ตำหนักจินหลวน
ฉินเหยียนเดินเข้าไปในตำหนักราวกับเป็นบ้านของตนเอง เขาเดินชมไปทั่ว แล้วตำหนิไปทั่ว ทุกคนยืนอยู่ในตำหนักแล้วจ้องมองฉินเหยียน
ฉินเหยียนเดินไปนั่งบนบัลลังก์เองท่ามกลางสายตาของทุกคน เขาสะบัดชุดหรูหราแล้วนั่งลงไป
จ้าวหรงจีกำลังจะห้ามแต่ถูกจ้าวจีเอ๋อร์ผู้เป็นพี่สาวห้ามเอาไว้ เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“ท่านพี่ เขานั่งอยู่บนบัลลังก์เชียวนะ เขาคือคนอาณาจักรฉินนะ!”
จ้าวจีเอ๋อร์ดุอย่างเข้มงวดว่า “อย่าพูดมาก”
จ้าวหรงจีไม่กล้าพูดมากความ เขามองฉินเหยียนอย่างไม่พอใจ
ฉินเหยียนนั่งขยับไปมาอยู่บนบัลลังก์ เอนหลังแล้วก็กลับมานั่งตัวตรง เขาส่ายหน้าแล้วพูดว่า
“เก้าอี้ตัวนี้นั่งไม่สบายเลย เหตุใดจึงมีคนแย่งชิงกันมากมายนะ ไม่น่าสนใจเลยสักนิด”
เมื่อพูดดังนั้นก็เดินลงมาจากบัลลังก์แล้วเดินมาตรงหน้าของจ้าวจีเอ๋อร์และจ้าวหรงจี เขาไม่ได้สนใจพิธีหยุมหยิม และพูดตรงประเด็นทันทีว่า
“มาคุยเรื่องเสบียงอาหารที่จะเข้ามาช่วยเหลือกันดีกว่า พวกเจ้าคิดว่าจะรับไว้เมื่อไร?”
จ้าวจีเอ๋อร์พูดอย่างจริงจังว่า “พวกข้าได้หารือกับเหล่าขุนนางในพระราชสำนักแล้ว และยอมรับเสบียงอาหารจากอาณาจักรฉิน สามารถนำเสบียงอาหารเข้ามาในท้องพระคลังได้ตลอดเวลา”
ฉินเหยียนพูดตรงๆว่า “ส่งเสบียงอาหารให้พวกเจ้าก็ได้อยู่หรอก แต่อาณาจักรฉินมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ”
จ้าวหรงจีถามอย่างร้อนใจว่า “เงื่อนไขอะไร?”
ฉินเหยียนเอามือไพล่หลังแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เสบียงอาหารไม่ต้องเอาเข้าท้องพระคลัง แต่ให้คนของข้าไปแจกจ่ายข้าวต้มและแจกจ่ายเสบียงให้แก่เหล่าชาวเมืองเอง อีกทั้งในขณะเดียวกันก็ให้คนของข้าดูแลเรื่องกิจการของรัฐในท้องถิ่น และดำเนินการบูรณะเมืองแต่ละเมือง”
เมื่อจ้าวหรงจีได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยเสียงเข้มงวดว่า “ให้คนอาณาจักรฉินดำเนินการเรื่องในพระราชสำนักแทนคนอาณาจักรจ้าว เจ้ามีแผนอะไรกันแน่?”
จ้าวจีเอ๋อร์รีบห้ามเขาไว้แล้วส่ายหน้า เพื่อบอกไม่ให้เขาพูด
แต่ฉินเหยียนกลับพูดอย่างไม่ปิดบังว่า “ใช่แล้ว ข้าต้องการแย่งอำนาจในการดูแลควบคุมพลเรือนอาณาจักรจ้าว เจ้าเพิ่งรู้รึ?”
แถมเขายังโอบไหล่ของจ้าวหรงจีแล้วพูดข้างหูเขาอย่างชั่วร้ายว่า
“ข้าไม่เพียงแต่จะชิงอำนาจอาณาจักรจ้าวเท่านั้น แต่ยังจะชิงผู้หญิงอาณาจักรจ้าวด้วย! เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”
จ้าวหรงจีมองสีหน้าที่ได้ใจของฉินเหยียนแล้วรู้สึกไม่สบอารมณ์ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นพี่เขยของตนเอง
เขาจึงหันหน้าหนีแล้วทำเสียงเย็นชาพูดว่า “ข้าไม่ถือสาเจ้า”
ฉินเหยียนมองน้องชายของภรรยาที่น่าเอ็นดูแล้วหัวเราะเสียงพูดว่า
“หากข้าไม่มาดำเนินการด้วยตนเอง แล้วเจ้าจะสามารถจัดการกับสถานการณ์ที่โกลาหลเช่นนี้ได้งั้นรึ? แม้แต่ท่านพี่ของเจ้าก็ทำไม่ได้ เป็นเด็กดีแล้วเชื่อฟังเถิด”
ฉินเหยียนทำให้จ้าวหรงจีที่ไม่พอใจเงียบด้วยวิธีปลอบเด็กแล้วออกคำสั่งว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...