แสงจากคมดาบส่องประกาย และแขนที่เปื้อนเลือดก็หลุดปลิวไป
"อ๊า!"
เสียงกรีดร้องอันโหยหวนของชายผู้มีหนวดเคราดังก้องไปทั่วทั้งหงหลูซื่อ
ทูตหลายคนของอาณาจักรจ้าวพลันตกตะลึง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
แม้แต่ผู้รักษาการเสนาบดีหงหลูซื่อที่เพิ่งเห็นการสังหารของฉินเหยียนก็อดมิได้ที่จะหดม่านตาของเขา
ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าฉินเหยียนจะตัดมือขวาของ ทูตผู้มีหนวดเคราต่อหน้าต่อตาพวกเขาจริงๆ!
เมื่อถูกฉินเหยียนตัดแขนของเขาด้วยดาบ ทำให้เขากลิ้งไปบนพื้นด้วยความเจ็บปวดจนพูดไม่ออก
ฉินเหยียนหยิบมือที่ถูกตัดขึ้นมาและชูให้ทูตคนอื่นๆของอาณาจักรจ้าวดู
"ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า เพื่อให้เจ้าดูว่าข้าจะได้ข่าวสารที่ข้าต้องการมาได้อย่างไร"
“เจ้าสารเลว เก่งนักก็สังหารข้าเสียสิ!"
ผู้กล้าแห่งอาณาจักรจ้าวยังคงต่อต้าน แต่ถูกองครักษ์ส่วนตัวควบคุมและขัดขวางมิให้เขาได้สมหวัง
เขาโยนมือที่ถูกตัดออกไปยังเบื้องหน้าของขุนนางฝ่ายบุ๋นของอาณาจักรจ้าวพลางโบกมือและกล่าวว่า
"พาพวกเขาไปและแยกห้องขัง ข้าจะสอบปากคำพวกเขาทีละคน!"
เมื่อผู้กล้าถูกลากออกไปเขาก็ตะโกนว่า
"พวกเราชาวจ้าวล้วนเป็นผู้กล้า เราจะไม่ยอมก้มหัวให้เจ้าเป็นอันขาด หากเจ้าสังหารข้าก็ยังจะมีผู้กล้าอีกนับพันนับหมื่น มาล้างแค้นให้กับข้า!"
อย่างไรก็ตามเราขุนนางฝ่ายบุ๋นแห่งอาณาจักรจ้าวคนอื่นๆต่างก็สาปแช่งอยู่ในใจ เจ้าคนบ้าบิ่น ต้องการจะทำร้ายให้พวกข้าตายจึงจะรามือจริงๆหรือ
หากเจ้าอยากจะรนหาที่ ไม่ต้องพาพวกข้าไปด้วยหรอก
ฉินเหยียนเช็ดคราบเลือดบนดาบพลางสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
"อีกสักครู่ข้าจะสอบปากคำเดี่ยว หากผู้ใดกล้าที่จะกล่าวความเท็จ ข้าก็จะตัดนิ้วหนึ่งนิ้ว เมื่อตัดหมดทั้งสิบนิ้วแล้วก็จะเฉือนหู ตัดมือ และตัดเท้าจนกลายเป็นมนุษย์สุกร!"
เมื่อเหล่าทูตแห่งอาณาจักรจ้าวได้ยินคำกล่าวนี้ ดวงตาทั้งคู่ก็เบิกกว้างด้วยรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก!
"พาพวกเขาไป!"
"ขอรับ!"
องครักษ์สองสามคนก้าวออกมาด้านหน้าและพาทูตแห่งอาณาจักรจ้าวแยกย้ายกันไปคุมขังยังห้องต่างๆ
ฉินเหยียนเรียกองครักษ์มาหา และกระซิบสองสามประโยค
องครักษ์เข้าใจทันทีและมองดูฉินเหยียนราวกับว่าเขาเป็นยอดคน
ฉินเหยียนมีสีหน้าภาคภูมิใจโดยไม่ปิดบัง
คนกลุ่มนี้กล้าไม่พูดความจริงหรือ?
พูดเป็นเล่นไป เขาฉินเหยียนเป็นถึงสายลับชั้นยอด การสอบปากคำนั้นเป็นความสามารถพิเศษของเขา
ฉินเหยียนมาที่ห้องของทูตผู้มีหนวดเคราก่อน
เวลานี้ชายผู้มีหนวดเคราดูซีดเสียวและเหนื่อยล้า เขาลากมือที่ขาดพลางพิงอยู่ที่มุมห้อง
ฉินเหยียนก้มมองดูเขา
"ทำเช่นนี้เพื่ออะไรกัน บอกทุกสิ่งที่เจ้ารู้ออกมา ไม่เพียงแต่เจ้าจะสามารถหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดแต่ยังได้รับทองคำร้อยตำลึงอีกด้วย เหตุใดจึงไม่ตักตวงความสุขเล่า?"
ทูตผู้มีหนวดเคราหลับตาและกล่าวด้วยเสียงที่ไร้เรี่ยวแรงโดยไม่แม้แต่จะมองฉินเหยียนว่า
"เจ้าอย่าฝันไปเลย ข้าไม่พูดอะไรทั้งนั้น ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น"
ฉินเหยียนรู้ดีว่าเขาเป็นคนหัวแข็งและไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาในเวลานี้ จึงโบกมือให้องครักษ์
องครักษ์รีบก้าวออกมาข้างหน้า และใช้ผ้าที่เตรียมไว้ยัดเข้าไปในปากของทูตผู้มีหนวดเครา
"เช่นนั้นเจ้าก็จงรอดูเถิดว่าคนอื่นจะทรยศอาณาจักรจ้าวอย่างไร"
เมื่อฉินเหยียนกล่าวจบ
ก็ได้ยินองครักษ์ที่ยืนอยู่ตรงประตูตะโกนไปที่ทางเดินว่า
"ห้องหมายเลขหนึ่งสารภาพแล้ว ให้รางวัลทองหนึ่งร้อยตำลึง!"
ชายผู้มีหนวดเคราลืมตาขึ้นทันที และยังมิทันฉุกคิดชั่วครู่ นี่คิดจะทำอะไร?
อย่างไรก็ตามทูตแห่งอาณาจักรจ้าวที่อยู่ในห้องอื่นๆก็อดมิได้ที่จะสั่นสะท้าน
"สารภาพแล้ว มีคนสารภาพแล้ว?"
นาทีนี้เหล่าทูตของอาณาจักรจ้าวต่างก็มีเหงื่อออกที่หลัง พวกเขาล้วนเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นเป็นผู้ศึกษาเล่าเรียน และไม่เคยอยู่ในสนามรบมาก่อนจะเคยผ่านเรื่องเช่นนี้มาได้อย่างไรกัน ในใจรู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
เวลานี้ทูตแห่งอาณาจักรจ้าวที่ถูกขังอยู่ในห้องหมายเลขสองที่อยู่ถัดไปก็มีเหงื่อผุดอยู่บนหน้าผาก
"ปัง"
ฉินเหยียนเปิดประตูเข้ามา ทูตแห่งอาณาจักรจ้าวที่อยู่ในห้องหมายเลขสองตกใจมากจนล้มลงกับพื้น
องครักษ์ยกเก้าอี้มาและฉินเหยียนก็นั่งลงบนเก้าอี้สบายๆ เขาไขว้ขาและกล่าวอย่างผ่อนคลายว่า
"ไหนมาคุยกันหน่อยซิ ครั้งนี้ที่อาณาจักรจ้าวของพวกเจ้ามาอภิเษกสมรสเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีนั้น วางแผนจะทำอะไร ซุ่มโจมตีไปกี่คนแล้ว บอกทุกอย่างที่เจ้ารู้ออกมา รางวัลทองหนึ่งร้อยตำลึงและยังมีของดีๆให้เจ้ากินเจ้าดื่ม หากเจ้าไม่บอกก็จงกลายเป็นมนุษย์สุกรเสีย!"
ในขณะที่กล่าวเขาก็ทำท่าทางเตรียมที่จะหั่นเขา แม้ว่าทูตในห้องหมายเลขสองจะหวาดกลัว แต่เพื่อภารกิจของอาณาจักรจ้าว เขาจึงยืนหยัดที่จะไม่พูดอะไร
"เจ้า ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้นจริงๆ!"
ฉินเหยียนเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วและไม่โกรธ เขาโบกมือและทหารยามก็นำอาหารอันโอชะมายื่นที่เบื้องหน้าของทูตในห้องหมายเลขสอง
เบื้องหน้าของทูตแห่งอาณาจักรจ้าวในห้องหมายเลขสองสว่างขึ้นทันที แต่เขาก็มิได้ตอบสนอง
จากนั้นองครักษ์ก็ยกทองคำหนึ่งร้อยตำลึงเข้ามาซึ่งส่งประกายจนเกือบจะทำให้เขาตาบอด
ฉินเหยียนถามต่อว่า
"ว่าอย่างไร ขอเพียงเจ้าพูดออกมา ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของเจ้า"
เสียงของฉินเหยียนดูเหมือนจะสามารถทำให้คนสับสน ทูตที่อยู่ในห้องหมายเลขสองเกือบจะอดไม่ได้จนต้องยอมแลกเปลี่ยน ทว่าสติสัมปชัญญะสุดท้ายก็หยุดเขา จากนั้นเขาจึงยืนกรานด้วยใบหน้าที่เศร้าว่า
"ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น เจ้าจะให้ข้าพูดอะไรเล่า!"
ฉินเหยียนเชิดคางขึ้น
องครักษ์รีบก้าวไปข้างหน้าและปิดปากทูตในห้องหมายเลขสองทันที
หลังจากนั้นจึงตะโกนตรงทางเดินว่า
"ห้องหมายเลขสองสารภาพ มอบรางวัลทองหนึ่งร้อยตำลึง!"
เมื่อทูตของอาณาจักรจ้าวที่อยู่ในห้องอื่นๆได้ยินว่ามีคนสารภาพติดๆกัน ในใจของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มสั่นคลอน
"สารภาพอีกคนแล้ว เราจะทำอย่างไรกันดี!"
"หากสารภาพก็เท่ากับทรยศชาติ ตายไปก็ไม่มีหน้าไปพบ บรรพบุรุษ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
เห็นเขาว่ามี 700 กว่าตอน จริงไหมครับ ละดูที่ไหนได้ครบทุกตอนครับ...
กำลังสนุกรอตอนต่อไป...
รอตอนต่อไป...
จะต่ออีกภาคเมื่อไร...
มีชื่อ ENG มั้ย...
ใช้แอปอะไรอ่านแบบยาวๆครับ...
สนุกมาก อยากดูแบบคนเล่นเลย...
สนุก น่าติดตาม รอตอนต่อไป ครับ...
รออ่านครับ สนุกมาก...
สนุกน่าติดตาม...