องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 620

ทุกคนในห้องต่างก็สบตากัน ไม่คิดว่าครั้งนี้อ๋องเหยียนจะดื้อรั้นถึงเพียงนี้ ทั้งที่รู้ว่ามีอันตรายแต่ก็ยังจะเดินเข้าไป ไม่ยอมฟังคำใครเลยสักคน ทุกคนพูดต่างๆนานาก็ไม่อาจเปลี่ยนความคิดของเขาได้เลย ทุกคนต่างก็ร้อนใจกันอย่างมาก

เซี่ยชิงกอดคันธนูเอาไว้แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “หรือว่าเราทุบท่านอ๋องให้หมดสติแล้วยกกลับไปเถิด!”

หยางจิ่นซิ่วหักข้อนิ้วแล้วพูดว่า “ข้าว่าดี ลงมือเลย!”

ฉินเหยียนเหลือบตาไปแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ทำอะไร พวกเจ้าจะก่อกบฏรึ!”

หยางจิ่นซิ่วโกรธจนกระทืบเท้า “เหตุใดเจ้าจึงดื้อรั้นเพียงนี้ บอกให้เจ้าหนีก็หนีไปสิ ตอนนี้การออกจากอาณาจักรจ้าวเป็นทางเลือกที่สุด เหตุใดจึงต้องเอาตัวไปที่อันตรายด้วย!”

ต้าหย่งครุ่นคิด ในเมื่อไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของอ๋องเหยียนได้ เช่นนั้นก็ลักขื่อเปลี่ยนเสา เขาไปตายแทนอ๋องเหยียนดีกว่า

“ในเมื่อท่านอ๋องดึงดันจะไปที่อันตราย เช่นนั้นกระหม่อมก็เป็นตัวแทนท่านอ๋อง อย่างไรตอนนี้คนอาณาจักรจ้าวก็คิดว่ากระหม่อมคือท่านอ๋องอยู่แล้ว เช่นนั้นก็ให้ท่านอ๋องปลอมอย่างกระหม่อมไปแทนท่านอ๋องตัวจริง ไปสั่งสอนเจ้ากงซุนอู่หมิงนั่น!”

ฉินเหยียนปฏิเสธว่า “ไม่จำเป็น ครั้งนี้ข้าเอง”

ต้าหย่งเกลี้ยกล่อมด้วยใบหน้าที่ลำบากใจ “ท่านอ๋องอย่าดื้อรั้นเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนลุกขึ้นตบบ่าของต้าหย่ง “เมื่อก่อนที่ข้าให้เจ้าไปเป็นตัวแทนข้า เพราะรู้ว่านักฆ่าไม่มีทางทำอะไรเจ้าได้ จึงให้เจ้าแสร้งทำเป็นข้าเท่านั้น แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ในเมื่อคนผู้นี้เก่งกาจขนาดนี้ งั้นข้าก็ต้องไปด้วยตนเอง ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ข้าก็ไม่เชื่อหรอกนะว่าจะฆ่าข้าได้!”

ไม่ว่าทุกคนจะพยายามพูดอย่างไรก็ไม่มีใครเปลี่ยนความคิดของฉินเหยียนได้เลย

หยางจิ่นซิ่วสบถเสียงเบาว่า “อ๋องเหยียนคงไม่ใช่ยังไม่สร่างเมาหรอกนะ ถึงได้ดื้อรั้นขนาดนี้”

ต้าหย่งยักไหล่แล้วพูดว่า “ตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ข้าจะไปออกคำสั่งพวกกองทัพพยัคฆ์เสือดาวให้คุ้มครองให้แน่นหนาขึ้น ให้คุ้มครองความปลอดภัยของอ๋องเหยียนไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”

ฉินเหยียนขยับร่างกายแล้วออกคำสั่งว่า “รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ข้าได้แล้ว ข้าจะเข้าพระราชวังอาณาจักรจ้าวไปเดินเล่นเสียหน่อย!”

จ้าวจีเอ๋อร์ไม่คิดเลยว่าฉินเหยียนจะเข้าวังอย่างเปิดเผยเช่นนี้ นี่เขากลัวว่ากงซุนอู๋หมิงไม่มีโอกาสรึไง!

นางพูดด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจว่า “ตอนนี้คนร้ายอยู่ในที่ลับ จะเข้าวังอย่างเปิดเผยเช่นนี้ไม่ได้นะ!”

ฉินเหยียนพูดเสียงแข็งว่า “ข้าจะเข้าวังไปเจรจาเรื่องสำคัญ หรือว่าพวกเจ้าไม่อยากจะช่วยชาวเมืองอาณาจักรจ้าวแล้ว? แค่เพราะมีคนจะสังหารข้าพวกเจ้าก็ไม่สนใจว่าชาวเมืองจะอยู่หรือตายงั้นรึ? พวกเจ้าติดตามข้ามานานขนาดนี้ยังไม่รู้นิสัยของข้าอีกรึ คิดว่าข้าคือคนปอดแหกขี้กลัวงั้นรึ!”

ทุกคนแสดงสีหน้าที่กังวลแล้วส่ายหน้า พวกข้าไม่กล้าพูดว่าเข้าใจการกระทำของอ๋องเหยียนทุกอย่างได้เต็มปาก ต่างก็รู้บ้างไม่รู้บ้าง เขาไม่ประจบประแจงหรือดูถูกดูแคลน เขาเป็นปราชญ์ที่มีความเมตตากรุณาและความชอบธรรมอย่างยิ่ง

เมื่อฉินเหยียนเห็นว่าทุกคนส่ายหน้าก็พูดอย่างจริงจังว่า “รีบเปลี่ยนเสื้อ แล้วเคลื่อนขบวนเข้าวัง!”

ทุกคนปฏิบัติตามสิ่งที่ฉินเหยียนกล่าวอย่างจนปัญญา

......

ฉินเหยียนอยู่ในรถม้าที่โซเซ เขาใช้มือกุมขมับแล้วพึมพำว่า

“ปวดศีรษะอยากอาเจียนจริงๆ ต่อไปนี้จะไม่ดื่มเยอะขนาดนั้นแล้ว”

จ้าวจีเอ๋อร์นวดขมับให้เขาแล้วพูดไปด้วยว่า “ท่านอ๋องยังจะมาห่วงเรื่องดื่มเหล้าอีกนะเพคะ ตอนนี้พระองค์ควรจะกังวลว่าจะรับมือกับกงซุนอู๋หมิงอย่างไรนะเพคะ!”

ฉินเหยียนพูดอย่างไม่แยแสว่า “กังวลอะไรกัน หากกล้าเข้ามาข้าก็จะฆ่ามันซะ”

นอกรถม้า

เฝิงตู่ยืนอยู่บนถนนโดยปะปนอยู่ในฝูงชน เขายืนมองขบวนรถของอ๋องเหยียนอาณาจักรฉินที่มาอย่างเปิดเผย ดวงตาของเขาประกายความเย็นชาแล้วพูดว่า

“เพราะแค่เวลายังไม่ถึงหรอกนะ หากถึงเวลาข้าจะมาเอาชีวิตเจ้าแน่นอน!”

ทั้งสองคนทั้งในรถม้าและนอกรถมีความคิดที่แตกต่างกัน และคลาดกันไป ในรถคือฉินเหยียน นอกรถคือเฝิงตู่ นักปราชญ์และจอมยุทธฝีมือฉกาจปรากฏตัวพร้อมกัน

เพียงแต่ทั้งสองยังไม่รู้ว่าคนที่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้าในคืนนี้ คือสหายที่ดื่มเหล้าคุยโวกันก่อนหน้านี้

เฝิงตู่มองรถม้าของอ๋องเหยียนอาณาจักรฉินเข้าไปในพระราชวังแล้วก็หายตัวไปในฝูงชน ฉากนองเลือดการตัดสินระหว่างสองชะตากรรม จะเกิดขึ้นในคืนนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์