บริกรร้านอาหารยืนอยู่หน้าร้าน เขาเอามือเท้าสะเอวแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า
“ถุย อย่างเจ้าเนี่ยนะยังบังอาจเรียกว่าราชวงศ์อีก ราชวงศ์นั้นยิ่งใหญ่ เจ้าก็แค่ขอทาน ยังคิดจะกล่าวอ้างราชวงศ์มากินอาหาร อยากตายรึไง! ถ้าเจ้ายังบังอาจพูดจาโอหัง ข้าจะแจ้งจับเจ้า ทำให้เจ้าต้องไปกินอาหารคุกไปตลอดชีวิต! ไสหัวไป!”
“ใครจะอยากกินข้าวของเจ้า!” องค์ชายแปดฉินอู่นั่งยองๆ อยู่บนถนนแล้วด่าทอ
หากเป็นเมื่อก่อนฉินอู่ไม่มีทางแยแสร้านอาหารเล็กๆเช่นนี้แน่นอน หากจะเชิญเขาไปทานได้จะต้องเป็นร้านหรูที่มีเกียรติทั้งนั้น อย่าว่าแต่อาหารในชีวิตประจำวันเลย ต่อให้เขาอยากจะทานอาหารมื้อใหญ่ ก็จะมีคนเอามาถวายถึงที่ให้
แต่ตอนนี้แค่บริกรร้านอาหารก็ยังกล้าตะคอกด่าทอเขา เสือร่วงสู่พื้นราบ ตกอับแล้วถูกผู้น้อยเหยียดหยามชัดๆ ความโศกเศร้านับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามา จนทำให้ฉินอู่รู้สึกว่าแม้กระทั่งลมที่พัดมายังนั้น ยิ่งทำให้โศกเศร้ามากกว่าเดิม
หยางจิ่นซิ่วผู้เป็นหัวหน้าองครักษ์ขี่ม้าสูงใหญ่เดินตามขบวน นางเห็นองค์ชายแปดที่นั่งอยู่ข้างถนนแล้วรีบมาหน้ารถม้าแล้วพูดเตือนฉินเหยียนโดยมีผ้าม่านหน้าต่างกั้นอยู่
“ขอทานบนถนนคนนี้ คล้ายว่าจะเป็นเอียนอ๋องที่แปดฉินอู่นะเพคะ”
ฉินเหยียนเปิดผ้าม่านออกอย่างประหลาดใจแล้วตั้งใจมอง
“โอ้ เป็นพี่แปดของข้าจริงๆด้วย พี่แปด มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
ฉินอู่ที่กำลังโศกเศร้ากับความลำบาก เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็รีบเงยหน้าขึ้นทันที เมื่อเห็นฉินเหยียนแล้ว ความรู้สึกมากมายก็ถาโถมเข้ามา ไม่อาจเก็บความโศกเศร้าได้อีกต่อไป เขาน้ำตาไหลพรากแล้วพูดไปร้องไห้ไปว่า
“เจ้าสิบสี่ ฮือๆ......”
ลูกผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นถึงเอียนอ๋องที่แปด กำลังร้องไห้อย่างหนักราวกับเด็กน้อยบนถนน เขาร้องไห้ไปด้วยแล้ววิ่งเข้าไปหาฉินเหยียนไปด้วย กลิ่นเหม็นเปรี้ยวนั้นไม่มีใครทนได้เลย
ฉินเหยียนรีบปิดจมูกแล้วพูดว่า “เดี๋ยวก่อน พี่แปด ท่านเหม็นเกินไปแล้ว!”
ฉินอู่ไม่สนภาพลักษณ์อีกต่อไป เขาร้องอย่างโศกเศร้าต่อหน้าฉินเหยียนแล้วพูดว่า
“เจ้าสิบสี่ เจ้ารู้รึไม่ว่าหลายวันมานี้ข้าผ่านมันมาได้อย่างไร?”
ฉินเหยียนมองเขาอย่างสงสัยเล็กน้อยแล้วถามว่า “พี่แปด ท่านกลับเมืองหนานเฉิงก่อนแล้วไม่ใช่รึ เหตุใดจึงมีสภาพเช่นนี้?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยิ่งทำให้ฉินอู่โศกเศร้ากว่าเดิม
“หลังจากที่ข้าถูกช่วยออกมาก็ได้ข่าวว่าท่านแม่ถูกปลด จึงอยากจะกลับเมืองหนานเฉิงหาข่าว แต่พอถึงหนานเฉิงแล้ว ก็ได้ยินว่าตระกูลของท่านแม่ถูกพวกสารเลวกวาดล้างจนสิ้นซาก ไม่เหลือรอดเลยสักคนเดียว!”
“เมื่อชาวเมืองหนานเฉิงเห็นข้า ก็พากันวิ่งไล่ทุบตีข้ากันทันที ข้าจนปัญญาแล้วจริงๆ และไม่มีเงินติดตัวเลย แถมยังไม่มีค่าเดินทางกลับเมืองหลวงด้วย ดังนั้นข้าจึงต้องคอยขอทานไปทั้งทาง ฮือๆ ข้าลำบากมากเลย!”
ฉินอู่ยิ่งพูดก็ยิ่งเสียใจ อย่างไรเขาก็เป็นองค์ชาย กลับมีสภาพเช่นนี้ได้ก็คงลำบากเขาเกินไปแล้ว
ฉินเหยียนกระแอม อย่างไรคนของตระกูลพี่แปด เขาก็เป็นคนพาจ้าวจีเอ๋อร์กวาดล้างเอง จึงได้เปลี่ยนเรื่องแล้วพูดว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...