องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 68

หลังจากที่ดื่มไปสามแก้ว อาหารมาส่งถึงห้าครั้งแล้วนั้น

ฉินเหยียนมองไปที่ต้าจ้วงและต้าหย่งที่อยู่ชั้นหนึ่งจากทางหน้าต่าง

ทั้งสองพยักหน้าเล็กน้อยไปทางฉินเหยียน

สีหน้าฉินเหยียนเต็มไปด้วยความสนใจ และพูดกับจ้าวจีเอ๋อร์ว่า

“ไปกับข้าเถอะนางทาส วันนี้เจ้าเป็นตัวหลักเชียวนะ”

หลังจากพูดประโยคนี้ เขาก็เดินไปข้างหน้าโดยมีจ้าวจือหย่าในอ้อมแขน ตามด้วยทหารชั้นดีสี่คนที่คอยคุมจ้าวจีเอ๋อร์ที่ไม่พอใจอยู่ด้านหลัง

หลังจากมาถึงชั้นหนึ่ง ฉินเหยียนปรบมือเสียงดังและประกาศว่า

“ทุกคน ได้โปรดเงียบ! วันนี้ข้ามีของเล่นใหม่มาให้พวกเจ้าได้เล่นกัน!”

พูดได้ว่าเสียงนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน ทำให้เสียงแขกที่อยู่ชั้นหนึ่งและชั้นสองเงียบลงในทันที ทุกคนต่างมองไปยังห้องโถง

ฉินเหยียนมีรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า ลากจ้าวจีเอ๋อร์มาที่กลางห้องโถง

จ้าวจีเอ๋อร์มองไปที่เขา

“เจ้าคิดจะทำอะไร?”

“แน่นอนว่าให้ทุกคนในที่นี้ได้ชื่นชมความงามขององค์หญิงแห่งอาณาจักรจ้าวน่ะสิ!”

ฉินเหยียนเชยคางนางขึ้นมา

“อย่ามาแตะต้องข้า!”

จ้าวจีเอ๋อร์พยายามต่อต้าน

เมื่อทุกคนในหออี๋หงเห็นฉากนี้ ม่านตาของเขาหดเล็กลงในทันที สีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้น

จ้าวจีเอ๋อร์พยายามดิ้นรนเพื่อหนีเอาตัวรอด จ้องไปที่ฉินเหยียนด้วยสายตาโกรธจัดและพูดสาปแช่งว่า

“ไอ้สารเลว เจ้ามันเสียสติไปแล้ว!”

ฉินเหยียนไม่สนใจคำพูดดูถูกของนาง แต่กลับพูดเสียงดังว่า

“ใครที่ผ่านมาทางนี้อย่าพลาดล่ะ ลำดับต่อไปจะขอเชิญองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าว หญิงที่งดงามดุจนางฟ้าและสวยสง่าที่สุดในใต้หล้า จ้าวจีเอ๋อร์! ขึ้นมาเต้นรำให้พวกเราได้ชมกันสักหนึ่งบทเพลง! ขอเสียงปรบมือต้อนรับด้วย!”

ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกไป สีหน้าของเจ้าหน้าที่รับแขก หญิงรับใช้ และนางโลมในหออี๋หงพากันทำสีหน้าไม่พอใจ และขยับตัวเข้ามาใกล้มากขึ้น

จ้าวจีเอ๋อร์หลายใจหนักขึ้นเรื่อยๆ ในใจเต็มไปด้วยความโกรธและละอายใจ

ไอ้สารเลวฉินเหยียน ให้ข้าที่เป็นถึงองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวขึ้นไปเต้นรำต่อหน้าคนจำนวนมากในหอโคมเขียว นี่ตั้งใจทำให้ข้าอับอายชัดๆ!

ภาพเหตุการณ์นี้องค์ชายใหญ่ฉินชงและเสนาบดีกรมอาญาที่อยู่ในห้องท้องฟ้าหมายเลขหนึ่งก็เห็นด้วยเช่นกัน

องค์ชายใหญ่ฉินชงขยี้ตาเพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาเห็นถูกต้อง และถามอย่างสงสัยว่า

“เหตุใดเจ้าสิบสี่ถึงได้พาตัวองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวมาที่แบบนี้ได้?”

เสนาบดีกรมอาญาเองก็ไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย ฉินเหยียนมีแผนการอะไรอยู่ เขาได้แต่คิดและขมวดคิ้วแน่น

“กระหม่อมเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันขอรับ แต่ถ้าองค์ชายสิบสี่ทำให้องค์หญิงจ้าวต้องอับอายต่อหน้าผู้คน เช่นนี้จะไม่เป็นการทำลายภาพลักษณ์ของราชวงศ์หรือ?”

หลังจากได้ยินคำเตือนของเสนาบดีกรมอาญาแล้ว สายตาของฉินชงพลันเป็นประกาย

“เพียงแค่ล้มตัวลงนอน ก็มีคนส่งหมอนเข้ามาให้มิใช่หรือ?”

ในขณะที่กำลังคิดวิธีว่าจะจัดการเขาอย่างไรอยู่นั้น ผลกลับเป็นการฆ่าตัวเขาเอง

“ข้าดูแล้ววันนี้คงเป็นวันตายของเจ้าสิบสี่!”

“ไป พวกเราลงไปจับเขากันเถิด!”

...

แขกให้ห้องพื้นดินหมายเลขสองที่อยู่ชั้นสองต่างมองลงมา เมื่อเห็นว่าจ้าวจีเอ๋อร์ถูกทำให้อับอายเช่นนี้ ต่างโกรธแค้นจนกำหมัดแน่น

องค์หญิงสามที่เป็นดั่งสมบัติของอาณาจักรกำลังถูกองค์ชายฉินรังแก ทำให้อับอายเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่อาจทนได้!

“ปรบมือ ปรบมือสิ!”

ฉินเหยียนตะโกนเสียงดัง ทำให้แขกทั้งหมดต่างพากับปรบมือ

ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ!

“ปรบมือ ปรบมือให้จบๆ ไปก่อนเถอะ”

หลังจากส่งสัญญาณกันแล้ว ทุกคนต่างพากันปรบมือ

แต่ส่วนใหญ่ต่างสื่อสารกันด้วยวิธีการส่งสัญญาณลับ

“รอสัญญาณแก้วแตก ภักดีต่ออาณาจักรจ้าวตลอดไป!”

“รับทราบ!”

บริกรย่องเข้าไปในห้องหมายเลขสาม หมุนแจกันที่อยู่ข้างเตียงทั้งซ้ายและขวา ปรากฎว่ามีอาวุธมากมายซ่อนอยู่ในช่องลับนั้น

บริกรรีบเก็บอาวุธไว้กับตัวอย่างรวดเร็ว และกำลังนำอาวุธเหล่านั้นออกไปแจกจ่ายให้กับบรรดาทหารหน่วยกล้าตายอีกหลายชีวิตที่อยู่ด้านนอก

แต่กลับไม่รู้ตัว ตอนที่จะก้าวออกไปข้างนอกนั้น

“พลั่ก”

บริกรคนนั้นถูกกระแทกลงไปกับพื้น

ต้าจ้วงมองไปรอบๆ และทหารชั้นดีก็ลากตัวบริกรคนนั้นกลับเข้าไปในห้องส่วนตัว จากนั้นปิดประตู

...

ห้องโถงชั้นหนึ่ง

ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม

ฉินเหยียนตะโกนออกมาอย่างอวดดีว่า

“ทุกท่าน วันนี้ทุกท่านจะได้เห็นเป็นบุญตา ท่านนี้คือองค์หญิงสามที่งดงามดุจนางฟ้าแห่งอาณาจักรจ้าวตามที่เล่าขานกันมา ได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่สวยที่สุดในใต้หล้านี้!”

ในขณะที่พูด เขาบีบคางของนางและพูดว่า

“ตอนนี้ องค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวที่งดงามที่สุดในใต้หล้าผู้นี้ พ่ายแพ้ให้กับข้า ทำให้ต้องกลายเป็นนางทาสของข้าแทน!”

“ถุย!”

จ้าวจีเอ๋อร์ถมน้ำลายใส่หน้าฉินเหยียน

“ไอหย่า ข้าชอบที่เจ้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้เสียจริงๆ!”

ฉินเหยียนเช็ดหน้าเขา พูดอย่างเมินเฉยว่า

“เหตุใดถึงต้องโกรธมากขนาดนี้เล่า เป็นแค่นางทาสของข้าก็แค่เรียนรู้ที่จะเชื่อฟังข้า ทำไมเจ้าถึงไม่เข้าใจเรื่องนี้ล่ะ?”

จ้าวจีเอ๋อร์โกรธจนต้องกัดฟันพูดว่า

“ให้ข้ายอมรับและเชื่อฟังเจ้า ฝันไปเถอะ!”

ฉินเหยียนหัวเราะ

“ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อฟังข้า ข้าทำได้เพียงแค่ใช้วิธีการบางอย่างเท่านั้น!”

ขณะที่เขาพูด เขาก็เพิ่มแรงในมือของเขามากขึ้น

ในเวลานี้

“ฉินเหยียน เจ้าบังอาจมาก!”

องค์ชายใหญ่ฉินชงและเสนาบดีกรมอาญามุดตัวเข้าไปในฝูงชน เมื่อเห็นฉินเหยียนทำให้องค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวต้องอับอาย เขาก็เบียดตัวและผลักคนแถวนั้นออกไปให้พ้นทางในทันที และชี้นิ้วไปที่ฉินเหยียนและด่าว่าเสียงดัง

ฉินเหยียนมองไปตามทางของเวียง เห็นองค์ชายใหญ่ฉินชงพร้อมกับเสนาบดีกรมอาญาที่อยู่ด้านข้าง เขาแสร้งทำเป็นแปลกใจและพูดว่า

“โอ้ พี่ใหญ่ พี่อยู่ที่นี่ด้วยหรือ บังเอิญเสียจริง? มาที่นี่เพื่อดื่มด่ำความสนุกในหอโคมเขียวใช่หรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์