หลังจากที่ต้าหย่งออกมาจากห้อง เขาก็เข้าไปยังห้องที่อยู่ติดกับห้องท้องฟ้าหมายเลขหนึ่งโดยมีใครสนใจ
เขาหยิบแก้วเหล้าบนโต๊ะขึ้นมา เอนตัวติดกับผนัง เงี่ยหูฟังบนสนทนาขององค์ชายใหญ่ที่ยู่ในห้องข้างๆ
“เจ้าสิบสี่เป็นอันดับหนึ่งในงานเลี้ยงคืนนี้ หลังจากนั้นเสด็จพ่อไม่เพียงแต่แต่งตั้งเขาเป็นชินหวังเท่านั้น แต่ยังมอบกระบี่ชื่อเซียวให้อีกด้วย!”
เมื่อพูดตรงนี้องค์ชายใหญ่ฉินชงโกรธมาก
“ปัง”
เขาตบโต๊ะและกัดฟันพูดว่า
“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะแต่งตั้งให้เขาเป็นองค์รัชทายาท!”
คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนั้นคือเสนาบดีกรมอาญารีบแนะนำอย่างรวดเร็ว
“องค์ชายใหญ่อย่าทรงโกรธเลยพ่ะย่ะค่ะ ก่อนหน้านี้องค์ชายสิบสี่ได้ปิดบังตัวตนเอาไว้มานานพอสมควร แต่ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าเขามีความสามารถมากแค่ไหน”
“ความรู้สึกชื่นชอบอาจจะเป็นเรื่องแปลกใหม่ของฮ่องเต้ฉิน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้องค์ชายสิบสี่ไม่ค่อยจะมาปรากฏตัวให้เห็น บางทีการปรากฏตัวในครั้งนี้คงทำให้ฝ่าบาทประหลาดใจไม่น้อยขอรับ”
“แต่หลังจากนี้อีกไม่นาน องค์ชายสิบสี่จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลขุนนาง ไม่ว่าเขาจะทำเช่นไรคงเอาตัวรอดได้อีกไม่นานหรอกขอรับ”
องค์ชายใหญ่ฉินชงดื่มเหล้าไปหนึ่งแก้วพูดอย่างเศร้าใจว่า
“ตอนนี้บรรดาข้าราชสำนักต่างแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย องค์ชายทุกคนต่างก็พยายามดิ้นรนเพื่อโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะ ข้าพูดกับท่านตรงๆ แล้วกัน ทำไมท่านกับข้าถึงไม่ร่วมมือกันเล่า หากข้าได้สืบทอดบัลลังก์ต่อจากเสด็จพ่อ ท่านจะได้ผลประโยชน์ไม่น้อย”
เสนาบดีกรมอาญามีไหวพริบดีมาก คนที่พระราชวังจะเลือกตำแหน่งผู้สืบทอดคนต่อไปนั้น ก็ยังต้องเป็นองค์ชายใหญ่ องค์ชายสี่หรือไม่ก็องค์ชายแปดแน่นอน
ในงานเลี้ยง เกรงว่าองค์ชายแปดฉินอู่ถูกกดดันหลายต่อหลายครั้ง เกรงว่าความชื่นชอบของฮ่องเต้ฉินที่มีต่อเขากำลังสั่นคลอน
อีกทั้งอำนาจของตระกูลฝ่ายมารดาขององค์ชายสี่เองก็มิได้มีอำนาจมากเท่าองค์ชายใหญ่ นอกจากนี้องค์ชายใหญ่ยังเป็นลูกชายคนโต ตั้งแต่สมัยโบราณมีคำพูดที่ว่าผู้สืบทอดคนต่อไปต้องเป็นลูกชายคนโต ดังนั้นคนที่มีโอกาสสืบทอดบัลลังก์มากที่สุดคือองค์ชายใหญ่ฉินชง
เมื่อเขาสนับสนุนให้องค์ชายใหญ่ได้เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์คนต่อไปได้ ตำแหน่งของเขาในราชสำนักจะต้องก้าวหน้ามากขึ้นเป็นแน่
เสนาบดีกรมอาญาประสานมือทำความเคารพทันที
“องค์ชายใหญ่ทรงให้ความสำคัญแก่กระหม่อม นับเป็นความโชคดีของข้าแล้ว ข้ายินดีที่จะทำงานหนักเพื่อท่านขอรับ”
องค์ชายใหญ่ฉินชงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเม้มริมฝีปากอีกครั้ง
“ตอนนี้ฉินเหยียนกำลังเป็นที่โปรดปราน หากเราไม่รีบกำจัดเขา เราก็ไม่อาจป้องกันเรื่องที่เขาจะก่อขึ้นหลังจากนี้ได้”
เสนาบดีกรมอาญาเข้าใจในทันที องค์ชายสิบสี่ที่ตัวคนเดียว ไม่มีพรรคพวก ไม่มีการสนับสนุนจากบรรดาขุนนาง จะจัดการเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงกล่าวว่า
“หากองค์ชายใหญ่รู้สึกว่าเขาขวางหูขวางตาแล้วจริงๆ ข้าจะกลับไปที่กรมอาญาในคืนนี้เพื่อจับจุดอ่อน พรุ่งนี้เช้าจะร่วมมือเจรจากับกรมอื่น หาทางลงโทษเขา ทำให้เขาหายไปจากสายตาท่านในทันทีขอรับ!”
องค์ชายใหญ่ฉินชงยิ้มยกมุมปากเล็กน้อย ยกแก้วเหล้าขึ้นมาพลางพูดว่า
“ท่านเสนาบดีกรมอาญาคิดได้รอบคอบเสียจริง เช่นนั้นข้าต้องขอบใจในน้ำใจของท่าน”
เสนาบดีกรมอาญายกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วตอบว่า
“ขอบพระทัยองค์ชายใหญ่ที่ไว้ใจข้า”
แผนลับของทั้งสองคน ต้าหย่งที่อยู่ห้องข้างๆ ได้ยินจนหมดแล้ว
...
อีกด้านหนึ่ง
ฉินเหยียนกวักมือเรียกจ้าวจีเอ๋อร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...