นก็ให้พวกทหารออกไปจัดการคนพวกนี้สิ”

เมื่อฉินชงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ การต่อสู้กับภายนอกได้ ภายในต้องแข็งแกร่งเสียก่อน เมืองที่เพิ่งถูกยึดมานั้นยังไม่ทันจะมั่นคง แต่กลับวุ่นวายถึงเพียงนี้ จะสำเร็จได้อย่างไร เขาพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

“เอาล่ะ เช่นนั้นข้าจะให้พวกกบฏมาฝึกซ้อม!”

พูดจบ ฉินชงก็ยืนขึ้นและเดินจากไป

ฉินเหยียนเรียกเขา

“ช้าก่อน!”

ฉินชงหันหน้ากลับมาแล้วถาม

“ทำไมหรือ เจ้าเสียใจอย่างนั้นหรือ?”

ฉินเหยียนเม้มริมฝีปากและพูดว่า

“ไม่ใช่ ข้าอยากบอกท่านพี่ว่า มีสามเมืองที่อยู่ในความสงบแล้ว จัดการใกล้จะเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องไปยุ่งกับพวกเขาอีก ท่านพี่แค่จัดการกับสิบกว่าเมืองที่เหลือเป็นพอ”

ฉินชงพยักหน้าอย่างเข้าใจและตอบว่า

“ได้ ข้าจะนำทัพกวาดล้างเมืองเอง!”

ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น เขาก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นานหลังจากที่ฉินชงเดินจากไป จ้าวจีเอ๋อร์และจ้าวหรงจีที่มีหน่วยสืบราชการลับคุ้มกันอย่างใกล้ชิดก็รีบไปยังเมืองอวิ๋นเฉิงทันที

องครักษ์เงานำทางพวกเขาทั้งสองไปยังคฤหาสน์ของฉินเหยียน

ทั้งสามเจอกันต่างพูดเข้าถึงประเด็นทันที โดยพูดกับจ้าวหรงจีว่า

“น้องเขย ข้ามีชุดเกราะเกล็ดมังกรทองอยู่ที่นี่ ข้าเก็บไว้ให้เจ้า”

หลังจากพูดเช่นนั้นเขาก็ปรบมือ และองครักษ์เงาพลันหยิบกล่องไม้ขึ้นมาทันที

เดิมทีจ้าวหรงจียังไม่ค่อยสบายใจกับชื่อที่ฉินเหยียนใช้เรียกเขา แต่เมื่อองครักษ์เงาเปิดกล่องออกมา เผยให้เห็นชุดเกราะสีทองด้านใน ความไม่พอใจของเขาพลันเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ

ฉินเหยียนหวังไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจ้าวหรงจีจะมีสีหน้าเช่นนี้ และออกคำสั่งด้วยสีหน้าพึงพอใจว่า

“ทหาร ใส่ชุดเกราะให้น้องเขยข้าโดยเร็ว!”

“ขอรับ!”

จ้าวจีเอ๋อร์ยืนยันทันที

“ใช่ ข้าต้องการทั้งหมด สิบสองปิ่นหิรัญย์ได้รับการฝึกฝนจากท่านทุกคนล้วนฉลาด ว่องไว มีความสามารถทั้งด้านวรรณกรรมและศิลปะการต่อสู้...”

จ้าวจีเอ๋อร์โน้มตัวไปข้างหน้าและกระที่ข้างหูอ๋องเหยียน

“ข้าไม่อยู่ข้างกายท่าน จะปล่อยให้นางฟ้าเหล่านี้อยู่กับท่านได้อย่างไร”

พูดจบ นางก็แลบลิ้นและมีสีหน้าภูมิใจมองไปที่ฉินเหยียน

สมกับที่เป็นคนสวยมีเล่ห์เหลี่ยม ความคิดของจ้างจีเอ่อร์ช่างละเอียดรอบคอบเสียจริง ฉินเหยียนยักไหล่แล้วตอบว่า

“ได้ แต่เจ้าต้องสัญญากับข้าว่าจะดูแลพวกนางอย่างดี”

จ้าวจีเอ๋อร์ให้คำสัญญา

“ในฐานะองค์หญิง ข้าปฏิบัติดูแลเขาอย่างดีแน่นอน ไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ”

ฉินเหยียนคิดไปคิดมาก็เห็นด้วย แม้ว่าความคิดของจ้าวจีเอ๋อร์จะละเอียดรอบคอบเพียงใด แต่การที่มีหญิงสาวคอยปรนนิบัติข้างกาย คอยส่งข่าวสารให้ และช่วยปกป้องจ้าวจีเอ๋อร์ในยามวิกฤต ซึ่งหมายความว่านั่นสามารถรับประกันความปลอดภัยของนางได้

ฉินเหยียนถามต่อ

“สิบสองปิ่นหิรัญย์พร้อมรับใช้เจ้าแล้ว อย่างอื่นล่ะ เจ้าต้องการสิ่งใดอีก?”

จ้าวจีเอ๋อร์พูดออกมาโดยไม่คิด

“ข้าต้องการคนและม้ากลุ่มหนึ่ง ว่าอย่างไรดีเล่า ข้าเองต้องไปยังแนวหน้า ท่านต้องให้ทหารที่แก่กล้าแก่ข้าใช่หรือไม่?”

หลังจากเดินไปรอบๆ เขาก็เกิดความคิดขึ้นมา ถึงเวลาที่ฉินเหยียนเสแสร้งบ้างแล้ว

“มากับข้า”

หลังจากพูดเช่นนั้น เขาโบกมือแล้วพาจ้าวจีเอ๋อร์ไปยังโรงเรียน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์