องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 64

หลังจากที่ต้าหย่งออกมาจากห้อง เขาก็เข้าไปยังห้องที่อยู่ติดกับห้องท้องฟ้าหมายเลขหนึ่งโดยมีใครสนใจ

เขาหยิบแก้วเหล้าบนโต๊ะขึ้นมา เอนตัวติดกับผนัง เงี่ยหูฟังบนสนทนาขององค์ชายใหญ่ที่ยู่ในห้องข้างๆ

“เจ้าสิบสี่เป็นอันดับหนึ่งในงานเลี้ยงคืนนี้ หลังจากนั้นเสด็จพ่อไม่เพียงแต่แต่งตั้งเขาเป็นชินหวังเท่านั้น แต่ยังมอบกระบี่ชื่อเซียวให้อีกด้วย!”

เมื่อพูดตรงนี้องค์ชายใหญ่ฉินชงโกรธมาก

“ปัง”

เขาตบโต๊ะและกัดฟันพูดว่า

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะแต่งตั้งให้เขาเป็นองค์รัชทายาท!”

คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนั้นคือเสนาบดีกรมอาญารีบแนะนำอย่างรวดเร็ว

“องค์ชายใหญ่อย่าทรงโกรธเลยพ่ะย่ะค่ะ ก่อนหน้านี้องค์ชายสิบสี่ได้ปิดบังตัวตนเอาไว้มานานพอสมควร แต่ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าเขามีความสามารถมากแค่ไหน”

“ความรู้สึกชื่นชอบอาจจะเป็นเรื่องแปลกใหม่ของฮ่องเต้ฉิน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้องค์ชายสิบสี่ไม่ค่อยจะมาปรากฏตัวให้เห็น บางทีการปรากฏตัวในครั้งนี้คงทำให้ฝ่าบาทประหลาดใจไม่น้อยขอรับ”

“แต่หลังจากนี้อีกไม่นาน องค์ชายสิบสี่จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลขุนนาง ไม่ว่าเขาจะทำเช่นไรคงเอาตัวรอดได้อีกไม่นานหรอกขอรับ”

องค์ชายใหญ่ฉินชงดื่มเหล้าไปหนึ่งแก้วพูดอย่างเศร้าใจว่า

“ตอนนี้บรรดาข้าราชสำนักต่างแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย องค์ชายทุกคนต่างก็พยายามดิ้นรนเพื่อโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะ ข้าพูดกับท่านตรงๆ แล้วกัน ทำไมท่านกับข้าถึงไม่ร่วมมือกันเล่า หากข้าได้สืบทอดบัลลังก์ต่อจากเสด็จพ่อ ท่านจะได้ผลประโยชน์ไม่น้อย”

เสนาบดีกรมอาญามีไหวพริบดีมาก คนที่พระราชวังจะเลือกตำแหน่งผู้สืบทอดคนต่อไปนั้น ก็ยังต้องเป็นองค์ชายใหญ่ องค์ชายสี่หรือไม่ก็องค์ชายแปดแน่นอน

ในงานเลี้ยง เกรงว่าองค์ชายแปดฉินอู่ถูกกดดันหลายต่อหลายครั้ง เกรงว่าความชื่นชอบของฮ่องเต้ฉินที่มีต่อเขากำลังสั่นคลอน

อีกทั้งอำนาจของตระกูลฝ่ายมารดาขององค์ชายสี่เองก็มิได้มีอำนาจมากเท่าองค์ชายใหญ่ นอกจากนี้องค์ชายใหญ่ยังเป็นลูกชายคนโต ตั้งแต่สมัยโบราณมีคำพูดที่ว่าผู้สืบทอดคนต่อไปต้องเป็นลูกชายคนโต ดังนั้นคนที่มีโอกาสสืบทอดบัลลังก์มากที่สุดคือองค์ชายใหญ่ฉินชง

เมื่อเขาสนับสนุนให้องค์ชายใหญ่ได้เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์คนต่อไปได้ ตำแหน่งของเขาในราชสำนักจะต้องก้าวหน้ามากขึ้นเป็นแน่

เสนาบดีกรมอาญาประสานมือทำความเคารพทันที

“องค์ชายใหญ่ทรงให้ความสำคัญแก่กระหม่อม นับเป็นความโชคดีของข้าแล้ว ข้ายินดีที่จะทำงานหนักเพื่อท่านขอรับ”

องค์ชายใหญ่ฉินชงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเม้มริมฝีปากอีกครั้ง

“ตอนนี้ฉินเหยียนกำลังเป็นที่โปรดปราน หากเราไม่รีบกำจัดเขา เราก็ไม่อาจป้องกันเรื่องที่เขาจะก่อขึ้นหลังจากนี้ได้”

เสนาบดีกรมอาญาเข้าใจในทันที องค์ชายสิบสี่ที่ตัวคนเดียว ไม่มีพรรคพวก ไม่มีการสนับสนุนจากบรรดาขุนนาง จะจัดการเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงกล่าวว่า

“หากองค์ชายใหญ่รู้สึกว่าเขาขวางหูขวางตาแล้วจริงๆ ข้าจะกลับไปที่กรมอาญาในคืนนี้เพื่อจับจุดอ่อน พรุ่งนี้เช้าจะร่วมมือเจรจากับกรมอื่น หาทางลงโทษเขา ทำให้เขาหายไปจากสายตาท่านในทันทีขอรับ!”

องค์ชายใหญ่ฉินชงยิ้มยกมุมปากเล็กน้อย ยกแก้วเหล้าขึ้นมาพลางพูดว่า

“ท่านเสนาบดีกรมอาญาคิดได้รอบคอบเสียจริง เช่นนั้นข้าต้องขอบใจในน้ำใจของท่าน”

เสนาบดีกรมอาญายกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วตอบว่า

“ขอบพระทัยองค์ชายใหญ่ที่ไว้ใจข้า”

แผนลับของทั้งสองคน ต้าหย่งที่อยู่ห้องข้างๆ ได้ยินจนหมดแล้ว

...

อีกด้านหนึ่ง

ฉินเหยียนกวักมือเรียกจ้าวจีเอ๋อร์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์