องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 619

ต้าหย่งและหยางจิ่นซิ่วพร้อมทั้งพวกทหารพยัคฆ์เสือดาวต่างก็ตามหาไปทั่วเมือง แต่ก็ไม่พบตัวอ๋องเหยียนเลย ทุกคนกลับไปโดยไม่มีคืบหน้า ต่างก็กลับไปรวมตัวกันที่หอหม่านฮวาอย่างร้อนใจ

จ้าวจีเอ๋อร์ร้อนใจอย่างมาก นางเดินไปมาไม่หยุด ต้าหย่งยืนอยู่หน้าประตูแล้วคอยชะเง้อหน้ามองด้านนอก และในขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยอย่างร้อนใจ เสี่ยวจิ่วก็พยุงฉินเหยียนเดินเข้ามาในหอหม่านฮวาอย่างปลอดภัย

ต้าหย่งที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเห็นพวกเขาทั้งสองก่อน เขาดีใจจนน้ำตาแทบจะไหล รีบเข้าไปต้อนรับว่า

“ท่านอ๋อง ในที่สุดก็กลับมาเสียทีนะพ่ะย่ะค่ะ! พวกกระหม่อมคิดว่าพระองค์หายไปแล้วเสียอีก!”

เมื่อคนในหอหม่านฮวาเห็นว่าฉินเหยียนกลับมาอย่างปลอดภัยก็วางใจทันที ต่างก็พากันเดินเข้าไปถามไถ่อย่างห่วงใย

“ท่านอ๋องไปอยู่ไหนมาเพคะ?”

“พวกกระหม่อมหาตัวท่านยากลำบากเหลือเกิน!”

ตอนนี้ฉินเหยียนรู้สึกวิงเวียนศีรษะมาก เขาไม่ได้ตอบคำถามของทุกคน แต่เดินไปที่ห้องแล้วออกคำสั่งว่า

“เตรียมน้ำ ข้าจะล้างหน้าเปลี่ยนชุด”

“เพคะ” สิบสองปิ่นหิรัญย์รีบไปเตรียมน้ำทันที

จ้าวจีเอ๋อร์เดินไปปรนนิบัติฉินเหยียนด้วยตนเอง หยางจิ่นซิ่วรีบไปหาเสื้อผ้าสะอาดที่หีบทันที ในขณะที่ฉินเหยียนเปลี่ยนเสื้อผ้าสกปรก เหล่าปิ่นหิรัญย์ก็ได้เตรียมน้ำร้อนเอาไว้แล้ว แถมยังนำมาวางไว้เบื้องหน้าของฉินเหยียนด้วย

ฉินเหยียนนั่งอยู่บนที่นอนอย่างมึนเมา จ้าวจีเอ๋อร์เทน้ำและคอยล้างมือล้างหน้าให้เขา เมื่อล้างเสร็จแล้วหยางจิ่นซิ่วก็เอาผ้าสะอาดไปซับน้ำบนใบหน้าให้ เมื่อสะอาดสะอ้านแล้วฉินเหยียนก็ยังคงปวดศีรษะและไร้เรี่ยวแรงอยู่

จ้าวจีเอ๋อร์คอยนวดขมับให้ฉินเหยียนอย่างใส่ใจ เหล่าสิบสองปิ่นหิรัญย์คอยรายล้อมนวดไหล่ให้เขา ฉินเหยียนหลับตาเอนพิงอยู่บนเก้าอี้แล้วเพลิดเพลินไปกับการนวด แต่ก็ยังต้องฟังเสียงบ่นของเหล่าหญิงสาว

“ท่าอ๋องเพคะ มีหมายยมราชออกมาแล้ว เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่าต้องการสังหารพระองค์ จะเสด็จออกไปไหนตามลำพังไม่ได้แล้วนะเพคะ!”

“คนที่อยากจะสังหารพระองค์ในครั้งนี้มีนามว่ากงซุนอู๋หมิงเพคะ คนผู้นี้มีฝีมือที่ร้ายกาจ เป็นบุคคลในตำนาน มีการเล่าขานกันว่าเขาสังหารคนได้ในดาบเดียวเพคะ!”

“อีกอย่างเขายังเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งด้วยเพคะ แม้แต่ในอันดับจอมยุทธที่แข็งแกร่ง เขาก็อยู่หนึ่งในสามมาตลอดเลยเพคะ เพียงแค่เขาต้องการสังหาร ก็ไม่มีใครรอดไปได้เพคะ”

เมื่อพูดเช่นนั้นแล้วจ้าวจีเอ๋อร์ก็ชะงักไป แผนการที่สุดยอดเช่นนี้ทำให้นางประทับใจมาก แต่เมื่อไตร่ตรองแล้ว ตอนนี้นักฆ่าอันดับหนึ่งกำลังจะมาทำการลอบสังหาร ไม่ว่าอย่างไรก็จะปล่อยให้ฉินเหยียนมีอันตรายไม่ได้ จึงเกลี้ยกล่อมว่า

“ท่านอ๋องเพคะ ต่อให้จะรอบคอบเพียงใดก็จะมีช่องโหว่ ยิ่งไปกว่านั้นกงซุนอู๋หมิงก็ไม่ใช่คนธรรมดา หากเกิดพลาดขึ้นมาจะให้พวกข้าทำอย่างไรกันละเพคะ!”

หยางจิ่นซิ่วเองก็พูดสมทบว่า “การยอมรับฟังความเห็นจากผู้อื่นจะนำมาซึ่งเรื่องดีๆ เจ้าหยุดดื้อรั้นได้แล้ว ข้าจะส่งเจ้ากลับอาณาจักรจ้าวเดี๋ยวนี้”

ต้าหย่งเองก็เห็นด้วย “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หากพระองค์เป็นอะไรไปกระหม่อมจะกราบทูลต่อฝ่าบาทอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ จะบอกกับชาวเมืองอาณาจักรฉินอย่างไร ช่วยรับฟังด้วยเถิด กระหม่อมและกองทัพจะคุ้มครองพระองค์กลับอาณาจักรฉินอย่างแน่นหนาพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนโบกมืออย่างรำคาญใจว่า “สิ่งที่พวกเจ้ากล่าวมาข้ามีแผน ไม่เห็นต้องมาพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้ ไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นกงซุนอู๋หมิงอะไรนั่นรึไม่ เป็นแค่คนธรรมดา จะกลัวไปทำไมกัน!”

ว่าแล้วเขาก็หยิบกล่องผ้าออกมาวางบนโต๊ะแล้วเปิดออก จากนั้นก็หยิบปืนพกออกมาสองกระบอกแล้ววางลงบนโต๊ะ แล้วพูดอย่างภูมิใจว่า

“ดาบรวดเร็วภายในเจ็ดก้าว แต่มากกว่าเจ็ดก้าวปืนเร็วกว่า หากมีปืนพกลูกโม่สองกระบอกนี้ ข้าก็ไม่เชื่อหรอกนะว่ายังจะมีใครในใต้หล้านี้ที่เข้าใกล้ข้าได้ถึงเจ็ดก้าว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์