วันรุ่งขึ้น
บนโต๊ะเจรจา
เนื่องจากเป็นเพราะเมื่อคืนฉินเหยียนเข้าไปแทรกกลางและยุยง การประชุมในวันนี้ แม่ทัพกัวฮวายแห่งอาณาจักรเยี่ยนมุ่งเป้าไปที่ซือหม่าจี๋แห่งอาณาจักรหลู่ตลอดการเจรจา
อาณาจักรหลู่ปกครองด้วยศีลธรรมมาโดยตลอด ศีลธรรมที่แพร่กระจายไปทั่วอาณาจักร คนทั้งอาณาจักรให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมมากกว่าทางการทหาร แต่อย่าคิดว่าพวกเขาอ่อนแอ
ศึกไม่หน่ายเล่ห์ พวกเขาล้วนเป็นนักยุทธศาสตร์และเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการต่อสู้ ในเก้าแคว้น เจ็ดอาณาจักร พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างทรงพลังและแข็งแกร่ง
แม้ว่าชาวอาณาจักรหลู่จะมีศีลธรรมและเป็นสุภาพชน เน้นการเจรจาก่อนทำสงคราม เมื่อใช้เหตุผลพูดคุยกันไม่ได้แล้ว การทหารก็ต้องเข้ามาแทนที่
ภายใต้ปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าของกัวฮวาย ซือหม่าจี๋นักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่แก่งอาณาจักรหลู่นั่นโกรธมาก จนสูญเสียศีลธรรมถึงกับชี้ไปที่หน้าของกัวฮวายในทันที
กัวฮวายเป็นนักรบและมีอาณมณ์ฉุนเฉียว เมื่อมีคนมาชี้หน้าเขา เขาเองก็ทนไม่ไหว อดไม่ได้ที่จะพูดทำให้ซือหม่าจี๋ต้องหน้าเสีย
การต่อสู้ในครั้งนี้ยอดเยี่ยมมาก ถือเป็นการช่วยชีวิตอาณาจักรจ้าวที่อ่อนแอเอาไว้ได้ ปล่อยให้ความขัดแย้งระหว่างอาณาจักรเยี่ยนและอาณาจักรหลู่พัฒนาไปจนถึงขั้นเกิดสงคราม
ทุกคนบนโต๊ะเจรจาต่างตกใจ ยกเว้นฉินเหยียน
ทั้งสองอาณาจักรนี้เหตุใดต้องทะเลาะกันถึงขนาดนี้
ทำให้การเจรจาไม่ราบรื่น
ในช่วงเย็น ฉินเหยียนไปพบซือหม่าจี๋แห่งอาณาจักรหลู่เป็นการส่วนตัว
“พี่ซือหม่า เรื่องในวันนี้ ทำให้ท่านต้องลำบากเอาเสียแล้ว”
แม้ว่าซือหม่าจี๋จะยังรู้สึกขุ่นเคืองในใจ แต่เขาไม่อยากโกรธใครเลย เขายังคงรักษาท่าทีที่สุภาพและเชิญให้ฉินเหยียนนั่งลง
“อาณาจักรหลู่และอาณาจักรเยี่ยนมีความขัดแย้งมากมายและขัดแย้งกันมาโดยตลอด ทำให้คนอื่นต้องหัวเราะเยาะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”
ฉินเหยียนเริ่มใช้แผนหลอกล่ออีกครั้ง
“ในความคิดของข้า จุดประสงค์ที่อาณาจักรเยี่ยนมาเยือนในครั้งนี้ ฉากหน้าเป็นเพราะอาณาจักรจ้าว แต่จริงๆ แล้ว จุดประสงค์หลักคือเพื่ออาณาจักรเยี่ยนเองต่างหาก”
“อ้อ”
ซือหม่าจี๋รู้สึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อย
ฉินเหยียนพูดต่อ
“กัวฮวายแห่งอาณาจักรเยี่ยน เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของความทะเยอทะยาน หากเขาได้เปรียบกว่าอาณาจักรจ้าว กลับไปเขาต้องมีอำนาจสูงกลบนาย คิดแงชิงบัลลังก์อย่างแน่นอน”
“แต่อาณาจักรหลู่ยืนกรานว่าจะเป็นฝ่ายสร้างสันติและขัดขวางเส้นทางของอาณาจักรกัวฮวาย ข้าเกรงว่าเขาจะมุ่งความสนใจมาโจมตีอาณาจักรหลู่ของท่าน”
“เฮอะ”
ซือหม่าจี๋พัดพัดขนนกในมืออย่างพอใจ
“ข้ากลัวเขา หากถือว่าอาณาจักรเยี่ยนและอาณาจักรอู๋รวมกองกำลังเข้ามาโจมตี อาณาจักรหลู่ของข้าไม่มีวันกลัว ข้ามีความมั่นใจนี้เป็นอย่างมาก”
ฉินเหยียนเลิกคิ้ว เก่งมาก กล้าอวดดีต่อหน้าข้า เจ้ารอข้าก่อน
อันที่จริงเดิมทีในตอนแรกฉินเหยียนต้องการแค่อยากให้อาณาจักรเยี่ยนและอาณาจักรหลู่เผชิญปัญหา ซือหม่าจี๋อวดดีเสียเหลือเกิน มีความมั่นใจมาก อวดดีขนาดนี้ ทำให้ฉินเหยียนอดไม่ได้ที่จะอยากจัดการเขา
หลังจากล้มเหลวในการหลอกล่อซือหม่าจี๋ เขาก็หันหลังกลับไปหาอาณาจักรอู๋ เพื่อเข้าพบอัครเสนาบดีแห่งอาณาจักรอู๋ อวี่จื่อหมิง
"พี่จื่อหมิง ดึกดื่นเช่นนี้แล้วยังไม่นอนอีกหรือ?”
ฉินเหยียนเริ่มหลอกล่ออวี๋จื่อหมิงอีกครั้ง
“วันนี้คงได้เห็นการเจรจาระหว่างวันแล้ว พวกเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...