องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 641

อาณาจักรสู่ อาณาจักรจ้าว และอาณาจักรฉิน ที่เขตพรมแดนของทั้งสามอาณาจักรนั้นเชื่อมต่อกัน ก่อนหน้านี้ทั้งสามอาณาจักรนั้นมีความแข็งแกร่งมาโดยตลอด ตอนนี้อาณาจักรจ้าวใกล้ล่มสลายแล้ว อาณาจักรสู่ก็ต้องรีบก้าวเข้ามา

สิ่งหนึ่งนั่นคือการเข้ามายึดครองชายแดนอาณาจักรจ้าว อย่างที่สองคือสำรวจพื้นที่อาณาจักรฉิน สิ่งที่อาณาจักรสู่กลัวมากที่สุดในตอนนี้คือหลังจากที่อาณาจักรฉินทำลายอาณาจักรจ้าวแล้ว อาณาจักรฉินต้องลอบโจมตีอาราจักรสู่ในทันที ดังนั้นจึงสามารถคิดหาวิธีการป้องกันก่อนได้

ในที่สุดแล้วอาณาจักรหลู่ที่มีชื่อเสียงด้านความเมตตาและชอบธรรม จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อแบ่งพื้นที่ในอาณาจักรจ้าว แต่เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้สร้างสันติภาพ จึงต้องพยายามเต็มที่เพื่อประนีประนอมกับความขัดแย้งะหว่างประเทศ

แม้แต่ฉินเหยียนที่เห็นท่าทีของอาณาจักรหลู่แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

“สมกับที่เป็นอาณาจักรที่มีชื่อเสียงด้านความเมตตาและคุณธรรมเสียจริง ได้รับชื่อเสียงเช่นนี้แต่กต่อหน้ากลับเป็นคนหน้าซื่อใจคด

หลังจากที่ฉินเหยียนอ่านข้อมูลทั้งหมดแล้ว ทูตจากอาณาจักรอื่นก็ค่อยๆ เปิดเผยความทะเยอทะยานของพวกเขาทีละคน หลังจากที่เข้าไปในพระราชวัง พวกเขาก็รออยู่ที่วัดหงหลูแล้ว

ทำให้วัดหงหลูที่ถูกทิ้งร้างกลับมามีชีวิตขึ้นทันที

เมื่ออาณาจักรใหญ่ๆ ต่างมารวมตัวกัน ทำให้หลีกเลี่ยงเรื่องการเหน็บแนมและซ้ำเติมไม่ได้เลย อีกทั้งยังบอกได้เลยว่าใครแข็งแกร่ง ใครอ่อนแอ ใครกำลังอ้อมค้อม ใครกำลังแอบวางแผน

โชคดีที่ฉินเหยียนได้ปลอมตัวเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่กรมการต่างประเทศ พวกขุนนางเหล่านี้ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา หลังจากทูตอาณาจักรต่างๆ ได้มาพบเขาแล้ว ลำดับต่อไปคือการเข้าพบอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน

ทุกคนต้องการพบผู้ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งแห่งราชวงศ์ฉิน

ต้าหย่งถูกผลักไปด้านหน้า เขาต้องพบทูตเหล่านี้ทีละคน

คนแรกเป็นทูตจากอาณาจักรสู่ มีชื่อว่าจูเก๋ออู่โหว เป็นทายาทของอัครเสนาบดีแห่งอาณาจักรสู่

“เข้าเฝ้าอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ”

จูเก๋ออู่โหวโค้งคำนับให้ต้าหย่ง จากนั้นมองต้าหย่งด้วยสายตาอวดดี

“แค่กๆ นั่งลงสิ”

หลังจากที่จูเก๋ออู๋โหวนั่งลงแล้ว เขาก็พูดชมอ๋องเหยียน จากนั้นเริ่มพูดจาไร้สาระ ถามอาณาจักรฉินว่าเขามมีแผนการอะไรหลังจากที่ยึดชายแดนอาณาจักรจ้าวได้

ต้าหย่งได้รับคำแนะนำจากฉินเหยียนว่าให้นิ่งไว้ ไม่ต้องตอบอะไรมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดพลาด

ฉินเหยียนได้เตรียมกระบวนการทั้งหมดแล้ว ตอบคำถามแทนต้าหย่งเป็นครั้งคราว อีกทั้งยังช่วยชีวิตเขาไว้หลายต่อหลายครั้ง เพื่อรักษาหน้าตาของอาณาจักรฉินเอาไว้

แอบลองถามไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการ จูเก๋ออู่โหวก็ไม่ท้อแท้ เขากลับสนใจฉินเหยียนมากขึ้น

“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้าได้ยินเสมอว่าคนในอาณาจักรฉินนั้นมีความโดดเด่น มีความสามารถ ข้าไม่เคยเชื่อเรื่องนี้มาก่อน วันนี้ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เชื่อแล้วว่าเป็นเรื่องจริง”

“เฉิงอาหนิวเป็นคนมีความสามารถ นิสัยไม่เหมือนใคร ในความคิดข้า อนาคตของเจ้าต้องต้องเป็นใหญ่เป็นโตแน่นอน”

ฉินเหยียนขอบคุณเขา และทั้งสองฝ่ายต่างบอกลากัน

จากนั้นทูตอาณาจักรอู๋และอาณาจักรเยว่ต่างเดินขึ้นหน้ามาพร้อมกัน พวกเขาใช้ความสุภาพแต่แท้จริงแล้วคือพิษร้าย ในที่สุดเขาแสดงความตั้งใจที่จะทำธุรกิจกับอาณาจักรฉิน เพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่พวกเขาไม่มี

ซือหม่าจี๋หันหลังกลับ ก่อนกลับยังพูดทิ้งประโยคหนึ่งเอาไว้ก่อนออกไปว่า

“พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก ฝนตกทางทิศตะวันตก ไม่มีความสใสแต่กลับมีอยู่”

ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา ฉินเหยียนตระหนักได้ในทันที

“จ้าวจือหย่า!”

ฉินเหยียนหยิบจดหมายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเปิดอ่าน เห็นว่าจดหมายนั้นจ้าวจือหย่าไม่ใช่คนเขียน แต่เป็นจ้าวเหวินเซิง

เนื้อหาถูกเขียนเพียงแค่สั้นๆ เพื่อขอบคุณอ๋องเหยียนที่ดูแลลูกสาวตัวน้อยของเขาในยามวิกฤต

แต่ท้ายที่สุดแล้วลูกสาวไม่อาจอยู่กับเขาได้ อ๋องเหยียนต้องการตัวลูกสาว อีกทั้งยังขโมยหัวใจลูกสาวไป การนัดหมายอีกสามปียังเหลืออยู่หนึ่งปี รีบทำตามสัญญาให้ไวที่สุด อย่าปล่อยให้ลูกสาวที่สวยงามต้องรอนานนัก

จดหมายฉบับนี้เตือนฉินเหยียนให้นึกถึงหญิงที่อยู่ในใจเขาขึ้นมาทันที เมื่อตอนที่เขาข้ามทะลุมิติมา มีหญิงสาวที่สง่างามและมีความสามารถอยู่เคียงข้างเขา นางจดจำทุกรายละเอียดของฉินเหยียนได้และดูแลอย่างดี

“เอ่อ จือหย่า เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

ตอนที่ยังจำไม่ได้ถือว่าไม่เป็นไร แต่เมื่อเขานึกถึงมาได้ใจฉินเหยียนพลันเต้นรัว

หากไม่ใช่เพราะอาณาจักรจ้าว เขาคงไม่มีทางจากไป เกรงว่าเขาต้องรีบเดินทางไปยังอาณาจักรหลู่ทันที ข้ามน้ำข้ามทะเลไปแต่งงานกับจ้าวจือหย่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์